ผู้บริหารฟินันซ่ายืนยันไม่ปรับราคาซื้อหุ้นบง. กรุงเทพธนาทร ระบุราคาที่กำหนดไว้ 12.78 บาทถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม แย้มมีแผนสำรองถ้ากรณีไม่สามารถตกลงกันได้ มีบง. หลายแห่งที่อยู่นอกตลาดดึงมาควบรวม หรือให้แบงก์เอเชียที่คอมลิงค์ จะเข้าถือหุ้นเป็นแกนนำในการควบรวม ขณะที่คนในวงการไฟแนนซ์ มั่นใจดีลควบบีฟิทไม่ล้ม

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงยืนยันราคาที่จะซื้อหุ้น เพิ่มทุนของบริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาทร (BFIT) ที่ 12.78 บาท ต่อหุ้น แม้ว่าคณะกรรมการของ BFIT จะมีมติให้ปรับราคาขึ้นเป็น 17 บาท เนื่องจากเห็นว่าราคาที่เคยตกลงกันไว้เดิมเป็นราคาที่เหมาะสมและยุติธรรมแล้ว เพราะหลังจากที่ควบ รวมกัน มีข้อตกลงว่าฟินันซ่าจะต้องหาเงินทุนเข้ามาใส่เพิ่มอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อที่จะยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ครบวงจรได้ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ไม่ได้ ทำได้ง่ายๆ

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมผู้ถือ หุ้นของบง.กรุงเทพธนาทรในวันที่ 8 มีนาคมนี้ว่าจะมีมติอย่างไร ซึ่งหาก ผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมการ แผนการควบรวมก็อาจจะต้องล้มไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงยืนยันแผนเดิมที่ต้องการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันถือว่ายังมีทางออกอีกมาก มาย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ในขณะที่ BFIT ก็จะต้องคิดว่าจะดำเนินการต่อไป อย่างไรหากไม่ควบรวมกับฟินันซ่า เพราะเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้สถาบันการเงินส่งแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนก็ใกล้เข้ามาแล้ว คือต้องส่งแผนภายในวันที่ 30 กันยายน 2547 นี้

"ผมไม่ได้คิดว่าเราเป็นต่อ แต่ราคาที่เสนอไปถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะหลังจากเข้าไปเพิ่มทุนแล้วเรายังมีสัญญาที่จะต้องหาเงินมาใส่อีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และหากบีฟิทไม่ลงเอยกับเราเค้าก็ต้องคิดต่อไปอีกว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ส่วนสาเหตุที่เค้าเกิดต้องการเปลี่ยนราคากะทันหันก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่ในส่วนของเราอยากให้วิน-วิน ทั้ง 2 ฝ่าย" นายวรสิทธิ์กล่าว

สำหรับกรณีที่ว่า BFIT อาจจะขาดคุณสมบัติการเป็นแกนนำในการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์นั้น เท่าที่เข้าหารือกับ ธปท. ยังไม่มีการพูดถึงประเด็นนี้แต่อย่างใด

ส่วนประเด็นที่ว่า กลุ่มคอม-ลิงค์ ที่กำลังจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของฟินันซ่า มีความสนใจจะซื้อหุ้นธนาคารเอเชียจากเอบีเอ็น แอมโร นั้น นายวรสิทธิ์กล่าวว่า การดำเนินงานของฟินันซ่าและคอม-ลิงค์ แยกขาดจากกันอย่างชัดเจน แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นไปได้ว่าจะมีการควบรวมกับธนาคารเอเชียเพื่อยกเป็นธนาคารพาณิชย์ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่าธนาคารเอเชียถือว่ามีจุดเด่นตรงที่มีความพร้อมทั้งทางด้านระบบงานและเทคโนโลยี รวมทั้งผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ

ด้านแหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า ในที่สุดแล้วผู้ถือหุ้นของ บง.กรุงเทพธนาทร น่าจะมีมติรับข้อเสนอเดิมของฟินันซ่า ที่ต้องการซื้อหุ้นที่ราคา 12.78 บาท เนื่องจากในส่วนของธนาคารกรุงเทพเองก็ไม่ต้องการที่จะมี บง.หลายแห่งและได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าจะลดสัดส่วนการลงทุนใน BFIT ลง ซึ่งการที่คณะกรรมการมีมติให้ปรับราคาขายหุ้นขึ้นน่าจะเป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องการดูท่าทีของฟินันซ่ามากกว่า

นอกจากนั้น ในการเจรจาครั้งนี้ ฟินันซ่าถือว่ามีความได้เปรียบทุกอย่าง โดยเฉพาะในด้านของเงินทุนที่สามารถจะทำธุรกิจด้วยตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่มองเห็นโอกาสที่จะสามารถยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ได้ ซึ่งจะสามารถทำธุรกิจได้มากกว่า และแม้ว่าจะไม่ได้ควบรวมกิจการกับบีฟิท ก็ยังมีบริษัทเงินทุนอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งกรณีที่คอม-ลิงค์ สนใจที่จะซื้อหุ้นของธนาคารเอเชีย ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะให้ธนาคารเอเชียเป็นแกนนำในการควบรวม โดยที่ผ่านมาถือว่ากลุ่มผู้บริหารของฟินันซ่าและธนาคารเอเชียมีสายสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น ทั้งในด้านของการทำธุรกิจ และการเป็นเครือญาติห่างๆ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าฟินันซ่ามักจะได้เป็นที่ปรึกษาของธนาคารเอเชียอยู่เสมอ

ขณะที่ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ ระบุว่าดีล BFIT-FNS ส่อเค้าล้มเหลว นอกจากความ เสี่ยงเรื่องการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลักของ BFIT ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ธปท. แล้ว คณะกรรมการ BFIT ยังมีมติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับเปลี่ยนข้อเสนอของ FNS โดยเพิ่มราคาเสนอขายหุ้น BFIT ให้กับ FNS จากเดิม 12.78 บาท/หุ้น เป็น 17 บาทต่อหุ้น และปรับลดราคาซื้อ บง. ฟินันซ่า จากที่ FNS เสนอให้ 76.19 บาท/หุ้น เหลือเพียง 62.45 บาทต่อหุ้น

ด้าน FNS ยังคงยืนยันข้อเสนอเบื้องต้นเดิมทุกประการ ดังนั้น ความเป็นไปได้ของการ ควบรวมกิจการ จึงขึ้นกับการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น BFIT เป็นสำคัญ สำหรับ FNS ที่ไม่ยอมรับ ข้อเสนอใหม่ของคณะกรรมการ BFIT อาจจะมีนัยว่า FNS คงมีทางเลือกอื่นที่จะเข้าสู่ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้ โดยไม่ต้องอาศัยช่องทางดังกล่าว ด้วยฐานธุรกิจเดิมที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล. เกียรตินาคิน (KKS) กล่าวว่า จากรายชื่อผู้สนใจซื้อ BOA จำนวน 4 รายนั้น เราคาดว่ากลุ่มที่มีความ เป็นไปได้มากที่จะได้ถือหุ้นใหญ่ใน BOA คือ กลุ่มคอมลิ้งค์ และกลุ่ม SGF เนื่องจากกลุ่มคอมลิ้งค์ถือได้ว่ามีฐานเงินทุนที่พร้อมจะเข้าลงทุน ส่วนกลุ่ม SGF นั้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ ดังนั้น เราจึงคาดว่าผู้ถือหุ้นหลักใน BOA น่าจะเป็น 2 กลุ่มนี้ ส่วนกลุ่มยูโอบีนั้น เราคาดว่าอาจไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ใน BOA เนื่องจากกลุ่มยูโอบีเป็นสถาบันการเงินจากสิงคโปร์เช่นเดียวกับกลุ่มดีบีเอส สิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันดีบีเอส สิงคโปร์ อยู่ระหว่างนำ DTDB เข้าควบรวมกับ TMB ดังนั้น ภาครัฐอาจเห็นว่ากลุ่มทุนสิงคโปร์ได้เข้ามาลงทุนมากพอแล้ว

แหล่งข่าวในวงการไฟแนนซ์ กล่าวว่า แผน การควบรวม บง.ฟินันซ่า และ BFIT เชื่อว่าไม่ล้ม เนื่องจากทุกอย่างได้เตรียมการไว้ค่อนข้างแน่นอนแล้ว เรื่องความแตกต่างของราคาหุ้นคาดว่าท้ายที่สุดจะไม่มีปัญหา เพราะกลุ่มฟินันซ่าค่อนข้างมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านวาณิชธนกิจ การควบรวมกิจการ และการซื้อขาย กิจการ ลักษณะการทำงานของกลุ่มฟินันซ่าจึงค่อนข้างเป็นระบบ และมีความแน่นอน ถ้าไม่แน่นอนกลุ่มฟินันซ่าจะไม่ประกาศออกมา เพราะถ้าดีลนี้ไม่สำเร็จจะกระทบต่อชื่อเสียงของกลุ่มฟินันซ่าเอง

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท เงินทุนฟินันซ่า โฮลดิ้ง ที่ต้องการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ ว่า ผู้บริหารของ บง. ดังกล่าวได้เข้าชี้แจงต่อธปท.เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถยังบอกได้ว่า บง. ฟินันซ่าจะเลือกการยกระดับอย่างไร เนื่องจากยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียด

สำหรับความคืบหน้าในการเข้ามาควบรวม กิจการระหว่างธนาคารยูโอบี สิงคโปร์ และสถาบันการเงินของประเทศไทย นั้น ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามาถระบุได้ว่าธนาคารยูโอบีจะมาควบรวมกับธนาคารใดของประเทศไทย แต่เท่าที่ทราบ ธนาคารยูโอบีมีความสนใจที่จะเข้ามาหาพันธมิตรในประเทศไทยจริง แต่จะเป็น รายใดนั้นการตัดสินใจขึ้นอยู่กับธนาคารยูโอบีเท่านั้น ไม่สามารถบอกรายละเอียดใดๆ ได้

ธนาคารยูโอบีเป็นธนาคารใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งเศรษฐกิจในขณะนี้ของภูมิภาคเอเชียเริ่มมีการขยายตัวและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้แต่ประเทศไทยเอง โดยเขาเห็นว่าเศรษฐกิจบ้านเราขยายตัวได้ดีและนิ่งจึงอยากที่จะเข้ามาหาพันธมิตรในประเทศไทย เพราะสิงคโปร์อยากที่จะมีบทบาท ทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมากขึ้นŽ ร.อ. สุชาติ กล่าว

สำหรับราคาหุ้นเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) หุ้นบริษัทฟินันซ่าปิดที่ 49.50 บาทลดลง 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 67.79 ล้านบาท ส่วนหุ้นบริษัท เงินทุนกรุงเทพธนาทร ราคาปิดที่ 17.70 บาทลดลง 0.30 บาทมูลค่าการซื้อขาย 41.73 ล้านบาท