Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2544
Competing for Talent             
 





การเลือกสรรบุคลากรและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้กับองค์กร เป็นยุทธศาสตร์ทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ และในปัจจุบันก็มีการกล่าวถึงสิ่งที่เรียกว่า "the employer of choice" หรือ EOC กันมากขึ้น แนนซี เอส. อาห์ลริชส์ ที่ปรึกษาทางด้านทรัพยากรบุคคล จึงนำเสนอประเด็นนี้ใน Competing for Talent

การคัดเลือกคนใหม่

สิ่งหนึ่งที่ EOC ให้ความสำคัญก็คือ การลดวงจรเวลาและเพิ่มความเป็นกันเองในกระบวนการสรรหาบุคลากร เพราะองค์กรส่วนใหญ่มักมีขั้นตอนการสรรหาบุคลากร ที่เป็นแบบแผนเหมือนระบบราชการจึงไม่สามารถดึงดูดผู้ที่มีความสามารถจริงได้ อาห์ลริชส์เสนอว่า "ทุกวันผู้สมัครที่มีความสามารถ ซึ่งรวมทั้งจากภายในองค์กรด้วย กำลังถูกแย่งชิงตัวไปอย่างรวดเร็วโดยองค์กรที่มีความไวต่อเรื่อง EOC มากกว่า"

นอกจากนั้น EOC ยังให้ความสำคัญกับความรู้ความสามารถ (เช่น ความริเริ่มหรือความสามารถในการแก้ไขปัญหา) มากกว่าทักษะที่ใช้ในระหว่างการสัมภาษณ์หรือว่าจ้างพนักงานใหม่ อาห์ลริชส์บอกพนักงานที่เก่ง ย่อมสามารถสร้างขอบเขตหน้าที่การงาน ที่ผนวกรวมเอาความรู้ความสามารถส่วนตัว เข้ากับบุคลิกภาพส่วนตัวของผู้ที่ทำงานได้ดีในตำแหน่งดังกล่าว

การคัดเลือกบุคลากรตามแนว EOC ไม่จำเป็นต้องยุติลงด้วยการจ้างพนักงาน แต่ยังมุ่งเน้นไปที่กระบวนการในการปฐมนิเทศ พนักงานเพื่อให้เกิดความประทับใจในเชิงบวกต่อองค์กรและวัฒนธรรมองค์กร แล้วประสานคนใหม่ให้เข้ากับกลุ่มงาน

‘ การรักษาพนักงานไว้

ในอีกส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ กล่าวถึงยุทธศาสตร์ในการรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้กับองค์กร

ขั้นแรกคือการมีกลยุทธ์และกระบวนการ ที่ระบุได้อย่างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการลาออกของพนักงาน EOC ไม่เพียงสืบหาสาเหตุด้วยการสัมภาษณ์ก่อนลาออก แต่ยังมีขั้นตอนสกัดกั้นหรือป้องกัน เพื่อลดจำนวนการลาออกของพนักงานก่อนที่จะเกิดปัญหาด้วย

ตัวอย่างเช่น EOC อาจจัดให้มีคณะกรรมการข้ามสายงาน (โดยรวมทั้งสายการบริหารและที่ไม่ใช่สายบริหารด้วย) เพื่อให้คำแนะนำเป็นระยะๆ โดยอาจซักถามความเห็นเกี่ยวกับการลาออกของพนักงานด้วยคำถามต่างๆ เช่น "คุณคิดจะลาออกจากงานบ้างหรือเปล่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา", "คุณดำเนินการใดๆ เพื่อลาออกจากองค์กรไปบ้างหรือไม่อย่างไร" หรือ "ทำไมคุณจึงรู้สึกไม่พอใจองค์กร" ทั้งนี้ต้องให้แน่ใจว่าคำตอบเหล่านี้เป็นคำตอบที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ให้คำตอบอย่างแน่นอน

อาห์ลริชส์ยังระบุถึงสไตล์การบริหารและวัฒนธรรมองค์กร ที่ช่วยกระตุ้นให้มีการรักษาพนักงานได้ โดยชี้ว่าองค์กรที่จัดให้มีทีมบริหารงานกันเอง และไม่กลัวการกระจายอำนาจการตัดสินใจมี แนวโน้มจะดึงพนักงานที่มีความสามารถสูงไว้ได้มาก ภาวะผู้นำในทุกระดับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญ นอกจากนั้น องค์กรยังต้องให้ความสำคัญกับแผนการพัฒนาพนักงาน การให้ผลตอบแทนแบบ มีทางเลือก ตลอดจนผลประโยชน์อื่นที่จะกระตุ้นให้พนักงานมีความภักดีต่อองค์กร

‘ ภาพรวมที่เข้าใจได้กระจ่าง

นอกจากหนังสือเล่มนี้จะให้เครื่องมือต่างๆ อย่างเป็น ขั้นตอนแล้ว ยังให้ภาพรวมในประเด็นการคัดเลือกและรักษา พนักงานไว้กับองค์กรด้วย โดยมีประเด็นย่อยๆ อาทิ ผลประโยชน์ขั้นต่ำที่จะได้จากการที่มีการลาออกของพนักงานน้อย ลักษณะของ EOC และความสำคัญของชุมชนที่เกี่ยวข้อง นับเป็นคู่มือสำหรับนักบริหารฉบับที่ชี้แนะแนวปฏิบัติจริงเพื่อช่วยให้องค์กรก้าวไปสู่การเป็น "ที่ทำงานที่ดีเยี่ยมแห่งหนึ่ง" ต่อไป

 

การจำลองสถานการณ์การทำงาน ในกระบวนการสัมภาษณ์ การจำลองสถานการณ์การทำงานในกระบวนการสัมภาษณ์ จะช่วยให้องค์กรระบุตัวผู้สมัครที่จะทำงานได้ดี อาห์ลริชส์ได้เสนอสถานการณ์จำลองสี่แบบดังนี้

1. มอบหมายโครงงานจริงให้ทำโดยอาจใช้วิธีจ่ายค่าตอบแทนให้หรือไม่ก็ได้ 2. จัดกิจกรรมการทำงานจำลองหนึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งวัน เพื่อดูถึงวิธีการตัดสินใจและปริมาณงานที่คาดว่าจะรับได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

3. ขอให้ผู้สมัครจัดการประชุมเพื่อทดสอบทักษะในการเป็นผู้นำ (ให้ผู้สมัครได้มีเวลาเตรียมตัว)

4. ให้ผู้สมัครสวมตำแหน่งของพนักงานที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน แล้วมอบหมายงานให้โดยระบุสิ่งที่ต้องการให้บรรลุผลด้วย (วิธีนี้จะช่วยให้พนักงานปัจจุบันได้ประเมิน ผู้สมัครร่วมกับองค์กรด้วย)

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us