Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 กุมภาพันธ์ 2547
ผ่ายุทธศาสตร์TMBใหม่ใช้เครือชินฯขึ้นบิ๊กแบงก์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย
โฮมเพจ บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส - AIS
DBS Bank Homepage
โฮมเพจ ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ

   
search resources

ชินคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ
ธนาคารทหารไทย
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย - IFCT
ดีบีเอส กรุ๊ป สิงคโปร์
แคปปิตอล โอเค, บจก.
สุภัค ศิวะรักษ์
Banking and Finance




เปิดแผนทหารไทย (TMB) สานฝันใช้เครือข่ายพันธมิตรกลุ่มชินฯ ขึ้นชั้นบิ๊กแบงก์ของประเทศ ใช้ฐานข้อมูลและจุดแข็งร่วมกัน เผยเฉพาะฐานลูกค้า "ทหารไทย-ดีบีเอส-เอไอเอส" ในไทยรวมกันถึง 16 ล้านคน แบ่งขอบเขตธุรกิจชัด "บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล" ให้แคปปิตอล โอเค ที่เหลือต้องใช้บริการทางการเงินกับทหารไทยใหม่

การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทยกับธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นสัญญาณการเริ่มต้นที่ทำให้ธนาคาร ทหารไทยมีความหวังในการขึ้นเป็นธนาคารชั้นนำ ของเมืองไทยที่คู่แข่งมิอาจมองข้าม

ไม่เพียงแค่ธนาคารที่จะมีสินทรัพย์เพิ่มเป็น 6.79 แสนล้าน (หลังควบรวมกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ไอเอฟซีที ในเดือนก.พ.) แต่มีมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจที่มากกว่า การควบรวมกิจการทั่วไป

ชี้จุดแข็ง"ผู้ถือหุ้น-พันธมิตร"

แหล่งข่าวธนาคารทหารไทย ยืนยันว่าการควบรวม 3 สถาบันการเงินเข้าด้วยกันด้วยความ เต็มใจทำให้ธนาคารทหารไทยใหม่มีฐานะทางการเงินและทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยอมรับว่าผู้ถือหุ้นและพันธมิตรเป็นจุดแข็งของธนาคารทหารไทยยุคใหม่

"โอกาสที่การทำธุรกิจของธนาคารทหาร ไทยใหม่จะมีรูปแบบการขยายธุรกิจที่ชัดเจน โดยเฉพาะการบุกตลาดรายย่อย เพราะธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ขณะเดียว เมื่อผนวกกับบริษัท แคปปิตอล โอเค แล้วเราจะมีฐานลูกค้าที่มากที่สุด เพราะฐานลูกค้าของแคปปิตอล โอเคมีอย่างน้อย 12 ล้านคนที่เป็นลูกค้าโทรศัพท์มือถือของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS)ส่วนทหารไทย กับดีบีเอส ไทยทนุ มีลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา และลูกค้าธุรกิจรวมกันอีก 4 ล้านราย"

จากนี้ไปธนาคารทหารไทยจะเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรให้มากที่สุด โดยใช้ฐานข้อมูล ฐานลูกค้าและจุดแข็งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างธนาคารทหารไทย กลุ่มชินฯ ดีบีเอส สิงคโปร์และแคปปิตอล โอเค เป็นการเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้น เนื่องจากนายพานทองแท้ ชินวัตร ถือหุ้นในธนาคารทหารไทย ขณที่ดีบีเอส สิงคโปร์ถือหุ้นในแคปปิตอล โอเค

ทั้งนี้ แคปปิตอล โอเคร่วมทุนระหว่าง บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น ในสัดส่วน 60% และธนาคารดีบีเอสสิงคโปร์อีก 40%

"เราจะแชร์ลูกค้าทั้งเครือ โดยจะแยกให้บริการทางการเงินแต่ละบริษัทให้ชัดเจน เช่น แคปปิตอล โอเคให้บริการสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต ดังนั้นบริการทางการเงินอื่นๆ จะเป็นของธนาคารทหารไทย" ไอเอฟซีทีเติมอุตสาหกรรม

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า การรวมกิจการจะทำให้ธนาคารทหารไทยได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของกลุ่มดีบีเอส ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Financial Products) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)และเทคโนโลยีโครงสร้างขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติการที่ก้าวหน้า ส่วนไอเอฟซีทีถือเป็นสถาบันการเงินที่มีมาตรฐาน นอกจากครอบครอง ลูกค้าอุตสาหกรรมแล้วผู้บริหารและพนักงานเป็นมืออาชีพ

แหล่งข่าวธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า จากการเข้าไปประชุมร่วมกับคณะกรรมการและผู้บริหารไอเอฟซีที พบว่า จุดแข็งของไอเอฟซีทีไม่เพียงแต่มีฐานลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และหลักประกันสินเชื่อเท่านั้น ลูกค้าเอสเอ็มอีหรือสินเชื่อที่วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท ยังเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพของอุตสาหกรรมประเทศ โดยคิดเป็น 70% ของพอร์ต 200,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของไอเอฟซีทีที่ต้องแก้ไขคือ ข้อจำกัดในการระดมเงินฝากจึงต้องหันไประดมเงินจากต่างประเทศ ทำให้มีภาระการเสียดอกเบี้ยที่มาก ปัจจุบันไอเอฟซีทีมีต้นทุนในส่วนนี้ประมาณ 3.2% ขณะที่ธนาคาร ทหารไทยมีต้นทุนประมาณ 1.2% จึงต้องลดต้นทุนโดยใช้การระดมเงินฝากเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง

"ทหารไทยเก่งเงินฝาก ดังนั้น การหาเงินฝากแสนล้านบาท ไม่เกิน 1 เดือนก็หาได้แล้ว เงินส่วนนี้หากนำไปไถ่ถอนหนี้ของไอเอฟซีทีต้นทุนจะลดทันที"

ทั้งนี้ ฐานะทางการเงินธนาคารทหารไทยมีสินทรัพย์ 379,000 ล้านบาท สินเชื่อ 301,000 ล้านบาท เงินฝาก 322,000 ล้านบาท สาขา 365 แห่ง ส่วนดีบีเอส ไทยทนุ มีสินทรัพย์ 101,000 ล้านบาท สินเชื่อ 82,000 ล้านบาท เงินฝาก 81,000 ล้านบาท สาขา 61 แห่ง จากการควบรวมแค่ 2 ธนาคารจะทำให้กลายเป็นธนาคารที่มีเงินกองทุนรวม 10.8% หนี้เสีย (NPL) เหลือ 10% ขณะที่กันสำรองNPLสูงถึง 89.4%

"การควบรวมครั้งนี้นับเป็น Deal of the Year เพราะไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน ที่ผ่านมาเป็นการครอบงำกิจการ (Take over) ขณะที่ครั้งนี้เป็นการควบรวมที่อยู่บนพื้นฐานความสมัครใจ ให้เกียรติกัน มีความเห็นอกเห็นใจกัน ทำให้การรวมแล้วที่มีความสุข ประการ ต่อมารวมแล้วมีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น สุดท้ายยังเป็นการตอบสนองนโยบายแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Masterplan) เรียกได้ว่า Win Win Win แต่ยอมรับว่าเป็นการควบรวมที่ทุกคนเฝ้ามองอยู่ ผมจึงต้องทำให้ธนาคารทหารไทยสูงขึ้นไม่ใช่เตี้ยลง คอยดูภายใน 1 ปีธนาคารทหารไทยจะยิ่งใหญ่" นายสุภัคกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us