Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กุมภาพันธ์ 2547
NPCทุ่ม1.6หมื่นล.ผุดLLDPE-ฟีนอล             
 


   
search resources

ปตท., บมจ.
อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย), บมจ.
ไทยโอเลฟินส์, บมจ.
ปิโตรเคมีแห่งชาติ, บมจ.
ไพบูลย์ ปัญญวุฒิ
วิโรจน์ มาวิจักขณ์
Chemicals and Plastics




"NPC" รุกธุรกิจ ปิโตรเคมีต่อเนื่อง เตรียมทุ่ม 400 ล้านดอลลาร์หรือ 1.6 หมื่นล้านบาท ผุดโครงการผลิตเม็ดพลาสติก LDPE/LLDPE และฟีนอล หวังให้เสร็จทันช่วงวัฏจักรปิโตรเคมีขาขึ้น คาดดำเนินการก่อสร้างแล้ว เสร็จปลายปี 49 พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%

วานนี้ (24 ก.พ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) ลงนามบันทึกความเข้าใจในการซื้อขายก๊าซอีเทนเพิ่มเติมกับบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) โดยปตท.จะศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 2 และ 3 ทำให้มีอีเทน เพิ่มขึ้นอีก 3.9-5 แสนตันต่อปี ป้อนให้กับ NPC ในการผลิตโครงการปิโตรเคมีต่อเนื่อง

นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนการลงทุนในโครงการปิโตรเคมีต่อเนื่องคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยแหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน เพราะปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำ ทำให้มีความสามารถในการกู้ยืมอีกมาก

ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตเอทิลีน ขนาด 4 แสนตันและโครงการผลิตโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE/LLDPE) 4 แสนตัน ซึ่งเป็นโครงการปิโตรเคมีขั้นปลาย ใช้เงินลงทุนรวม 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะดำเนินการ ก่อสร้างภายในปีนี้ และแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2549 สอดรับกับโครงการปรับปรุงโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 2 และ 3 แล้วเสร็จ

โครงการดังกล่าวจะเป็นการร่วมทุนระหว่าง NPC กับปตท. ซึ่งเป็นบริษัทแม่คาดว่าจะได้ผลสรุปการศึกษาอีก 4 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หากปตท.ตัดสินใจไม่ร่วมทุน ทาง NPC ยืนยันที่จะดำเนินการต่อไปเพราะโครงการดังกล่าวเป็น การเพิ่มมูลค่าเอทิลีน รวมทั้งในช่วงเวลาดังกล่าว อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในจังหวะราคาขาขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมลงทุนในโครงการผลิตฟีนอล ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทในเครือปตท. โดยบริษัทฯจะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษา คาดได้ข้อสรุปอย่างช้ากลางปีนี้

นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า จากการขยายโครงการปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น บริษัทฯจึงร่วมทุนกับปตท.ตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตไฟฟ้าขึ้น โดยเบื้องต้นจะผลิตไฟฟ้าประมาณ 35 เมกะวัตต์ หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 70 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจไฟฟ้าของ NPC จะเข้าไปอยู่ในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวด้วย

ซึ่งปัจจุบันโรงไฟฟ้าของ NPCมีกำลังการผลิต 170 เมกะวัตต์ โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้า บริษัทจะใช้เองประมาณ 9% ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ในบริษัทต่างๆในเครือ ปตท.

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2547 คาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบจากปี 2546 เนื่องจากราคาโอเลฟินส์ในปีนี้อยู่ในเกณฑ์ ที่สูงกว่าปีที่แล้ว หรือเฉลี่ยตันละ 600 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2546 ราคาโอเลฟินส์อยู่ที่ 512 เหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากจีนมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่ม และราคาแนฟธา ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯจะรับรู้รายได้จากโครงการผลิตโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งขณะนี้ราคาเม็ดพลาสติกPE อยู่ที่ตันละ 900 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 700 เหรียญสหรัฐต่อตัน

เครือปตท.จับมือผุดคิวมีน/ฟีนอล

นายไพบูลย์ ปัญญวุฒิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ATC) กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติให้บริษัทฯขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมขั้นต่อเนื่องโดยการเข้าร่วมทุนโครงการ ผลิตสาร Cumene/Phenol กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน)โดยมี ปตท. เป็นแกนนำ โดยถือหุ้นใหญ่ 40% ที่เหลือถือหุ้นรายละ 20%

โครงการดังกล่าวจะผลิต Phenol 200,000 ตันต่อปี และ Acetone 125,000 ตันต่อปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแหล่งเงินลงทุนเฉพาะบริษัทฯจะมาจากกระแสเงินสดภายใน ATC เอง

สำหรับผลตอบแทนการลงทุนโครงการฯ ประมาณ 18% และมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี และเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ประมาณไตรมาสที่ 2 ปี 2550 โครงการฯนี้จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ Benzene ของบริษัทฯ โดยการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต Cumene/Phenol ดังกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us