วันที่ 1 มกราคม 2547 ดนุชา วีระพงษ์ เพิ่งจะมีอายุครบ 35 ปีเต็ม และเพิ่งจะมีอายุงานในบริษัทตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง
ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพียง 2 เดือน
เขากลับเข้ามาช่วยงานในกิจการของครอบครัวในช่วงคาบเกี่ยวที่กำลังจะกลายเป็นบริษัทมหาชน
โดยการนำหุ้นเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
"เรื่องเข้าตลาดหุ้นนั้น ที่บริษัทเคยมีแนวคิดมาประมาณ 1 ปีเศษแล้ว โดยผมได้คุยกับน้องชาย
และเป็นอันว่า ถ้าบริษัทจะขยายตัวได้ดีขึ้น ก็ควรจะนำเข้าตลาดฯ ประกอบกับขณะนั้น
ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง เขาก็มาชักชวนด้วย" ดนุชาเล่า
ดนุชาเรียนจบระดับมัธยมต้น จากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และบินไปเรียนต่อระดับไฮสกูลที่สหรัฐอเมริกา
เขาจบปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาเศรษฐศาสตร์การเงิน จาก Bentley College
มลรัฐ Massachusettes และต่อด้วยปริญญาโท บริหารธุรกิจ สาขาการตลาด จาก University
of Connecticut
กลับมาอยู่เมืองไทย ก่อนที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ปี โดยเริ่มงานครั้งแรกที่บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน
และย้ายไปอยู่ฝ่ายสินเชื่อที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอ็มซีซี
"ผมมีความเชื่อในเรื่อง professional ดังนั้นแม้ตอนจบกลับมาใหม่ๆ ที่บ้านมีธุรกิจอยู่แล้ว
แต่ก็ยังอยากจะไปหาประสบการณ์จากภายนอก"
หลังประเทศไทยต้องประกาศลดค่าเงินบาทบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอ็มซีซี ถูกทางการสั่งปิดในปี
2541 เขาได้ย้ายไปอยู่ธนาคารเอเชีย โดยเป็นผู้จัดการสาขาสาธุประดิษฐ์ ทั้งที่เพิ่งมีอายุไม่ถึง
30 ปี และได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการสาขาที่หนุ่มที่สุดที่ธนาคารแห่งนี้เคยมี
"เอบีเอ็นแอมโร เป็นคนเลือกให้ผมเป็นผู้จัดการสาขาเอง เพราะผมมีแบ็กกราวน์จากต่างประเทศ
และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้"
เป็นผู้จัดการสาขาสาธุประดิษฐ์ได้ 1 ปี ก็ถูกเลื่อนขึ้นไปเป็นผู้จัดการสาขาสาทร
21 และสาขาพระราม 4 โดยดูแลทั้ง 2 สาขาในเวลาเดียวกัน
ปี 2545 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสายงานขายและบริการ
ก่อนที่จะลาออกเพื่อกลับมาดูแลธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546