Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 มีนาคม 2547
ปี47แผ่นดินทองกำไรพุ่งเท่าตัวคุมต้นทุนเร่งตลาดบ้านพร้อมอยู่             
 


   
search resources

แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
ธงชัย คุณากรปรมัตถ์
เลียแค็ท สุลต่าน แดนจี้
Real Estate




แผ่นดินทองลุยโครงการเต็มที่ หวังเป้ารายได้จากการขายบ้านเดี่ยว 6,000 ล้านบาท ฟุ้งกำไรก่อนหักภาษี 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิดอีก 2 โครงการต้นปี 48 เล็งจ่ายเงินปันผลหลังงดจ่ายมา 5 ปี พร้อมศึกษาออกพันธบัตรเกือบ 2,000 ล้านบาทสิ้นปีนี้ หวังรีไฟแนนซ์หนี้สถาบันการเงิน

นายธงชัย คุณากรปรมัตถ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่าย พัฒนาธุรกิจ บริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) (GOLD)กล่าวว่า ใน ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท มาจากการประมาณการยอดขายของบ้านเดี่ยวที่คาดว่าจะมียอดขาย 6,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้ในปีนี้ได้ 4,000 ล้านบาท และเป็นรายได้จากค่าเช่าตึก อพาร์ตเมนต์ของบริษัทอีก 1,000 ล้าน บาท ทำให้กำไรก่อนหักภาษีของบริษัทในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2546 ที่มีกำไร 505 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100%

ในปีนี้บริษัทมีโครงการบ้านเดี่ยวที่จะเปิดใหม่ 5 โครงการ มีมูลค่าโครงการหากรวมกับโครงการบ้านศรีนครินทร์ ที่แยกมาพัฒนาออกเป็น 2 เฟส เท่ากับ 24,000 ล้านบาท โดยแยกการขายออกเป็นโครงการบ้านสาทร 2,000 ล้านบาท,บ้านปิ่นเกล้า 2,000 ล้านบาท บ้านศรีนครินทร์เฟสแรก 1,500 ล้านบาทและบ้านบางนา 500 ล้านบาท ส่วนกำไร(Gross profit margin) ของบริษัทในปีนี้จะสามารถรักษาอัตราเติบโตได้ระดับ 40% เนื่องจาก ที่ดินที่ใช้พัฒนาโครงการของบริษัทมีต้นทุนที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะด้านที่ดิน ที่บริษัทมีที่ดินเกือบ 1,300 ไร่ สามารถรองรับการพัฒนาโครงการได้ยาวถึง 5-7 ปี

"ในช่วง 2-3 ปีนี้บริษัทไม่มีแผนการที่จะเพิ่มทุน เพราะเราไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก และบริษัทมีที่ดินเกือบ 1,300 ไร่ หรือคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านบาท ที่เราทยอยซื้อเข้ามาในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สามารถสร้างบ้านได้อีกมาก และกำไรที่ได้ทำให้สามารถบริหารการลงทุนได้เพิ่มขึ้น" นายธงชัย กล่าว

ในส่วนนโยบายการจ่ายเงิน ปันผล นายธงชัย กล่าวว่า บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในผลประกอบการปี 2547 แต่จะเป็นเท่าไรขึ้นกับนโยบาย ของผู้ถือหุ้นและผลกระทบ โดยจะมีการประชุมในเดือนเม.ย.นี้ แต่สำหรับนโยบายในอดีตจะจ่ายในสัดส่วนประมาณ 30% ของกำไรของบริษัท ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผลมาเลย

สำหรับแผนการออกพันธบัตรนายธงชัย กล่าวว่า ในตามแผนที่วางไว้จะเริ่มในช่วงปลายปีนี้ และวงเงินที่จะออกระดมทุน 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนและเกือบ 60-70% นำไปชำระหนี้จากสถาบันการ เงินที่กู้มาพัฒนาโครงการประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท

"การระดมทุนช่วงนี้ไม่เหมาะเพราะดอกเบี้ยในตลาดแพงเกินไป และการออกบอนด์เพื่อรองรับพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนปีหน้า อายุ 3 ปี"

นายธงชัย กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ในการพัฒนาบ้านเดี่ยว ซึ่งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า สาทร บางนา-ตราด และศรีนครินทร์ และโครงการอื่นที่กำลังอยู่ระหว่างการ พิจารณา เช่น เนื้อที่ริมหาด 106 ไร่ที่จังหวัดกระบี่ และโครงการหรูเหนือ ระดับ โบโล เรสซิเดนซ์ ใกล้ถนนวิทยุ ซึ่งหากโครงการทั้งสองบรรลุวัตถุ-ประสงค์ในอีก 5-7 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 บริษัทมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยวอีก 2 โครงการและจะทำให้มูลค่าโครงการที่บริษัทบริหารอยู่เพิ่มเป็น 27,000 ล้านบาท

นายเลียแค็ท สุลต่าน แดนจี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าในปี 2546 บริษัทมีรายได้รวม 2,415.185 ล้านบาท เทียบกับปี 2545 มีรายได้รวม 1,573.711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.74% มีรายได้สุทธิก่อนการหักภาษีจากการดำเนินงาน 505.27 คิดเป็น 335% เมื่อเทียบกับปี 2545 และมีกำไรสุทธิก่อนการหักภาษี 505 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งมีผลประกอบการ 252 ล้านบาท

กำไรในปีนี้ต่างกับปีก่อนหน้านี้ ที่ผลกำไรก่อนหักภาษีครึ่งหนึ่ง มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งผลสำเร็จมาจากการที่โครงการบ้านเดี่ยวมีการฟื้นตัวขึ้น และการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านศูนย์กลาง ธุรกิจ และจากปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จากที่อยู่อาศัยในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ผ่านโครงการเดอะ แอสคอท สาทร คอนโดมิเนียมระดับ 5 ดาว ซึ่งมีการเปิดให้จองในช่วงพรีเซลล์ และมีโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 จะออกสู่ตลาดในปีนี้ ประกอบกับมีการนำระบบการอนุมัติ วงเงินกู้สำหรับการซื้อบ้านก่อนทำสัญญา และการใช้บัญชี ESCROW มาใช้เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาดและสร้างความมั่นใจต่อผู้ลงทุน และผู้บริโภค

นายธงชัย กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ปริมาณบ้านเดี่ยวที่ออกสู่ตลาดปีละ 70,000-80,000 หน่วย ยังไม่ถึงขั้นวิตก หากเทียบกับช่วงที่มีสินค้าออกสู่ตลาดปีละ 160,000 หน่วย ตรงนี้จะเรียกได้ว่าอันตราย และแนวโน้มของตลาด ผู้ประกอบการได้หันมาเล่นบ้านเดี่ยวระดับกลางและล่างเพิ่มมาก ขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us