Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 กุมภาพันธ์ 2547
แบงก์ลั่นโละ"เอ็นพีแอล"ภายใน5ปี หวั่นมาตรการแบงก์ชาติคลอดยาก             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ - บบส.
บรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์การ - BAM
สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย
ชาลอต โทณวณิก
บรรยง วิเศษมงคลชัย
Banking




แบงก์พาณิชย์ เผยสิ้นปี 2546 ยอดรวมเอ็นพีเอทั้งระบบเหลือ 1.5-1.6 แสนล้านบาท มั่นใจสามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จ ภายใน 5 ปี ขณะที่มาตรการดึง "เอ็นพีเอ" ออกจากระบบสถาบันการเงินของแบงก์ชาติเกิดยาก เหตุไม่สามารถสรุปราคารับโอนที่เหมาะสมได้ ทำให้แบงก์พาณิชย์ต้องการบริหารเอง เพราะได้กำไรดีกว่าด้านบสก. ขานรับนโยบายแบงก์ชาติรับซื้อเอ็นพีแอลจากแบงก์พาณิชย์ แนะขายยกพอร์ตแก้ปัญหาได้ทั้งระบบ ขณะที่ราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 70% ของมูลค่าสินทรัพย์

นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาในฐานะรองประธาน สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวถึง ความคืบหน้าการบริหารทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีเอ ที่เริ่มมีการรายงานตั้งแต่ปี 2542 ว่า ตั้งแต่ปี 2542-2545 ยอดเอ็นพีเอมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 60% , 30% และ 9% ตามลำดับ ขณะที่ในปี 2546 เอ็นพีเอไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมียอดรวมทั้งระบบ 125,000 ล้านบาท

"การลดลงของยอดเอ็นพีเอ ถือเป็นแนวโน้มที่ดี แสดงให้ เห็นว่าการไหลเข้าและการจำหน่ายออกของเอ็นพีเอเริ่มมีความสมดุล แต่เอ็นพีเอยังไม่หยุดไหล ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ก็สามารถระบายเอ็นพีเอ ออกไปได้มาก ทำให้ขณะนี้เอ็นพีเอทั้งหมด น่าจะอยู่ที่ 150,000-160,000 ล้านบาท"

สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานนั้น นางชาลอต กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ถือครองเอ็นพีเอได้ไม่เกิน 5 ปี แต่เนื่องจากการแก้ไขปัญหายังไม่เบ็ด เสร็จธนาคารสามารถขออนุญาตได้อีก 5 ปี

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์เองมีทางออก 2 ทางเลือก แนวทาง แรก กรณีของเอ็นพีเอที่ไหลเข้า ธนาคารพาณิชย์จะต้องคัดเลือกทรัพย์สินที่มีสภาพคล่อง และมั่นใจว่าสามารถขายได้ภายใน 5 ปี เพราะไม่จำเป็นต้องรับทรัพย์สินของลูกค้าทั้งหมด หรือแม้แต่การ ซื้อทรัพย์สินจากกรมบังคับคดีก็ต้องมีการเลือก

แนวทางที่ 2 คือ การขยายทรัพย์สิน ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะต้องดำเนินการขายออกไป โดยเร็ว ด้วยการใช้กลยุทธ์ต่างๆ รวมทั้งการจัดงานเอ็นพีเอแกรนด์ เซล ซึ่งเป็นการรวมกันจัดงานขาย เอ็นพีเอก็ช่วยกระตุ้นให้สามารถขายได้จำนวนหนึ่ง

สำหรับประเด็นที่ธปท.มี นโยบายจะให้ธนาคารพาณิชย์โอน เอ็นพีเอให้กับสถาบันการเงินอื่นไปบริหารนั้น นางชาลอต กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวได้มีการหารือกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังติด ปัญหาเรื่องของการประเมินราคาเอ็นพีเอที่จะโอนออกไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติร่วมกัน เพราะธนาคารพาณิชย์บางแห่งไม่ต้อง การโอนออกจากระบบ เนื่องจากเห็นว่าราคาที่รับโอนต่ำเกินไป และสามารถบริหารจัดการได้ราคาที่สูงกว่า

"ปัญหาดังกล่าวมีหลายมาตรฐาน เพราะแต่ละธนาคาร ก็มีการปล่อยสินเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ถ้าหากใช้มาตรฐานเดียวกับ บางธนาคารอาจจะเท่าทุน บางแห่ง อาจจะมีกำไร จึงเป็นเรื่องยากถ้าธนาคารขาดทุนก็อาจจะต้องมีการเพิ่มทุนเยอะ และต้องดูเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่ธนาคารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจมีไหลเข้า มาก็พยายามที่จะขายออกไป และพยายามคัดเลือกเอ็นพีเอที่มีสภาพคล่อง ถ้ามาตรการของรัฐออกมา แต่ไม่มีความเสมอภาคสำหรับทุกสถาบัน ก็น่าจะเลือกปล่อยให้เป็นธรรมชาติ"

นางชาลอต กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเอ็นพีแอลที่มีอยู่ในระดับประมาณ 150,000-160,000 บาท หากไม่มีการไหลเข้ามาของเอ็นพีเอใหม่ คาดว่าจะสามารถจัดการแก้ไขได้หมดภายในระยะเวลา 6 ปี แต่หากมีของใหม่ไหลเข้ามาก็อาจจะใช้เวลามากขึ้น

สำหรับผลการบริหารเอ็นพีเอในปี 2546 ที่ผ่านมา คาดว่ามียอดขายเอ็นพีเอรวมทั้งระดับประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาแห่งเดียว สามารถขายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท และในปี 2547 นี้ธนาคารตั้งเป้าขายเอ็นพีเอไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีเอ็นพีเอคงเหลือรวม 19,000 ล้านบาท

บสก.เห็นพ้องมาตรการธปท.โยก"เอ็นพีเอ"ออกจากระบบ

ด้านนายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวถึง นโยบายการบริหารจัดการเอ็นพีเอของธปท. ว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับแนวทางการศึกษาของธปท.ที่จะรับโอนเอ็นพีแอลจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และ บสก. เป็นผู้บริหารเอ็นพีเอเพราะเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ทั้งนี้ ความเหมาะสมของการซื้อเอ็นพีเอนั้นควรเป็นการซื้อยกพอร์ต ผลประโยชน์จะตกอยู่กับธนาคารพาณิชย์เอง เนื่องจากจะสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานแก้ไขเอ็นพีเอของธนาคาร ทั้งเรื่องของการจ้างบุคลากร ขั้นตอนการฟ้องร้องดำเนินคดี โดยที่บสก.เองมีความพร้อมและเชี่ยวชาญในการดำเนิน การด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งในขณะนี้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งก็ได้ให้ความสนใจที่จะขายเอ็นพีเอให้กับบสก.บ้างแล้ว

"การขายเอ็นพีเอต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแบงก์ก่อน หากแบงก์คิดว่าจัดการเองแล้วคุ้มค่าก็ไม่จำเป็นต้องขายให้เพราะแบงก์ชาติก็ไม่ได้บังคับอยู่แล้ว ส่วนบสก.จะซื้อเอ็นพีเอ มาบริหารเท่าไรนั้นต้องรอดูเกณฑ์ของแบงก์ชาติก่อนว่าจะให้ซื้อได้เท่าไรและ ต้องดูกำลังซื้อของ บสก.ด้วย" นายบรรยง กล่าว

สำหรับราคาที่เหมาะสมในการรับซื้อเอ็นพีเอนั้น น่าจะอยู่ที่ 70% ของมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์บางแห่งเคยขายเอ็นพีเอเพียงแค่ 30% ของมูลค่าสินทรัพย์เท่านั้น ส่วนราคาขายโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 80% ของมูลค่าสินทรัพย์ซึ่งถือว่าสามารถทำ กำไรได้ในระดับที่น่าพอใจหลังจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ แล้ว ทั้งนี้ บสก.ตั้งเป้าการขายเอ็นพีเอในปีนี้ประมาณ 50,000 ล้านบาทเท่ากับปีที่แล้ว

นายบรรยงกล่าวว่า ขณะนี้ บสก.กำลังเจรจาเพื่อซื้อเอ็นพีเอ อีก 2 กองมาบริหารมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ในแต่ละกองมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยที่กองแรกนั้นได้ข้อสรุปในเรื่องราคาซื้อขายแล้ว ส่วนอีกกองนั้นกำลังเจรจากับธนาคาร พาณิชย์แห่งหนึ่งอยู่ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us