Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กุมภาพันธ์ 2547
ธปท.ไฟเขียว"KK"เป็นแบงก์ดันเกณฑ์สำรองใช้ครึ่งปีหลัง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์
โฮมเพจ ธนาคารเอเชีย
โฮมเพจ ธนาคารรัตนสิน

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
ธนาคารเอเชีย, บมจ.
เกียรตินาคิน, บง.
รัตนทุน
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารยูโอบี รัตนสิน
บุคคลัภย์ ,บง
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ - บบส.
สินอุตสาหกรรม, บง.
ชฎา วัฒนศิริธรรม, คุณหญิง
ธาริษา วัฒนเกส
Banking




แบงก์ชาติไฟเขียวบง.เกียรตินาคิน (KK) เข้าทำเนียบแบงก์ หลังควบกิจการกับบง.รัตนทุนเข้ากรอบมาสเตอร์แพลน ระบุสถาบันการเงินเริ่ม ทยอยส่งแผน เชื่อทุกแห่งสามารถระบุฐานะได้ในระยะเวลา 6 เดือนตามที่กำหนด พร้อมเล่นบทโหดกดดันแบงก์เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ดันมาตรการกันสำรองเอ็นพีแอลประกาศใช้ครึ่งปีหลังแน่

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผย ว่า ขณะนี้ได้มีบริษัทเงินทุนเกียรตินาคินเข้ามาหารือกับ ธปท.เพื่อขอยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ โดยก่อนหน้านี้ บง.เกียรตินาคินได้ควบรวมกิจการกับ บง.รัตนทุน และถือหุ้นในบง.รัตนทุน ทั้งหมด 100% ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินของธปท. (มาสเตอร์แพลน)

"บริษัทเงินทุนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเข้ามาหารือกับธปท. แล้ว แต่ยังไม่มีใครแบไต๋ออกมาว่าจะเลือกยกระดับในสถานะใด และใครจะเลือกแต่งงานกับใคร" รองผู้ว่าการธปท.กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ให้เวลาบง. 6 เดือนในการตัดสินใจ และประเมินสิน ทรัพย์ ประเมินหนี้สิน รวมทั้งต้องมีความ ชัดเจนว่าจะเลือกสถานะใด ซึ่งมองว่า การกำหนดระยะเวลาดังกล่าวไม่น่าจะสั้นเกินไป เนื่องจากจะให้เวลาในการดำเนินการเพื่อควบรวมกิจการให้แล้วเสร็จอีก 1 ปี หลังจากทำดิวดีรีเจนท์เสร็จ

สำหรับกรณีของธนาคารยูโอบี รัตนสินที่ต้องการเข้าซื้อหุ้นของธนาคารเอเชียหลังจากที่ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร ต้องการขายหุ้นถืออยู่ 80.7% ออกไป เพื่อคงสถานะการเป็นสาขาธนาคาร ต่างประเทศไว้เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นธนาคารยูโอบี และธนาคารเอเชียที่จะหารือกันเองเนื่องจากเป็นการเข้าไปซื้อหุ้นในเชิงธุรกิจธปท.ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

ด้านบริษัทเงินทุนบุคคลัภย์ และสินอุตสาหกรรม คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ในขณะนี้ธนาคารกำลังทำความเข้าใจกับกฎเกณฑ์ของทางการ เพื่อให้ทางออกที่ดีที่สุดให้กับบริษัทในเครือทั้ง 2 แห่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นการขายออกให้กับบุคคลอื่น หรือการนำเข้ามารวมกับธนาคารก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะปัจจุบันบริษัททั้ง 2 แห่ง สามารถทำกำไรได้ด้วยตนเอง โดยในปีที่ผ่านมา บง.บุคคลัภย์มีกำไรประมาณ 200 ล้านบาท และบง.สินอุตสาหกรรมมีกำไรประมาณ 500 ล้านบาท

"ในที่สุดแล้วธนาคารจะทำอย่างไรกับบง.ทั้ง 2 แห่ง เป็นสิ่งที่เราจะต้องระมัดระวัง เพราะทั้ง 2แห่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น มีผู้ถือหุ้นรายอื่นอยู่ด้วย ธนาคารคงจะเลือกทางที่สร้างคุณค่ามากที่สุด แต่หากจะนำมารวมกับธนาคารเองก็ไม่มีปัญหาเพราะทำให้สินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับการทำธุรกิจของธนาคารประมาณ 1 ปี"

เตรียมใช้มาตรการกันสำรองหนี้ของเอ็นพีแอลครึ่งปีหลัง 2547

นางธาริษา เปิดเผยถึงเกณฑ์ในการกันสำรอง หนี้ใหม่ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาข้อมูลอยู่ อาจจะใช้วิธีลดราคาหลักทรัพย์ที่ให้หักออกก่อนการกันสำรอง หนี้ไม่ให้หักได้ 100% เหมือนแต่ก่อนหากธนาคารมีการทิ้งหนี้เอ็นพีแอลจำนวนนั้นไว้นาน โดยไม่มีการเร่งรัดปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะพิจารณาจากอายุของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ธนาคารพาณิชย์ ยังไม่ดำเนินการแก้ไขหากทิ้งไว้นานจนถึงเวลาหนึ่ง ที่ ธปท.คิดว่านานเกินไป อาจจะมีการสั่งให้กันสำรองหนี้ในส่วนนั้นเพิ่มขึ้น

จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ว่าก่อนที่จะกันสำรอง หนี้เอ็นพีแอล ธปท.อนุญาตให้นำราคาหลักทรัพย์ ที่มีอยู่มาหักออกจากมูลหนี้รวมได้ 100% ส่วนที่เหลือจึงเป็นวงเงินสำหรับกันสำรองหนี้ ตามฐานะของหนี้นั้นว่าจะต้องกันสำรองเป็นอัตราเท่าไรของเงินที่หักหลักประกันไว้ 100% แล้ว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะนำออกมาใช้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2547 เพื่อเร่งรัดการปรับโครงสร้าง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังค้างอยู่ในระบบธนาคารพาณิชย์ให้เร็วขึ้น ซึ่งตัวเลขเอ็นพีแอลล่าสุด ณ สิ้นปี 2546 อยู่ที่ระดับ 12% ของสินเชื่อรวม ซึ่งทาง ธปท.เคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าเอ็นพีแอลต้องลดต่ำอยู่ที่ระดับ 5% ในปี 2549 ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีนโยบายที่จะปรับเป้าใหม่

"หากมีการออกมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้แบงก์พาณิชย์เร่งปรับโครงสร้างหนี้เน่าที่มีอายุนานมากขึ้นและทำให้หนี้เอ็นพีแอลที่มีอยู่ลดลงได้" นางธาริษา กล่าว

สำหรับการเร่งลดสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคารพาณิชย์นั้น ถึงแม้ว่าในขณะนี้กฎหมายแก้ไขให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) ของรัฐ และเอกชน สามารถซื้อเอ็นพีเอได้ แต่ในขณะนี้ได้มีการเจรจานอกรอบระหว่าง บบส. กับธนาคารพาณิชย์ แล้วคาดว่าเมื่อกฎหมายแก้ไข ออกมาจะสามารถดำเนินการซื้อขายได้ทันที

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us