เคทีซี เล็งตั้งบริษัทร่วมทุนทำ การตลาดและโฆษณาเอง ผนึกพลังกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ
ช่วยลดต้นทุนการตลาดและเพิ่ม มูลค่าแบรนด์
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
หรือ KTC เปิดเผยว่า บริษัทมีความสนใจต่อธุรกิจโฆษณาและการตลาด เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาส
และช่องว่างในการทำธุรกิจด้านนี้ โดยเฉพาะบริษัทได้ใช้งบประมาณในการทำการตลาดและการโฆษณาเป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูง
โดยในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบประมาณการตลาดซึ่งรวมถึงการซื้อสื่อโฆษณาเป็นจำนวนสูงถึง
900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น เท่าตัวจากงบของปี 2546 ที่ใช้เงินงบประมาณในส่วนนี้ถึง
450 ล้านบาท
สำหรับวิธีดำเนินงานในธุรกิจโฆษณาของเคทีซี คือ จะจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ในลักษณะของบริษัทร่วมทุนระหว่างเคทีซีกับบริษัทโฆษณาที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากต่างประเทศ
โดยในปัจจุบันได้เปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอยู่แล้ว ทั้งนี้เคทีซีเองไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ดังกล่าว
คาดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถสรุปผลการศึกษาว่าบริษัทใหม่จะมีรูปแบบอย่างไร ทั้งนี้ปัจจุบันเคทีซีได้ว่าจ้างให้บริษัทลีโอเบอร์เนทท์เป็นผู้ดูแลทางด้านการตลาดของบริษัท
วัตถุประสงค์หลักของเราคือต้องการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ของเคทีซีให้สูงขึ้น ทำให้งานของเคทีซีที่ออกมาสู่สายตาผู้บริโภคดีขึ้น
ส่งเสริมงานทางด้านการตลาดให้ได้ผลมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานทางด้านนี้ได้อีกด้วย
รวมทั้งเราก็ยังรับงานทางด้านการตลาดและโฆษณาจากบริษัทอื่นๆ ที่ต้องการงานด้านนี้ในลักษณะเดียวกันกับเคทีซี
นายนิวัตต์ กล่าว
นายนิวัตต์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีบริษัทที่ต้อง การทำการตลาดในลักษณะเดียวกันกับเคทีซี
อีกจำนวนมาก ซึ่งการตลาดที่เคทีซีดำเนินการนั้น จะเน้นกลุ่มลูกค้าตลาดบนที่มีกำลังซื้อ
อยู่ในเกณฑ์สูง ส่วนกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อต่ำก็จะเน้นสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหลัก
ในขณะนี้บริษัทได้เริ่มทำบัตรสำหรับเติมน้ำมันให้กับองค์กรต่างๆ โดยบริษัทจะได้รับส่วนลดจากการเติมน้ำมัน
1.2% ของราคาน้ำมัน และเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับองค์กร ซึ่งได้ทำการทดสอบมาแล้วระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ ก็จะพัฒนาระบบการจองตั๋วชมภาพยนตร์ผ่านโทรศัพท์มือถือแต่วิธีชำระเงินนั้นให้ชำระผ่านบัตรเดบิต
และบัตรเครดิต ของบริษัท ใช้งบลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 20-30 ล้านบาท