บลจ.กสิกรไทยคาดกระทิงหุ้นไทยยังเดินหน้าต่อเนื่อง ปีนี้แตะ 1,070 จุด ส่วนกองทุนรวม
คาดฟันกำไรมากกว่าดัชนีหุ้นรวม ขณะที่ บล.ภัทรคาดดัชนีปลายปีนี้ 860 จุด ส่วนหุ้นไทยวานนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
ทะลุ 750 จุด หลังหุ้นกลุ่มสื่อสาร-พลังงานยังฉลุย ด้วยวอลุ่มรวมหนาตาขึ้น 3.27
หมื่นล้านบาท ต่างชาติทยอยเก็บของถูก ซื้อสุทธิอีกเกือบพันล้านบาท
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (11 ก.พ.) ตลาดฯ เปิดบวก 742.31 จุด เพิ่มขึ้น
2.67 จุด ดัชนีเดินหน้าผันผวนขาขึ้นตลอดทั้งวัน ก่อนปิดตลาดฯ สูงสุด 753.24 จุด
เพิ่มขึ้น 13.60 จุด เพิ่ม 1.84% มูลค่าซื้อขายรวม 32,691.12 ล้านบาท โดยดัชนีลดต่ำสุดระหว่างวัน
741.72 จุด หุ้นกลุ่มที่ซื้อขายมากที่สุดได้แก่ สื่อสาร พลังงาน และ อสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 977.52 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 70.54 ล้านบาท
และนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 906.99 ล้านบาท
นางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย
กล่าววานนี้ ในงานสัมมนา "ปี 47 วานรขี่กระทิง ปีทองของหุ้นไทยจริงหรือ?"
ว่าแนวโน้มการลงทุนในตลาด หุ้นไทย จะขยายตัวมากขึ้นปีนี้ ตามการขยายตัวเศรษฐกิจไทย
ที่คาดว่าจะเติบโตกว่า 7% ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่า
และหุ้นไทยยังถูกกว่า เมื่อเทียบตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้าน
ผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้น อาจไม่สูงเท่าปีที่ผ่านมา ที่ดัชนีเติบโตถึง 116%
ขณะที่การเติบโตผลตอบแทนการลงทุนผ่านกองทุน 133-134% คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้
จะสูงขึ้นชน 1,070 จุด ขณะที่คาดผลตอบแทนการลงทุนกองทุนรวม จะสูงกว่าอัตราเติบโตดัชนีตลาดฯ
สำหรับกองทุนตราสารหนี้ ปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.5-3% เนื่องจากดอกเบี้ยตลาดเงินต่ำ
ปีที่แล้ว ผู้ถือหน่วยลงทุนขายหน่วยลงทุนมาก ทำให้บริษัทต่างๆ ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแทน
เพื่อให้มีสภาพคล่อง และผันผวนน้อย
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บลจ. กสิกรไทย คาดว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้จะคึกคักต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
จากการที่หุ้นเอกชนและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เตรียมซื้อขายในตลาดฯ ต่อเนื่อง มูลค่าหุ้นเหล่านี้รวมกันรวมกันถึง
229,200 ล้านบาท เช่น ท่าอากาศยานไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.ส.ม.ท. เป็นต้น
คาดว่าจะมีนักลงทุนส่วนหนึ่ง ขายหุ้นที่ถืออยู่ปัจจุบัน ซื้อหุ้นรัฐวิสาหกิจเหล่านี้
โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน-ไฟฟ้า พื้นฐานดี บริษัทมั่นคง สัญญาดำเนินงานชัดเจน
ถือเป็นหลักประกันผลตอบแทนระยะยาวที่ดี และเติบโตตามการขยายตัวเศรษฐกิจ จะส่งผลกดดัชนีตลาดฯ
ช่วงสั้นๆ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาเงินลงทุนที่จะไหลเข้าใหม่ จากทั้งนักลงทุนและต่างประเทศ
ด้วย
นายปิยะสวัสดิ์กล่าวว่า "ผู้มีเงินฝาก จะหันมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
เนื่องจากมีความรู้ความเข้าใจ และรู้จักวางแผนการลงทุนให้ตนเองมากขึ้น ประกอบกับระดับราคาหุ้นในปัจจุบัน
ไม่สูง มีความน่าสนใจในระยะยาว และมีกองทุนใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละกลุ่มเพิ่มมากขึ้น"
แต่ปัจจัยที่ควรจับตามองระยะสั้น เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก ก่อการร้าย เป็นต้น
ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ดอกเบี้ยโลกที่ทยอยปรับเพิ่ม
และการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
ด้านนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)
ภัทร กล่าวว่าแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง
ตลอดจนกำไร บจ. ในตลาดฯ ก็เติบโต ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน ยังไม่สูงนัก ยังน่าสนใจระยะยาว
เป้าหมายดัชนีตลาด หุ้นปลายปี 860 จุด
หุ้นเดินหน้าทะลุ 750
5 อันดับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายมากที่สุดวานนี้ ปตท. (PTT) ปิด 173 บาท เพิ่มขึ้น
8 บาท มูลค่าซื้อขายทั้งหมด 2,868.69 ล้านบาท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น (TA)
ปิด 9.25 บาท ลดลง 20 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 1,139.12 ล้านบาท วอร์แรนต์อนุพันธ์แบงก์นครหลวงไทย
(SCIB-C1) ปิด 6.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,133.97 ล้านบาท อิตาเลียน-ไทย ดีเวลอปเมนท์
(ITD) ปิด 130 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท 1,049.66 ล้านบาท และทีพีไอโพลีน (TPIPL) ปิด
39.75 บาท เพิ่มขึ้น 25 สตางค์ 935.90 ล้านบาท
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่าภาวะตลาดหุ้นวานนี้
(11 ก.พ.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยบวกจากการประชุมกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันดิบเอเปก
ที่มีข้อสรุปว่าจะไม่เพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะ ปตท. รวมทั้งหุ้นสื่อสาร ยังคงเป็นกลุ่มนำดัชนี โดยมีประเด็นการคัดเลือกคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(กทช.) ที่ประเมินว่า ปีนี้น่าจะตั้งสำเร็จ ซึ่งจะทำให้ปัญหาการจ่ายค่าเชื่อมต่อโครงข่ายถูกสะสาง
สามารถลดภาระบริษัทกลุ่มนี้ได้
นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อค่อนข้างหนาแน่นหุ้นที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ เช่น
PTT การบินไทย (THAI) ธนาคารกรุงไทย (KTB) หลังจากรัฐมนตรีว่าการการทรวงการคลัง
ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เปิดเผยว่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงทุนกองทุน วายุภักษ์
1 ให้สามารถซื้อหุ้นในหลักทรัพย์ที่กระทรวง การคลังถือหุ้นใหญ่ได้
แนวโน้มวันนี้ คาดว่าดัชนีจะเดินหน้าต่อได้ หลังผ่านแนวต้าน 750 จุดได้ แนวต้านต่อไป
780 จุด โดยมีปัจจัยผลการดำเนินงานปี 2546 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทยอยประกาศเดือนนี้
รวมทั้งแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ไข้หวัดนกในไก่ เริ่มคลี่คลายชัดเจน