กบข. ส่งสัญญาณดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ภาวะขาขึ้น ปรับกลยุทธ์การลงทุน เพิ่มลงหุ้นเป็น
17-18% พร้อมเตรียมเงินลงทุนอีก 200 ล้านเหรียญ ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม
คาด ปีนี้ผลตอบแทนการลงทุนจากตลาดหลักทรัพย์หดเหลือแค่ 30% จากปีก่อนที่บริหารได้ถึง
130% แต่มั่นใจผลตอบแทนการลงทุนในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6%
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
เปิดเผยถึงแนวทางในการบริหารความเสี่ยงในการลงทุนในปี 2547 นี้เพื่อรับกระแสแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
รวมทั้งเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในปีนี้ กบข. มีแผนการลงทุนในตลาดหุ้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น
17-18% จากมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดกว่า 2.4 แสนล้านบาท
สำหรับสัดส่วนการลงทุนอีกราว 77-80% จะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ ที่เหลือจะเป็นการลงทุน
ในอสังหาริมทรัพย์ซึ่ง กบข. คาดว่าผลตอบแทนจาก การลงทุนในตลาดหุ้นในปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ
30% โดยการลงทุนส่วนใหญ่ กบข. จะลงทุนในกลุ่มธุรกิจ สถาบันการเงิน วัสดุก่อสร้าง
เทคโนโลยีสื่อสาร พลังงาน และขนส่ง รวมทั้งยังสนใจในกลุ่มหุ้นรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน
นายวิสิฐได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากขยายแผนการลงทุนในประเทศแล้ว กบข. ยังมีแผนที่จะนำเงินลงทุนไปยังต่างประเทศด้วยเช่นกัน
ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ในเบื้องต้น คาดว่าจะลงทุนครั้งแรกที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
และรัฐวิสาหกิจประเทศต่างๆ ทั่วโลก และจากการคาดคะเนแผนการลงทุน ในปีนี้เชื่อว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิก
กบข. ได้ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5-6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็น อัตราที่ กบข. กำหนดไว้ทุกปี
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่น่าจะมีปัจจัยอะไรมากระทบ
ทั้งนี้ การดำเนินงานของ กบข. ที่จะประสบผลสำเร็จได้ เนื่องจากได้รับการกำกับดูแลอย่าง
ใกล้ชิดจากคณะกรรมการ ในการปรับกลยุทธ์ การลงทุน และการจัดสรรการลงทุนที่เหมาะสม
สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งการทำงานร่วมกันเป็นทีมของเจ้าหน้าที่
กบข. ทุกคน
ก่อนหน้านี้ นายวิสิฐได้กล่าวถึง ตอบแทนจาก การลงทุนปี 2546 ว่า กบข.มีผลตอบแทนมากกว่า
21,800 ล้านบาทหรือคิดเป็นผลตอบแทนให้แก่สมาชิก 11.84% มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง
กบข. โดย ในปี 2542 มีผลตอบแทน 9.42%, ปี 2543 มี 6.41%, ปี 2544 มี 7.22% และในปี
2545 มี 8.21% ซึ่งผลตอบแทนที่สูงมากในปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งผลตอบแทนที่มากกว่า
21,800 ล้านบาทนั้นมาจากการลงทุนในหุ้นถึง 75%
อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นเดือน ธ.ค. 46 กบข. มีเงินกองทุน 238,393 ล้านบาทและในจำนวนนี้
เราได้ ลงทุนในหุ้นประมาณ 15% หรือคิดเป็นเงิน 37,000 ล้านบาทและมีกำไรสูงถึง 130%
ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตรา ดอกเบี้ยโดยรวมของตลาดอยู่ขาลง ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า