บริษัท ฟินันซ่า ตั้งเป้าผลตอบแทนตั้งธนาคารพาณิชย์ปีแรก ที่จะตั้งร่วมกับบง.กรุงเทพธนาทร ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 20% คาดยื่นขอตั้งภายในมิ.ย.นี้ เน้นจับลูกค้าระดับกลาง ใช้จุดแข็งเทคโนโลยีสนับสนุน คาดปีแรกเปิด 5 สาขา ปี 48 ตั้งเป้าเป็นยูนิ-เวอร์แซลแบงก์ พร้อมใช้ไลเซนส์ บล.บีฟิท รุกธุรกิจจัดการกองทุนรวมในไทยปีนี้
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS)
เปิดเผยวานนี้ (4 ก.พ.) ถึงความคืบหน้าตั้งธนาคารพาณิชย์ว่า จะดำเนินการ 2 ขั้นตอน
โดยขั้นแรก จะยื่นขออนุมัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควบรวมกิจการระหว่างบริษัทเงินทุน
(บง.) กรุงเทพธนาทร (BFIT) และ บง.ฟินันซ่า ขั้นตอนที่ 2 จะยื่นเรื่องขอตั้งธนาคารพาณิชย์
เต็มรูปแบบ (Universal Bank) คาดว่าจะยื่นภายใน มิ.ย.นี้ คาดว่า จะตั้งได้ภายในไตรมาสแรกปี
2548
ธนาคารพาณิชย์ที่จะตั้งต้องมีทุนไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ตามเกณฑ์ที่ทางการกำหนด
ซึ่งขณะนี้บง.กรุงเทพธนาทรมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นประมาณ 1,300 ล้านบาท และบริษัท ฟินันซ่า
ซื้อหุ้นสัดส่วน 49.97% ทำให้มีเงินเข้ามาอีกประมาณ 1,300 ล้านบาท ดังนั้น จึงมีส่วนของทุนขณะนี้ประมาณ
2,600 ล้านบาท ยังขาดอีกประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งต้องหาเพิ่ม แนว ทาง ขณะนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าบริษัท
ฟินันซ่าจะนำเงินเข้าไปเพิ่มเติมทั้งหมด หรือจะหาพันธมิตรรายใหม่ร่วม
อย่างไรก็ตาม บริษัท ฟินันซ่า ต้องการจะถือหุ้นธนาคารพาณิชย์ใหม่ที่ตั้งใหม่
สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 49% บริษัทเตรียมเงินรองรับ โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง
80 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 42 บาท คาดว่าจะได้รับเงิน 3,000 ล้านบาท ขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทคอม-ลิ้งค์
ซึ่งจะเป็นพันธมิตรที่สามารถเอื้อประโยชน์ด้านเทคโนโลยีสื่อสาร ที่จะเป็นผลดีต่อ
การดำเนินธุรกิจ
ธนาคารพาณิชย์ใหม่นี้ เขากล่าวว่าจะมุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าขนาดกลาง เพราะลูกค้าขนาดใหญ่
เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย สามารถใช้ตลาดเงินหรือตลาดทุนระดมทุนได้ หรือถ้าจะกู้จะมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่พร้อมปล่อยกู้
ส่วนลูกค้าเงินฝากจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ เงินฝาก 5-10 ล้านบาทขึ้นไป
เน้นความสัมพันธ์กับลูกค้า ความใกล้ชิดกับลูกค้า ทั้งเงินกู้และเงินฝาก จุดแข็งธนาคาร
จะใช้แข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ ความเป็นธนาคารขนาดเล็กที่คล่องตัว และเทคโนโลยีทันสมัย
คาดว่าภายในปีแรกจะเปิดสาขาบริการลูกค้าได้ประมาณไม่เกิน 5 แห่ง คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนปีแรกไม่ต่ำกว่า
20% ช่วงปีต่อไป ผลตอบแทนน่าจะมากขึ้น โดยบริษัทหวังว่าธนาคารจะนำรายได้ส่วนอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ
ช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทโดยตั้งเป้าจะเติบโต 2 เท่าปีที่ 2 จากปีแรก
บล. ฟินันซ่า ภายในปีนี้ ตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่ง ตลาดมากกว่า 2% ช่วง ธ.ค.และ ม.ค.ที่ผ่านมา
บริษัทส่วนแบ่งตลาดประมาณ 2.8-2.9% และจะพยายามรักษาส่วนแบ่งดังกล่าวไว้ต่อไป
ด้านราคาหุ้น FNS ปิดตลาดที่ระดับ 51 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าการซื้อ-ขาย
283.19 ล้านบาท ส่วนหุ้น BFIT ปิดตลาด ที่ 17.70 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าการซื้อขาย
47.50 ล้านบาท