Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กุมภาพันธ์ 2547
เพอร์เฟคฯเปิดแผนหมื่นล้าน รุกตลาดทุกกลุ่มคลุมพื้นที่ในเมือง             
 


   
search resources

ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, บมจ.
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
กรุงเทพบ้านและที่ดิน, บจก.
เอสเตท เพอร์เฟ็คท์, บจก.
ชายนิด โง้วศิริมณี
อุไรวรรณ ภัทรกานต์
Real Estate




พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดเกมรุกตลาดอสังหาฯ วางโครงสร้างรายได้ระยะยาวทั้งกลุ่มพร้อมเปิดตัว 7 โครงการใหม่กว่า 10,000 ล้านบาท ในนามพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค พัฒนาอีก 4 โครงการในนามบริษัทกรุงเทพบ้าน มูลค่า 3,000 ล้านบาท และเอสเตท เพอร์เฟ็คท์ อีก 4,000 ล้านบาท เล็งลดพาร์ล้างขาดทุนสะสม 3,800 ล้านบาทในสิ้นปี และดันหุ้นกู้ล็อตใหม่ 1,500 ล้านบาทอายุ 3 ปีเพื่อขยายธุรกิจ เตรียมดันบริษัทในเครือเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 47

นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัจจุบันบริษัทมีหนี้ค้างอยู่ประมาณ 4,473 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะพยายามลดหนี้ให้อยู่ในระดับ 2,500 ล้านบาท ซึ่งระดับหนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายอยู่ประมาณ 3% ประกอบกับบริษัทฯมีแผนจะออกหุ้นกู้จำนวน 1,500 ล้านบาทอายุ 3 ปี เพื่อนำมาขยายธุรกิจ และการปรับวิธีการสร้างบ้านโดยเน้นการทำบ้านพร้อมอยู่ ซึ่งทำให้สร้างเสร็จภายใน 6 เดือนทำให้สามารถรอบของการหมุนการสร้างบ้านเสร็จมีถึง 2 รอบจากเดิมที่บริษัททำบ้านสั่งสร้างต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีครึ่งกว่าจะรับรู้รายได้ ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะลดราคาพาร์จาก 10 บาทต่อหุ้นมาเหลือ 5 บาท ต่อหุ้นซึ่งเป็นวิธีที่ไม่สร้างผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น คาดจะเริ่มในช่วงเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งจะส่งผลให้สามารถล้างขาดทุนสะสมของบริษัทฯที่มี อยู่ประมาณ 3,800 ล้านบาทภายในปีนี้ ทำให้ในปี 2548 บริษัทจะมีความพร้อมจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่กำหนดไว้สูงสุดที่ 70% ของกำไรสุทธิ และยังจะคงรักษาอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขายโดยเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 25% อย่างน้อยอีก 2 ปี

ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนในที่ดินประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาโครงการต่อเนื่อง คือ โครงการใหม่อีก 7 โครงการที่จะพัฒนาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2547 ไปถึงปี 2551 มีมูลค่าประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท (พิจารณาตารางประกอบ) และหากรวมกับโครงการเดิมจะทำให้บริษัทมีโครงการที่ต้องบริหารรวมในปีนี้ เท่ากับ 18,580 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายประมาณ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 100% จากปี 2546 ที่มีรายได้รวม 4,127 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ 1,157 ล้านบาท

เพิ่มจุดแข็งพื้นที่ในเมือง

นางอุไรวรรณ ภัทรกานต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด กล่าวว่าบริษัทจะมีการวางกลยุทธ์ในการเจาะตลาด เพื่อเป็นลักษณะสร้างจุดแข็งให้กับกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค โดยจะทำโครง การขนาดเล็ก ทำเลอยู่ในเมือง เน้นลูกค้าตลาดบน ประเภทโครงการเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งหลังจากที่บริษัทได้เปิดขายโครง การแรก คือ ราชพฤกษ์ เกษตร-นวมินทร์ ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายและปิดโครงการได้ภายในปีเดียวซึ่งมียอดขายล่วงหน้า(พรีเซลส์) ประมาณ 820 ล้านบาท มีกำไร 157 ล้านบาท

สำหรับแผนพัฒนาโครงการระหว่างปี 2547-2548 นางอุไรวรรณ กล่าวว่าจะมีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น เปิด 4 โครงการใหม่ คือ ราชพฤกษ์ วงแหวน-เพชรเกษม มูลค่า 1,200 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ทั้งหมด, ราชพฤกษ์ สุขุมวิท 103 มูลค่า 850 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ 60% และบ้านสั่งสร้าง 40%

นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนพัฒนาโครงการใหม่บนถนนพระราม 2 เพื่อ ให้ทันเปิดในต้นปี 2548 ทั้งนี้ ยังวางแผนที่จะเสริมยอดขายด้วยการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมกลางใจเมือง ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ชัดเจนและครอบคลุมทั่วถึงลูกค้าทุกแบบ

นางอุไรวรรณ กล่าวว่า ภายในปีนี้บริษัทกรุงเทพบ้านและที่ดินมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเงินที่ระดมทุนมาพัฒนาโครงการที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าเงินลงทุนในที่ดินที่ต้องนำมาพัฒนาประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะมีการเพิ่มทุนเพื่อมารองรับโครง การประมาณ 500 ล้านบาท และยังมีส่วนของเงินกู้โครงการจากสถาบันการเงินอีกส่วน ทั้งนี้ หากในปี 2548 สามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ก็น่าจะทำให้อัตราเติบโตเฉพาะบริษัทกรุงเทพบ้านและที่ดินได้ 30%

ปัจจุบันหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 2 เท่าต่อ 1 ซึ่งจะสูงกว่าพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เพราะเราอยู่ในช่วงของการขยายโครงการ และมีการซื้อที่ดิน และหากเพิ่มทุนได้ รวมทั้งเปิดขายโครงการเพิ่ม คาดว่าหนี้สินต่อทุนจะลดต่ำลงได้ ซึ่งจะเหลือประมาณ 1ต่อ 1 ภายในสิ้นปี 2547

"จากการตอบรับที่ดี ทำให้บริษัทมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น และได้วางกลยุทธ์รุกโครงการในเมือง ที่มีขนาดเล็ก พร้อมจุดเด่นการนำเทคโนโลยี เพื่อการอยู่อาศัยอย่างทันสมัยและปลอดภัย คือ ระบบสมาร์ทโฮม ที่ใช้การ ควบคุมด้วยเทคโนโลยี" ดร.พิจิตต รัตตกุล ประธานกรรมการ บริษัทฯ กล่าว กู้เงินดีบีเอสฯรีไฟแนนซ์หนี้

นายชายนิด กล่าวว่าบริษัท เอสเตท เพอร์เฟ็คท์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 40% สามารถปรับโครงสร้างหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)ได้ในไตรมาสแรกปีนี้ โดยการกู้เงินจากธนาคาร ดีบีเอสไทยทนุ (DTDB) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ (รีไฟแนนซ์) กับบสท.จำนวนกว่า 500 ล้านบาท


นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนสินเชื่อประมาณ 800 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการ เพอร์เฟ็คท์ สุขุมวิท 77 บนเนื้อที่ 260 ไร่ ประเภทบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการรวมค่าก่อสร้างประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาพัฒนาประมาณ 5 ปี และเป็นโครงการเดียวที่จะพัฒนา หลังจากพัฒนาแล้วเสร็จจะมีการปรับเปลี่ยนบทบาทของบริษัทใหม่ ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 950 ล้าน บาท และจะไม่มีการเพิ่มทุนอีก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us