Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 กุมภาพันธ์ 2547
จับตาศึกชิงผจก.กองทุนหลังบลจ.ใหม่เกิดเพียบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย
โฮมเพจ เคจีไอ (ประเทศไทย)
โฮมเพจ บริษัทเงินทุนธนชาติ
โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยาเจเอฟ จำกัด - เอเจเอฟ

   
search resources

แอสเซท พลัส, บล.
ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.
อยุธยาเจเอฟ, บลจ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ธนชาต, บลจ.
บัวหลวง, บลจ.
ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
แองเจโร คู
วรวรรณ ธาราภูมิ
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
เฉิน ผิ่น-เชิน
เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์
ผกาแก้ว บุญเลี้ยง
Funds




ผู้บริหารบลจ.ชี้ปีนี้ธุรกิจแข่งขัน ดุเดือด เหตุดอกเบี้ยยังต่ำติดดิน แถมแนวโน้มกองทุน เกิดใหม่เพียบ ส่งผลพนักงานกลายร่างเป็นมนุษย์ทองคำ โดยเฉพาะตัวผู้จัดการกองทุน งานนี้มีหวังได้เห็นการชิงตัวกันไม่แพ้มาร์เกตติ้งของโบรกเกอร์ ในขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์เองยังไม่ลดความร้อนแรงแม้เจอไข้หวัดนกสกัด และเชื่อเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น

ม.ล.ผกาแก้ว บุญเลี้ยง กรรมการอำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาติ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจจัดการกองทุนรวมปีนี้จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีการดึงตัวพนักงาน เนื่องจากปีนี้จะมีผู้ประกอบการบลจ.รายใหม่เกิดขึ้นหลายราย ในขณะที่จำนวนพนักงานหรือบุคลากรที่สามารถให้บริการได้จริงมีไม่เพียงพอต่อการขยายตัวทางธุรกิจ ซึ่งการจะฝึกอบรมบุคลากรขึ้นมาใหม่ก็ทำได้ยาก เพราะต้องมีการสอบใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

"ปีนี้คาดว่าการแข่งขันเรื่องการหาลูกค้าไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ เพราะภาวะการลงทุนในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับต่ำ แม้จะมีแนวโน้มปรับขึ้นก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และคาด ว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยจะมีการดำเนินการในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าลูกค้าในส่วนของเงินฝากจะหันมาลงทุนในธุรกิจจัดการกองทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่จะตามมาเมื่อมีบลจ.ใหม่เกิดขึ้นคือการดึงตัวพนักงาน ซึ่งเกรงเหมือนกันว่าจะเกิดปัญหาโบรกเกอร์ในช่วงก่อนหน้านี้โดยเราเองคง ทำอะไรไม่ได้นอกจากสร้างพนักงานขึ้นมาใหม่" ม.ล.ผกาแก้ว กล่าว

นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง กล่าวว่าขณะนี้มี บลจ.เกิดใหม่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะกองทุนหุ้นที่มีการแข่งขันกันมากที่สุดในธุรกิจกองทุน แต่ต้องยอม รับว่าในแต่ละแห่งก็มีลักษณะการบริหารงานที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลุ่มลูกค้า หรือสินค้าที่นำเสนอ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาการดึงตัวบุคลากรขึ้นได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามในขณะนี้ คงยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น

"การแย่งชิงพนักงานอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่ในขณะนี้ยังไม่เห็นเด่นชัดมากเหมือน กับการแย่งชิงมาร์เกตติ้งของบริษัทหลักทรัพย์ เพราะโบรกเกอร์เป็นธุรกิจที่ขยายตัวรวดเร็วกว่า บลจ. ขณะเดียวกัน หากจะมีการแย่งชิงตัวพนักงานจริงน่าจะเป็นการแย่งผู้จัดการกองทุนรวมมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของ การแข่งขันในธุรกิจ และท้ายที่สุดต้องขึ้นอยู่กับคนคนนั้นว่าต้องการย้ายเพื่ออะไร หากย้ายที่ทำ งานแล้วผลตอบแทนเพิ่มขึ้นและอยู่ในฐานะที่รับได้ก็เป็นสิทธิที่เขาจะโยกย้าย" นางวรวรรณ กล่าว

ด้านนายเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อยุธยาเจเอฟ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้น ของบลจ.ในปีนี้จะส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจกองทุนมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาการดึงตัวบุคลากรจากบลจ.อื่นอาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน แต่เชื่อว่าบลจ.ที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยทำธุรกิจด้านหลักทรัพย์มาก่อนคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงบุคลากรจากที่อื่นเพราะมีทีมงานที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม บลจ.ใหม่บางแห่งคงต้องมีการดึงตัวบุคลากรจากที่อื่น เนื่องจากไม่มีทีมงานและยังขาดประสบการณ์ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับตัวพนักงานว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะการย้ายงานไปอยู่ที่ใหม่ถึงแม้จะได้รับผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าแต่ความกดดันในการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

"การที่ตลาดมีจำนวน บลจ.มากขึ้นจะทำให้ตลาดคึกคักมากขึ้น แต่การทำธุรกิจนั้นต้อง ดูด้วยว่าถ้าเน้นทำธุรกิจกองทุนรวมก็ต้องออกกองทุนที่มีลักษณะพิเศษ ขณะที่การทำกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ. ใหม่อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเพราะกองทุนประเภทนี้ค่าธรรมเนียมต่ำใช้เวลานานกว่าจะคุ้ม ทุน ถ้าจะทำต้องเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่มากถึงจะแข่งกับรายเก่าที่ทำอยู่แล้วได้" นายเรืองวิทย์ กล่าว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ได้รับอนุญาตจากสำนักก.ล.ต. เพื่อดำเนินการจดทะเบียนเป็นบลจ.แล้วและคาดว่าจะ สามารถเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้

สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์ที่ทางธนาคารได้เปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วนั้นสามารถทำกำไรในปี 2546 ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนปี 2547 เฉพาะเดือนมกราคมเดือนเดียว ธนาคารมีกำไรจากธุรกิจดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

"ขณะนี้เรามีดีลในการเป็นอันเดอร์ไรเตอร์ อยู่แล้วทุกเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 1 ราย ส่วนเป้าหมายที่เราตั้งไว้ในปีนี้คือไม่ต่ำกว่า 12 ดีล โดยมีลูกค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ" นายอภิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนมากลูกค้าที่เข้ามาลงทุนในขณะนี้ เป็นลูกค้าของธนาคาร แต่ขณะเดียวกันธนาคารก็กำลังประสบปัญหาในเรื่องของบุคลากรเพราะทางก.ล.ต.มีกฎออกมาว่าห้ามเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ย้ายที่ทำงาน จึงทำให้ธนาคารต้องสร้างบุคลากรของตัวเองขึ้นมาใหม่ โดยปัจจุบันมีการใช้พนักงานจากธนาคารเข้ามาช่วยในธุรกิจหลักทรัพย์

อย่างไรก็ดี ธุรกิจหลักทรัพย์ของธนาคารนครหลวงไทยในขณะนี้มีส่วนแบ่งการตลาดหรือ มาร์เกตแชร์เพียง 0.5% และคาดว่าปลายปีนี้มาร์เกตแชร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1% ส่วนสำนักงานสาขา ผ่านแบงก์นั้นในไตรมาส 2 จะเปิดให้บริการอีก 4 สาขา โดยสาขาที่จะเปิดเป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯทั้งหมดก่อน จากนั้นค่อยขยายออกไป ยังต่างจังหวัด เพื่อให้ธนาคารเป็นสถาบันการเงิน ที่ครบวงจรตามนโยบายของรัฐบาลที่กำลังดำเนิน การอยู่ในขณะนี้

ด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.แอสเซทพลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.เสนอให้ บล.แอสเซท พลัส จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนเพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการ จัดการกองทุนรวมแล้ว โดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะต้องมีลักษณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พ.ศ. 2545

ธุรกิจโบรกเกอร์ยังไม่ลดความร้อนแรง

นายเฉิน ผิน เชิน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า บล.เคจีไอ จะมีการพัฒนาและรับเจ้าหน้าที่การตลาดเพิ่มเพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนตลาดหุ้น ที่คาดว่าปีนี้จะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมาแม้จะมีเหตุการณ์ไข้หวัดนกมาชะลอการลงทุนบ้าง แต่จะเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้นเท่านั้น โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทย และต่างประเทศอยู่

"ทางเคจีไอมีแผนจะรับเจ้าหน้าที่การตลาด เพิ่มอีกถึง 30 อัตรา เพื่อขยายฐานลูกค้า และรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจ ตลอดจนเน้นคุณภาพการให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น และจะ มีการพัฒนาคุณภาพงานวิจัยด้วย"

นอกจากนี้ บล.เคจีไอยังมีแผนจะพัฒนา คุณภาพงานวิจัยเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับลูกค้า และจะพัฒนาระบบการซื้อขายหุ้น ผ่านอินเทอร์เน็ตให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ทันสมัย และสนองตอบความต้องการของลูกค้า ให้ครอบคลุมมากที่สุด

นายแอนโจโล คู ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการให้สถาบันการเงินต่างๆ ควบรวมกิจการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้สถาบันการเงินสามารถแข่งขัน ในระดับประเทศได้ ทางเคจีไอไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกับใคร เนื่องจากขณะนี้การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และบล.เคจีไอมีความแข็งแกร่งทาง การเงินเพียงพอ และมีฐานลูกค้าที่ดี

สำหรับกรณีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2005 นั้นหากมีการเปิดเสรีจริง อาจจะส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดเล็กอยู่ไม่ได้ ท้ายที่สุดอาจหันมาร่วมธุรกิจกับเคจีไอ

"หาก ก.ล.ต.ตัดสินใจที่จะกำหนดค่าคอมฯ ขั้นต่ำต่อไป ก็จะทำให้บล.เคจีไอได้รับประโยชน์เพราะบล.เคจีไอเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ ในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เราเองก็ สนับสนุนเรื่องการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นด้วย" นายแอนโจโล คู กล่าว

สำหรับแผนการพัฒนาบริษัทในปี 2547 นายแอนโจโล คู เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแกร่งทางด้านวาณิชธนกิจ (ไอบี) โดยจะนำพนักงานจากสาขาในภูมิภาคเข้ามาช่วยเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่

ส่วนสถานการณ์ไข้หวัดนกที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวได้ในเวลาอันรวด เร็วอย่างแน่นอน และแม้จะมีสถานการณ์ดังกล่าวตลาดหุ้นไทยก็ยังเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจลงทุน ในอันดับที่สามของโลกอยู่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us