Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 มกราคม 2547
เจ้าสัวซีพีหนุน"ฟูดเซฟตี้" หวั่นอนาคตไก่ถูกกีดกัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือเจริญโภคภัณฑ์

   
search resources

เครือเจริญโภคภัณฑ์
กระทรวงพาณิชย์
สถาบันคีนันแห่งเอเชีย
ธนินท์ เจียรวนนท์
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
วัฒนา เมืองสุข
Organic Farming




"เจ้าสัวซีพี" ชี้ผู้นำเข้าจะให้ความสำคัญ "ฟูด เซฟตี้" มากขึ้น หากผลิตสินค้าไม่ถูกสุขอนามัยโอกาสถูกกีดกันมีมาก "สมคิด" ตอกย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญอุตสาหกรรมอาหาร เผยการเกิดโรคระบาดในไก่เป็นวิกฤตที่จะแปรให้เป็นโอกาสที่จะสังคายนาการผลิตสินค้าอาหารทั้งระบบ เตรียมเรียกผู้ว่าฯซีอีโอประเมินผลการแก้ไขปัญหาไก่อีกครั้ง 31 ม.ค.นี้ ด้าน "วัฒนา" รับประกันไก่ที่ขายในห้าง-ตลาดสดปลอดภัย

วานนี้ (28 ม.ค.) สถาบันคีนันแห่งเอเชีย ได้จัดการสัมมนาเชิงวิชาการ โอเว่น คีนัน ประจำปี 2547 ในหัวข้อเรื่อง "อุตสาหกรรมอาหารไทย : สิ่งท้าทายและโอกาสในตลาดโลก" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้สนใจเข้าฟังกว่า 500 คน

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่อง "มุมมองของผู้นำในการส่งออกอาหารของไทย" ว่า แนวโน้มของโลกจากนี้ไป ประเทศที่นำเข้าจะให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีมาตรฐานและถูกสุขอนามัยมากขึ้น และจะทำให้การนำมาตรการกีดกันมาใช้มีมากขึ้น เพราะเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า การตรวจสอบสารตกค้างทั้งในกุ้ง ไก่ และปลาจะทำได้ดีขึ้น และหากสินค้าไม่ดีจริงก็จะรอดพ้นการตรวจสอบได้ยาก

ทั้งนี้ ยังคาดการณ์แนวโน้มได้อีกว่าจากนี้ไป ประเทศที่นำเข้าสินค้าอาหารจะมีการปกป้องสุขภาพของคนในประเทศมากขึ้น และจะไม่นำเข้าสินค้าที่มีปัญหา ดังนั้น ผู้ผลิตควรจะให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้ เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยให้กับสินค้าอาหารที่ผลิตได้ เพราะถ้าไม่ผลิตสินค้าอาหารที่ได้สุขอนามัยและได้มาตรฐาน ผลกระทบจะเกิดขึ้นแน่

"อย่างของซีพี ได้สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยการเลี้ยงไก่ ซีพีเลี้ยงเป็นแสนตัว ใช้เทคโนโลยีควบคุมหมด เพื่อที่จะรู้ว่าต้องให้น้ำเมื่อไร อาหารเมื่อไร และเลี้ยงในระบบปิด อีกทั้งในรัศมี 5 กิโลเมตรจะห้ามเลี้ยงไก่ และยังจะส่งเสริมให้มีการปลูกผักและผลไม้รอบๆ ด้วย ขณะที่คนเลี้ยง จะให้อยู่กับไก่ตั้งแต่ปล่อยสู่ฟาร์มจนถึงนำเข้า โรงเชือด ไม่ให้ออกไปไหน แต่เมื่อเลี้ยงจบแล้ว ก็จะให้พัก ซึ่งมั่นใจว่าป้องกันโรคได้แน่นอน" นายธนินท์กล่าว

นายธนินท์กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลต้อง การให้ไทยเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอาหารปลอดภัย รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวดออกมาใช้ โดยจะต้องดูแลตั้งแต่วัตถุดิบ ซึ่งวัตถุดิบนี้สำคัญ แต่ไม่จำเป็นต้องทำในไทย โดยไทยสามารถอาศัยประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานการผลิตให้ได้ โดยไทยนำพันธุ์ นำเทคโนโลยีไปให้ เพื่อทำให้มีคุณภาพ รวมทั้งควรจะส่งเสริมให้คนไทยมีการไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องการซื้ออาหารไทย แต่ไม่มีเงิน ไทยก็ควรจะไปลงทุนผลิตแล้วขายเลย หรือบางประเทศที่ขายเข้าไปได้ยากอย่างสหภาพยุโรป (อียู) ก็ควรจะเข้าไปลงทุน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็ทำอยู่แล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งในส่วนของซีพีเองก็จะไปลงทุนในจีน อินเดีย เวียดนาม และพม่า

นอกจากนี้ นายธนินท์เห็นว่านโยบายที่รัฐบาล กำลังจะจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศจะเป็นการ ช่วยเหลือให้ผู้ผลิตสินค้าขนาดกลางและเล็ก (SMES) ของไทยสามารถขายสินค้าได้

"สมคิด"เร่งปรับวิกฤตเป็นโอกาส

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหารเป็นอย่างมาก และได้กำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนา เพราะอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้วัตถุดิบภายในประเทศสูง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมบริการได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร และระบบการขนส่ง (ลอจิสติกส์) จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้แข็งแรง

"จากนี้ไป ประเทศไทยจะไม่ผลิตอาหารเพื่อ นำไปบริโภคแค่ประทังชีวิต แต่จะมองอุปสงค์ของโลกว่าต้องการอะไร ต้องการสินค้าที่ดี มีคุณภาพ มีมาตรฐาน เราจึงต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลกและต้องให้ความสำคัญ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าการผลิตภาคเกษตรมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศมาก" นายสมคิดกล่าว

นอกจากนี้ ไทยไม่เพียงแต่จะผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดโลก แต่ภายในประเทศเองก็จะมีการพัฒนาทั้งระบบ เพราะในปีนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้เป็นปีความปลอดภัยด้านอาหาร (ฟูด เซฟตี้) ที่จะพยายามผลักดันให้มีการรักษาสุขอนามัยตั้งแต่เกษตรขั้นพื้นฐาน ไปสู่ฟาร์ม สู่โรงงาน และสู่ร้านอาหารและผู้บริโภค โดยนโยบาย ของรัฐบาลจะพัฒนาตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง จากนี้ไปแนวคิดที่ว่าร้านอาหารยิ่งสกปรก ยิ่งอร่อย จะต้องหมดไป และจะเหลือแต่ร้านที่สะอาด และอร่อย ซึ่งจะช่วยให้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศบริโภคอาหารที่มีมาตรฐานเดียวกัน

นายสมคิดกล่าวว่า สำหรับปัญหาโรคระบาดในไก่ที่เกิดขึ้น ถือเป็นโชคที่ไม่ดี หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายฟูด เซฟตี้ แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศที่จะสร้างความตื่นตัวให้คนไทยรู้จักสุขอนามัยว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเมื่อก่อนเคยมีปัญหาการใช้ยาในกุ้ง ยิ่งห้ามก็ยิ่งใช้ แต่วันนี้ไม่ได้ และรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้ แปรวิกฤตให้เป็นโอกาส ทำให้อาหารไทยเป็นมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ อยากขอย้ำว่าการแก้ไขปัญหา รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างทันท่วงที มีการประชุมผู้ว่าฯซีอีโอ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำคนเดียวไม่ไหว โดยหลังจากให้ผู้ว่าซีอีโอไปทำงานแบบซีเรียส โดยแบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งสำรวจและอีกทีมหนึ่งทำลายเพื่อคุมให้อยู่ โดยหากพบไก่ติดเชื้อ ก็ให้ขีดวง 5 กิโลเมตร ห้ามเคลื่อนย้าย และหากพบใครป่วยให้รีบแจ้ง ซึ่งผลจากการให้ผู้ว่าฯซีอีโอไปทำล่าสุดเช้าวานนี้ (28 ม.ค.) พบว่ามีไก่ติดเชื้อ 25 จังหวัด ซึ่งได้สั่งให้ทำลายแล้ว มีผู้ป่วย 3 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย สงสัย

11 ราย และไม่มีรายงานการติดเชื้อเพิ่ม

"ยังพบไก่เป็นโรคเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้ขอให้มีการทำงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลจะออกแถลงการณ์ ทุกวันผ่านกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานโฆษกรัฐบาล เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพราะโรคไข้หวัดนกติดจากไก่สู่คนได้ ไม่ติดจากคนสู่คน และจะได้ไม่เกิดการเข้าใจผิดเหมือนกับที่มีข่าวติดจากไก่ไปสู่หมู" นายสมคิดกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะเรียกประชุมผู้ว่าซีอีโออีกครั้ง เพื่อประเมินผลความ คืบหน้าในการทำงานว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้วปรับระบบการเลี้ยงเป็นฟาร์มปิด

นายสมคิดกล่าวอีกว่า จากนี้ไปผู้ที่เลี้ยงไก่ ควรจะเปลี่ยนระบบการเลี้ยงเป็นระบบฟาร์มปิด รวมไปถึงสัตว์อื่นๆ ด้วย เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับ และมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อให้มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ส่วนไก่ที่เสียหาย รัฐบาลก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

"เมื่อรัฐบาลช่วยแล้ว เอกชนก็ไม่ควรออก มาชี้ว่าคนโน้น คนนี้ทำไม่ดี กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุขทำอย่างนั้นไม่ถูก ทำอย่างนี้ ไม่ถูก แต่จะต้องออกมาพูดว่าจะช่วยกันยังไงมากกว่า" นายสมคิดกล่าว

นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อยากจะขอยืนยันกับผู้บริโภคอีกครั้งว่าไก่ที่ซื้อไปบริโภคจากห้างสรรพสินค้าและตลาดสด เป็นไก่ที่ปลอดภัย และไม่ได้เป็นไก่ที่นำมาจากแหล่งที่เป็นโรค เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วม กับกรมปศุสัตว์ในการออกตรวจสอบอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ส่วนการที่คนไม่บริโภคไก่ และทำให้ไก่ราคาตก และหมูราคาขึ้นนั้น เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นเรื่องของความต้องการ แต่ก็จะเข้าไปดูไม่ให้มีการขึ้นราคามากเกินไปจนกระทบกับประชาชน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us