Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กุมภาพันธ์ 2547
ลีเวอร์ปรับทิศรับผู้บริโภคเปลี่ยนอัด100ล.ชูไทยฮับสกินแคร์เอเชีย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิลีเวอร์

   
search resources

ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, บจก.
ลีโอ โอสเตอร์เวียร์
Commercial and business




ยูนิลีเวอร์ ชี้ โทรศัพท์มือถือ บ้าน รถยนต์ดึงกำลังซื้อผู้บริโภค คนไทย ส่งผลตลาดอุปโภคบริโภคหดตัวโต 3% ไขก๊อกสองลุยต่อยอดกลยุทธ์ Vitality to life "เพิ่มชีวิตชีวา" ทั่วโลก วางหมากผุดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ สร้าง ตลาดใหม่ล่อใจผู้บริโภค ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ตั้งศูนย์นวัตกรรมผิวและวิจัยสกินแคร์ หวังใช้ไทยเป็นฮับในเอเชีย มั่นใจสิ้นปีโต10% โชว์ผลประกอบการปี 46 โตตามเป้า 9.4%

นายเลโอ โอสเตอร์เวียร์ ประธานบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปีนี้เติบโตน้อยประมาณ 3-5% เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อคนไทยเพิ่มขึ้นแต่กลับเลือกที่จะใช้เงินเพื่อที่จะซื้อสินค้าขนาดใหญ่ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ บ้าน รถยนต์ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคปัจจุบันมีอัตราการบริโภค 100% ทุกครัวเรือนแล้ว โดยเฉพาะตลาดผงซักฟอก แชมพู อาหารเป็น กลุ่มที่เติบโตน้อย ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดอุปโภคบริโภคปีนี้หดตัวเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

ส่วนความต้องการบริโภคสินค้า อุปโภคบริโภคเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ต้องการสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่และตอบสนองความต้องการมาก ขึ้น ขณะที่ราคาของสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงเพื่อแข่งขันกับสินค้าขนาดใหญ่ๆ ส่งผลให้ภาพรวมการแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปีนี้ ผู้ประกอบการแต่ละค่ายจะต้องงัดกลยุทธ์เร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่มากขึ้น รวมทั้งยูนิลีเวอร์เองด้วย

ปีนี้กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทยูนิลีเวอร์ทั่วโลก ได้ปรับเปลี่ยน ใหม่หลังจากที่ใช้กลยุทธ์ Path to Growth ซึ่งเน้นการสร้างแบรนด์ สร้างผลิตภัณฑ์ และยอดขายให้เติบโต มากว่า 4-5 ปี โดยเปลี่ยนเป็น Vitality to life หรือเพิ่มชีวิตชีวา โดยเน้นการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ให้มีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดี และเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสร้างตลาดใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดอุปโภคบริโภคให้เติบโต ล่าสุดบริษัทได้เปิดตลาดสกินแคร์ใหม่ โดย จับกลุ่มอายุ 25 ปี และ 35 ปี การออก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สูตรเข้มข้น และคนอร์ สูตรไม่มีผงชูรส ซึ่งเป็น ตลาด ที่ยังไม่เคยมีผู้ประกอบการรายใดทำ

แผนการทำตลาดปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 กลุ่ม หลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและทำ ความสะอาดผิว กลุ่มไอศกรีมและผลิตภัณฑ์อาหาร โดยผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนและส่วนบุคคล จะยังคงเป็นหัวหอกในการเจาะตลาดและขยายธุรกิจ

"แนวโน้มการแข่งขันปีนี้มีความ รุนแรง ดังนั้น นโยบายการทำตลาดปีนี้ยูนิลีเวอร์จะเน้นการสร้างความน่าเชื่อ ถือในแบรนด์สินค้าเพราะผู้บริโภคมีความฉลาดมากขึ้น การเร่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายในทุกทาง และการขยายตลาดด้วยการจัดกิจกรรมที่เหมาะกับแต่ละช่องทาง เพื่อเจาะเข้าถึง ตัวผู้บริโภคใหม่ๆกว้างมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะใช้สื่อโฆษณารูปแบบใหม่ หลังจากที่อัตราค่า โฆษณาทางทีวีมีราคาแพงขึ้น"

นายโอสเตอร์เวียร์กล่าวต่อว่า บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ตั้งศูนย์นวัตกรรมผิวขึ้นที่ประเทศไทยเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยย้ายมาจากอินโดนีเซีย มีพนักงาน 100 คน ร่วมวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผิวคนเอเชียและสร้างแบรนด์ ใหม่ๆ ทั้งนี้ เป้าหมายของบริษัทวางให้ ไทยเป็นฮับวิจัยผิวสำหรับผิวของคนเอเชีย เพราะแนวโน้มตลาดสกินแคร์ในเอเชียเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพเติบโตสูง บริษัทจึงหันมารุก ตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีศูนย์นวัตกรรมผิวเพียง 2 แห่ง ได้แก่ ปารีส ศูนย์วิจัยสำหรับผิวยุโรป นิวยอร์ก สำหรับผิวอเมริกา นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทวางแผน ขยายกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการ ผลิตให้กับสินค้าใหม่

ผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 9.4% ซึ่งเป็น การเติบโตมากกว่าตลาด หรือคิดเป็น รายได้ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องใช้ส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วมาก ขณะที่ยูนิลีเวอร์ เน็ตเวิร์ค วาสลีน และโดฟ ก็เป็นกลุ่ม ที่เติบโตและมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us