Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 กุมภาพันธ์ 2547
TKSปันผลหุ้นละ20สตางค์ทุ่มงบ160ล้านสร้างคลังสินค้า             
 


   
search resources

ที.เค.เอส. เทคโนโลยี, บมจ.
ซินเน็ค (ประเทศไทย), บจก.
สุพันธุ์ มงคลสุธี
Electronic Components




TKS ทุ่มกว่า 160 ล้านบาท สร้างออโต้ แวร์เฮ้าส์แห่งใหม่ รองรับการเติบโตของธุรกิจไอที โดยจะเพิ่มทุนในซินเน็คฯ ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 50% เล็ง Mailing Statement เพิ่มรายได้ ปีนี้ตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 40-50 % ขณะที่ปี 48 ยอดขายสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท พร้อม จ่ายปันผลหุ้นละ 20 สตางค์

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ทีเคเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS) เปิดเผยผลการดำเนินงานกลุ่มของ ปี 46 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 63.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.78% จากงวด เดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีรายได้รวม 6,540 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,870 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้น 35% โดยผลกำไร ที่ก้าวกระโดดส่วนใหญ่มาจากการรับรู้รายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 41 แบรนด์ทั่วโลก

สำหรับปีนี้ บริษัทมั่นใจว่า จากภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มโตสูงขึ้น ให้ทุก ธุรกิจ รวมถึงธุรกิจไอทีที่รัฐออกมา ให้การสนับสนุนในการที่หน่วยงาน ภาครัฐนำอุปกรณ์ไอทีและคอมพิว-เตอร์เข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะหนุนให้การดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง ไปเช่นกัน โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ากำไร สุทธิโตไม่ต่ำกว่า 45% จากปี46 พร้อมตั้งเป้ายอดการเติบโตไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท และจะจ่ายเงิน ปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 20 สตางค์ พร้อมปิดสมุดจดทะเบียนพักการซื้อหุ้นในวันที่ 7 เมษายน 46

นายสุพันธุ์กล่าวว่า ปี 47 บริษัทจะใช้เงินเพื่อลงทุนในการสร้างออโต้ แวร์เฮ้าส์ เพื่อรองรับการ เป็นตัวแทนในการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งการที่จะนำสินค้าเข้ามาเก็บไว้ในคลังสินค้าด้วย และมีการระบายสินค้าออกอย่างมีระบบ โดย เงินที่จะใช้ในการขยายงานดังกล่าว จะได้จากการเพิ่มทุนของบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง TKS ถือหุ้นอยู่ 50% ด้วยการที่ ซินเน็คฯ จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 340 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท หรือเพิ่มทุนใหม่ 160 ล้านบาท ซึ่งเงินที่จะเพิ่มทุนนั้น TKS จะลงทุน กับซินเน็ค(ไต้หวัน) ฝ่ายละ 50%

นอกจากนี้ ยังจะเปิดสาขาตัวเพิ่มอีก 2 แห่งจากเดิมที่มีสาขา ที่เปิดอยู่แล้ว 12 แห่ง โดยจะเปิดสาขาใหม่ที่นครสวรรค์และราชบุรี ขณะที่ในกรุงเทพฯ จะเปิดที่พันธุ์ทิพย์และเซียร์รังสิต จากการเติบโต อย่างต่อเนื่อง นายสุพันธุ์มั่นใจว่าบริษัทจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษางานใหม่ๆ ที่ต่อเนื่องกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ เช่น การพิมพ์ใบสลิปเงินเดือนที่อาจทำสำเร็จรูปลงรายละเอียดทั้งหมดให้เสร็จสรรพในตัว

นายสุพันธุ์กล่าวว่า การบริหารในการจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น บริษัทจะกำหนดว่าไม่เกิน 3 สัปดาห์เพื่อระบายสินค้าในสต็อก ทำให้บริษัทจะมีสินค้า คงคลังเหลือเฉลี่ยไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการป้องกันความ เสี่ยงเรื่องราคาจำหน่าย ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทที่ทำธุรกิจเดียวกันแล้วถือว่าดีที่สุดในการควบคุมสินค้าในสต็อก เพราะหากผู้ผลิตจะเลิกผลิตสินค้ารุ่นไหน ก็จะมีการบอกเตือน ขณะที่บริษัทเร่งจำหน่ายสินค้าออกจากสต็อกให้มากที่สุด

นอกจากนี้ บริษัท ยังศึกษาที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม กัมพูชา เขมร เป็นต้น หลังจากปีนี้ไป บริษัทจะมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 2-3% โดยการเข้าไปจะเป็นการทำสลิปเงินเดือนพนักงาน หรืออื่นๆ ที่มีกระดาษเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ในประเทศ TKS จะเน้นการทำไอทีเป็นหลัก เพราะการเติบโตในธุรกิจนี้ยังมีสูงมาก ส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพียงแต่เข้าไปหาลูกค้า เพื่อสำรวจตลาดว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ก่อนที่ จะเข้าไปเปิดสาขาอย่างเต็มตัว โดย ไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาล

สำหรับ ซินเน็คฯ ที่มีทุนจดทะเบียนเพียงพอต่อความต้องการในการเข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์นั้น แต่ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะนำซินเน็คฯ เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ เพราะผู้ถือหุ้นไต้หวันมองว่า พีอีของตลาดเมืองไทยซึ่งอยู่ระหว่าง 10-13 เท่า นั้นยังถูก ไม่ เหมาะกับการลงทุน แต่หากพีอีไปที่ระดับ 20 เท่า ไต้หวันจะให้ความสนใจที่จะกระจายหุ้น

อย่างไรก็ตาม TKS ยังรับรู้รายได้หลักมาจากซินเน็คฯ คือ 90% จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ ส่วนรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์คือ แบบพิมพ์ธุรกิจ กระดาษสำนักงานและแบบพิมพ์ธุรกิจปลอดการทำเทียมนั้น บริษัทมีรายได้จากส่วนนี้เพียง 10% เท่านั้นและในอนาคตรายได้จากส่วนนี้จะโตขึ้น แต่สัดส่วนรายได้จะยังคงเป็นเช่นเดิม เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องคอมพิวเตอร์ยังโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน

ปัจจุบัน TKS มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน( D/E RATIO) ที่ประมาณ 3 เท่า และบริษัทจะควบคุมไม่ให้ 4 เท่า เพราะในส่วน การเพิ่มทุนของซินเน็คฯ นั้น หากเงินไม่พอต่อการสร้างออโต้ แวร์ เฮ้าส์ บริษัทก็ต้องกู้เงินเพิ่มอีก พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการออกหุ้นกู้แน่นอน เพราะภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในตลาดต่ำ ออกหุ้นกู้ในปีหน้าก็ยังสามารถทำได้

นายสุพันธุ์กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะทำธุรกิจ Mailing Statement ที่เป็นระบบอัตโนมัติ คาดว่าจะเห็นเป็นรูปร่างได้ไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่การสร้างออโต้ แวร์เฮ้าส์ จะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 3 แล้วเสร็จต้นปี 48 เมื่อคลังสินค้านี้เสร็จสิ้น จะทำให้มีที่เก็บสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจนี้มีการเติบโตต่อเนื่อง นายสุพันธุ์จึงมั่นใจว่า TKS จะมียอดขายก้าวกระโดดในปี 48 โดยคาดว่าจะสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจแบบพิมพ์ก็โตเช่นกัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us