ในธุรกิจบัตรชำระเงินทดแทนเงินสด Visa เป็น International Brand
อีกรายที่เข้ามาเจาะตลาดประเทศไทย ในเวลาไล่เลี่ยกับ American Express และปีนี้เป็นปีที่
Visa ประกาศตัวบุกหนัก โดยนำเสนอความหลากหลายของบัตร ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้
ในทุก Segment
"ธุรกิจบัตรเครดิตกำลังเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว เราจึงต้องหาบัตรรูปแบบใหม่ๆ
มานำเสนอ" สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการ Visa International ประจำประเทศไทยและอินโดจีน
กล่าวเกริ่นนำในงานแถลงแผนดำเนินธุรกิจประจำปี 2547 ซึ่งจัดขึ้นที่ Club
87 โรงแรม Conrad เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
จากข้อมูลของ Visa International ถึงแม้ว่าจำนวนบัตรเครดิต Visa จะเพิ่มขึ้นจาก
2.8 ล้านใบ เป็น 3.5 ล้านใบ ในปี 2546 ซึ่งจัดว่าเป็นตัวเลขการเติบโตที่ดูสดใส
แต่หาก พิจารณายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรซึ่งได้ลดลงประมาณ 3% คือจาก 58,600
บาทต่อปี เหลือ เพียง 57,000 บาทต่อปี อาจเป็นแนวโน้มที่ไม่ดีนัก
เพราะจำนวนบัตรที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นเพียงการเพิ่มขึ้นจากการที่ผู้ถือบัตรนิยมมีบัตรเครดิตคนละหลายๆ
ใบไว้ในกระเป๋า เพื่อเหตุผลต่างๆ กัน ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มวงเงินใช้จ่ายที่สูงขึ้น
หรือเพื่อเลือกใช้สิทธิประโยชน์ที่แต่ละบัตรมีให้ แทนที่จะเป็นการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ๆ
ที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิต
โดย Visa ซึ่งกำหนดจุดยืนในการเป็นผู้นำเสนอระบบชำระเงิน ทดแทนการชำระ
เงินด้วยเงินสด ทั้งในรูปของบัตรพลาสติก (card) หรือผ่านโทรศัพท์มือถือ (mobile
payment) โดยในปีนี้ Visa จะนำเสนอบัตรชำระเงินอีกหลายประเภท เพื่อการใช้ที่หลากหลายและครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคให้ดีกว่าที่ผ่านมา
ที่เห็นเด่นชัด คือ D-Purse/Visa Cash บัตรชำระเงินล่วงหน้า (prepaid card)
ใบแรกจาก Visa ที่จะเริ่มออกใช้ประมาณกลางปี ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทไทยสมาร์ทการ์ด
จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง ซี.พี. 7-Eleven Telecom Asia ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน ธนาคารนครหลวงไทย KTC ล็อกซเล่ย์ และสหวิริยา
โอเอ
ซึ่งประโยชน์หลักของบัตร Visa Cash น่าจะอยู่ที่การเข้ามาทดแทนการจัด เก็บเงินสดในธุรกิจบางประเภท
ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ใช้จ่ายคราวละไม่มาก และความรวดเร็วในการชำระเงินเป็นเรื่องสำคัญ
เช่น ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ หรือค่าผ่านทางด่วน ซึ่งหากลองนับจำนวนร้าน 7-Eleven
ที่มีอยู่ คูณด้วยจำนวนเหรียญและ ธนบัตรที่ต้องจัดเก็บในแต่ละวัน บวกกับปัญหาการจี้-ปล้น
หรือทำเงินหล่นหาย ถือว่า Visa Cash น่าจะเป็นคำตอบที่หลาย ธุรกิจกำลังเฝ้าคอยอยู่
เหตุที่ Visa Cash เหมาะกับธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากบัตรชำระเงินล่วงหน้า
ไม่จำเป็นต้องมีการอนุมัติเหมือนในกรณีของ บัตรเครดิต เพียงเสียบบัตรเข้าเครื่องอ่านบัตร
เครื่องอ่านบัตรก็จะทำการอ่านข้อมูล จาก chip ที่ฝังอยู่บนบัตร ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะเร็วกว่าการรับชำระด้วยเงินสด
นอกจากนี้ Visa ยังจะรุกในตลาดบัตรเครดิตสำหรับองค์กร เพื่อให้องค์กรขนาดต่างๆ
สามารถบริหารระบบชำระเงินและการเบิกจ่าย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
โดยแบ่งประเภทบัตรเป็น Visa Corporate บัตรที่ช่วยในเรื่องการตรวจสอบและรายงานค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
และเพื่อการบันเทิงของพนักงานแต่ละคน Visa Purchasing บัตรที่ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงาน
และ Visa Business บัตรที่ช่วยธุรกิจขนาดเล็กบริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้วยประเภทบัตรที่หลากหลายที่ Visa พร้อมนำเสนอ นอกจากถือเป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และขยายฐานลูกค้าเดิม
เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถมีบัตรเครดิตได้แล้ว
ยังถือเป็นการทำให้การชำระเงินผ่านบัตร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น
โดยการเพิ่มประเภทธุรกิจที่รับบัตรชำระเงิน เช่น ใช้จ่ายค่ารถไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์สาธารณะ
ค่าทางด่วน ซึ่งนับเป็นความสะดวกที่ทั้งผู้ถือบัตรและธุรกิจจะได้รับ
ด้วยบัตรประเภทใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ๆ ที่รับบัตรชำระเงิน กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พลิกรูปแบบการใช้บัตร ถือเป็นยุคใหม่ของธุรกิจชำระเงิน
ทั้งนี้อัตราการใช้บัตรชำระเงินในไทยยังอยู่ในระดับต่ำประมาณ 6% โดย Visa
คาดหวังว่าธุรกิจนี้จะเติบโตถึง 25% ในปี 2547