ผู้นำ VS ผู้จัดการ
Roy Williams และ Terrence Deal ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความเป็นผู้นำชี้ว่า
ผู้นำกับผู้จัดการเป็น 2 ขั้วตรงข้ามกันของงานบริหารจัดการ โดยในขณะที่งานของผู้จัดการต้องใช้ความมีเหตุมีผล
การวิเคราะห์ และความถูกต้องชัดเจน แต่งานของผู้นำกลับอิงอยู่กับคุณค่าที่อยู่ลึกภายในอย่างความรัก
(ในงาน) ความกระตือรือร้น และกำลังใจ
ดังนั้นผู้นำและผู้จัดการจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและร่วมมือกัน
จึงจะสามารถนำพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จได้ โดยก่อนอื่นผู้นำและผู้จัดการจะต้องศึกษากันและกัน
จนรู้จักสไตล์การทำงานของแต่ละฝ่ายให้ดีเสียก่อน ซึ่งผู้แต่งก็ชี้ว่า รูปแบบความเป็นผู้นำของทั้งผู้นำและผู้จัดการมีอยู่ด้วยกัน
4 แบบคือ แบบเหตุผลนิยม ผลประโยชน์นิยม มนุษย์นิยม และวัฒนธรรมนิยม
ความถูกต้องชัดเจนกับความรัก
ผู้แต่งอธิบายว่า เมื่อผู้นำและผู้จัดการต่างศึกษาสไตล์การทำงานของกันและกันจนรู้จักกันดีแล้ว
ก็จะต้องยอมรับในความตึงเครียดที่จะต้องมีอยู่ตามธรรมชาติในความสัมพันธ์ระหว่างกัน
อันเนื่องมาจากการที่มีสถานะเป็นขั้วตรงข้ามกันในกระบวนการบริหารจัดการดังกล่าวข้างต้น
ด้วยการตระหนักถึงความตึงเครียดนี้ จะทำให้ผู้นำและผู้จัดการสามารถแสวงหาจุดสมดุลในความสัมพันธ์ที่มีต่อกันได้
และสามารถจะร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์และราบรื่น
ผู้แต่งได้นำทฤษฎีจิตวิทยาของ Jung นักจิตวิทยาชื่อดัง และดัชนีชี้วัดบุคลิกภาพของ
Myers-Briggs Type Indicator รวมทั้งแนวคิดต่างๆ ด้านพฤติกรรมองค์กรและจิตวิทยาการรับรู้
มาสร้างเป็นทฤษฎีหรือสูตรใหม่ ที่จะช่วยให้ผู้นำและผู้จัดการสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเองได้
โดยปราศจากความขัดแย้งกัน
ผู้แต่งชี้ต่อไปว่า ยิ่งคุณสามารถยอมรับความแตกต่างของอีกฝ่ายได้ดีเท่าไร
ก็ยิ่งแสดงถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านส่วนตัวและในการทำงานของคุณมากเท่านั้น
และการจับมือกันระหว่างผู้นำกับผู้จัดการคือการนำเอาข้อดีของทั้ง 2 ฝ่าย
คือความมีเหตุผล ความสามารถในการวิเคราะห์ และการยึดมั่นในความถูกต้องชัดเจนของผู้จัดการ
มารวมกับการมีความรัก (ในงาน) ความกระตือรือร้น และกำลังใจของผู้นำ
ผู้แต่งได้ยกตัวอย่างผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมอเมริกันหลายสิบคน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจกับบุคลิกภาพของผู้นำแบบต่างๆ
ได้อย่างชัดเจนขึ้น ก่อนที่จะสามารถสร้างความสมดุลในสัมพันธภาพกับผู้นำหรือผู้จัดการของคุณได้
ผู้มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เช่น Hillary Clinton วุฒิสมาชิกอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
Oprah Winfrey นักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง และอดีตประธานาธิบดี 4 คนของสหรัฐฯ
คือ Richard Nixon, Lyndon Johnson, Jimmy Carter และ Ronald Reagan
จับคู่สไตล์การเป็นผู้นำ
ผู้มีชื่อเสียงแต่ละคนที่ถูกยกตัวอย่าง ต่างก็มีสไตล์ความเป็นผู้นำที่โดดเด่นและมีกรอบความคิดที่แตกต่างกันไป
ซึ่งต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนในการเป็นผู้นำและการจัดการต่างๆ กัน แต่หากสามารถจับคู่สไตล์การเป็นผู้นำที่สมดุลกันได้
กลับจะกลายเป็นการเสริมสร้างจุดแข็งของทั้งผู้นำกับผู้จัดการ
นอกจากนี้ผู้แต่งได้แนะนำว่า มีคำถามที่ผู้นำและผู้จัดการควรจะถามตัวเอง
เพื่อสร้างความเข้าใจในสไตล์ของตนเองได้ดียิ่งขึ้น และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในการเป็นผู้นำหรือผู้จัดการ
ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้นำหรือผู้จัดการของตนได้ดีกว่าที่จะทำงานไปโดยลำพัง