ผู้ถือหุ้น BFIT ไฟเขียวขายหุ้น 12.78 บาท ตามข้อเสนอฟินันซ่า แบบไร้เสียงค้าน
ด้านบิ๊กฟินันซ่า ขอ มติ ยกฐานะเป็นแบงก์รอท่าไว้ พร้อมปรับแผนใหม่ให้ "ฟินันซ่า"
เป็นแกนควบรวมยกฐานะขึ้นเป็นยูนิเวอร์แซลแบงก์ สมดังใจ รอเพียงแบงก์ชาติอนุมัติ
ส่วน "บิ๊กกมล เอี้ยวศิวิกูล" ยอมรับถือหุ้น FNS 1 ล้านหุ้นจริง
วานนี้ (8 มี.ค.) ที่ประชุมผู้ถือ หุ้นของบริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน)
(BFIT) และบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS) ได้อนุมัติแผนการดำเนินการควบรวมกิจการเพื่อยกฐานะขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้น BFIT ตกลงขายหุ้นเพิ่มทุน แบบเฉพาะเจาะจงให้กับ FNS ในราคา
12.78 บาท จำนวน 99.9 ล้านหุ้น จากนั้น BFIT เตรียมดำเนินการเข้าซื้อหุ้น บง.ฟินันซ่า
จำกัด 9.017 ล้านหุ้นในราคา 76.19 บาท รวม 687 ล้านบาท ซึ่งต้องรอธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) อนุมัติ ยกฟินันซ่าเป็นแกนนำ
นายวราห์ สุจริตกุล กรรม การ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS) เปิดเผยก่อนที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ
BFIT จะตกลงขายหุ้นในราคา 12.78 บาท ว่านโยบายของ บริษัทยังดำเนินการที่จะยกระดับขึ้นเป็นแบงก์พาณิชย์ต่อไป
โดยได้วางแนวทางหลายแนวทางที่จะดำเนินการไว้แล้ว ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้วเช่นกัน
และในขณะเดียวกันได้มีการเจรจากับบริษัทเงินทุนอีก 2 แห่งที่จะนำมาควบรวม และอาจให้บง.ฟินันซ่า
ขึ้นเป็นแกนนำยกฐานะขึ้นแบงก์พาณิชย์
เพราะการที่บง.ฟินันซ่าจะเป็นแกนนำ หรือจะให้บง.กรุงเทพธนาทรเป็นแกนนำในการจัดตั้งไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด
เพราะสุดท้ายทั้ง 2 บริษัทก็ต้องควบรวมกัน "แนวทางเดิมที่จะใช้ BFIT เป็นแกนนำ
โดยจะต้องเป็นราคาหุ้นละ 12.78 บาทตามที่บริษัทฟินันซ่าเสนอ แต่ถ้าผู้ถือหุ้น BFIT
ให้ความเห็นชอบที่จะขายหุ้นในราคาหุ้นละ 17 บาทบริษัทฟินันซ่าก็จะไม่เข้าซื้อ และยกเลิกการควบรวมกิจการ
กับ BFIT"
นายวราห์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆ คงไม่มีปัญหา ทั้งในแง่ของทุนก็เชื่อว่าจะสามารถทำได้ในระดับ
5,000 ล้านบาทตามที่ ธปท.กำหนดไว้ ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ได้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าธปท.ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบง.กรุงเทพธนาทร
ที่ใช้เป็นแกนนำในการเป็นธนาคารพาณิชย์มีปัญหานั้น บริษัทได้มีการสอบถามไปยัง ธปท.
เช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ธปท.ก็ยังไม่ได้ระบุว่าบริษัทมีปัญหาแต่อย่างใด ดังนั้น
การยกระดับขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ก็ยังดำเนินการ ต่อไปเช่นเดิม
สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น FNS วานนี้ (8 มี.ค.) ได้อนุมัติแผนควบรวมกิจการเพื่อยกฐานะเป็นแบงก์พาณิชย์
โดยนายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
การที่แผนควบรวมกิจการของทั้งบริษัทได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายเราถือว่าเป็นขั้นแรกของกระบวนการยกระดับ
BFIT ธนาคารพาณิชย์ จากนี้ไปเราจะเริ่มจัดทำแผนธุรกิจอย่างละเอียดของ BFIT โดยจะมีเนื้อหาขอบข่ายการดำเนินงานในฐานะที่จะเป็นแบงก์พาณิชย์ในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น FNS ยังได้อนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนไม่เกิน 80
ล้านหุ้นหรือ 26-27%เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับบริษัทคอม-ลิงค์
เพื่อที่จะให้เข้ามาถือหุ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย เพราะจะต้องรอผลการเข้าไปถือหุ้นใน
บง. กรุงเทพ ธนาทรเสียก่อนว่าจะเป็นอย่างไร โดยอาจ จะหาพันธมิตรรายอื่นเพิ่มนอกเหนือจากคอม-ลิงค์เข้ามาถือหุ้น
ซึ่งจะต้องมีคุณลักษณะที่สามารถช่วยในแง่ของแหล่งเงินทุนและในด้านของเทคโนโลยี
ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในวันที่ 27 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นวันที่มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
เพื่อที่จะได้ชี้แจงให้แก่ผู้ถือหุ้นได้รับทราบต่อไป
ผ่านฉลุย BFITขาย 12.78 บาท
นายไพศาล ศรีจรัสจรรยา ประธานกรรมการ บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า การประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ ครั้งที่ 1/2547 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ
บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) บริษัทจะต้องทำการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่
บ.ฟินันซ่า จำนวน 99,900,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (คิดเป็นร้อยละ 49.97 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุน
) ในราคาหุ้นละ 12.78 บาท ( รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,276,722,000 บาท )
โดยในวาระการประชุมดังกล่าวได้มีการลงคะแนนเสียงเพื่อลงมติอนุมัติการขายหุ้น
เนื่องจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการ BFIT พิจารณาแล้วเห็นว่าราคาเสนอขายหุ้นควรเป็นหุ้นละ
17 บาท เป็นมูลค่าตามบัญชีที่ปรับปรุงแล้ว คำนวณจากงบการเงินงวด ณ วันที่ 31 ธ.ค.46
ที่ยังไม่มิได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ซึ่งในที่สุดผู้ถือหุ้นจำนวน 66,613,003
เสียง คิดเป็น 99.84% เห็นด้วยตามข้อเสนอของ FNS
ส่วนผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการที่เสนอขายหุ้นละ 17 บาท มีจำนวน
54,393 เสียง คิดเป็น 0.08% ส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับใครเลยมี 400 เสียง คิดเป็น 0.00%
นอกนั้นงดออกเสียง 53,301 เสียง คิดเป็น 0.08% รวมคะแนนเสียง 66,721,097 เสียง
คิดเป็น 100.00%
นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นในบง. ฟินันซ่า จำกัด
จำนวน 9,017,994 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 99.97 ของหุ้นทั้งหมดของบง. ฟินันซ่า ) ในราคาหุ้นละ
76.19 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 687.08 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอของ บ.
ฟินันซ่า เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่สอดคล้องกับแผนแม่บทพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ต้องการให้สถาบันการเงินไทยที่มีศักยภาพพัฒนาเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ
ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งบริษัทและผู้ถือหุ้น เพื่อแผนการพัฒนาสถานภาพของบริษัทเป็นธนาคาร
พาณิชย์
ไม่ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
นายไพศาลกล่าวถึงกรณีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บีฟิท คือไชน่าแบงก์ (CDIB) ที่ได้ทำการขายหุ้น
49.5 % ของหุ้นทั้งหมดให้แก่ กลุ่มบุคคล จำนวน 10 คน (ตามที่ปรากฏข่าวคือ กลุ่มคอม-ลิงค์)
เป็นการขายออกมาในช่วงเวลาเดียวกับธนาคารกรุงเทพ ที่ถือหุ้นอยู่ประมาน 20% ซึ่งผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องทำ
tender offer เนื่องจากทุกรายซื้อหุ้นไม่เกินจำนวน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของบีฟิท
เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต้องมีการจัดตั้งคณะกรรม การบริหารกลุ่มใหม่
โดยจะมีการพิจารณาในการประชุมสามัญประจำปี ที่จะมีขึ้นประมานกลางเดือน เม.ย.นี้
หลังจากนั้นคณะกรรมการชุดใหม่จะต้องขออนุมัติเพื่อทำแผนต่อ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันกำหนดเดิมคือ
ก.ค. นี้แน่นอน ส่วนการที่จะให้ บง.บีฟิท หรือ บง.ฟินันซ่าเป็นแกนในการควบรวมเพื่อเป็นธนาคารพาณิชย์นั้น
สามารถทำได้ทั้งสองทางขึ้นอยู่กับการตกลงของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้จะมีความกระจ่างเมื่อมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แล้วเสร็จ
ดีเลย์ตั้งบลจ.FNS
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟินันซ่า เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นขอจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
(บลจ.) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แล้ว และที่ผ่านมา
ก.ล.ต.ได้เรียกไปสัมภาษณ์แล้ว แต่ได้ขอระงับไว้ก่อน เนื่องจากจะต้องรอการเข้าไปถือหุ้นในบง.กรุงเทพธนาทร
ซึ่งถ้าบริษัทสามารถตกลงราคาหุ้นที่จะเข้าไปซื้อได้ จะทำให้บริษัทฟินันซ่าเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน
บง.กรุงเทพธนาทร ดังนั้นอาจจะเข้าไปดูแลบลจ.กรุงเทพธนาทรที่จัดตั้งไว้แล้วแทน แต่ถ้าไม่สามารถตกลงกับบง.กรุงเทพธนาทรได้
ก็จะดำเนินการจัดตั้ง บลจ.เอง
"บริษัทไม่ต้องการที่จะมีบลจ.ถึง 2 ราย ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาจึงได้ขอระงับกับสำนักงาน
ก.ล.ต.ไว้ก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นในบง.กรุงเทพธนาทรว่าจะเป็นอย่างไร"
บิ๊กกมลรับถือ FNS ล้านหุ้น
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทฟินันซ่าที่มีนักลงทุนรายใหญ่เข้าถือหุ้นนั้นนายวรสิทธิ์กล่าวว่า
ในส่วนของนายทวีฉัตร จุฬางกูร ที่เข้ามาถือหุ้นนั้นไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว
แต่รู้ว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ส่วนกรณีที่นายกมล
เอี้ยวศิวิกูล เข้ามาถือหุ้นนั้นเป็นการถือตั้งแต่ช่วงที่เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป
ตอนที่เข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และนายกมลได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มในกระดาน
ซึ่งขณะนี้ถือหุ้นอยู่ประมาณ 1 ล้านหุ้น
ด้านนายกมล เอี้ยวศิวิกูล ผู้ถือหุ้นและ ผู้บริหารระดับสูงบริษัทไมด้า แอสเซท
จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันถือหุ้น FNS 1 ล้านหุ้นตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง