Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2547
สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ต้องเรียกเขาว่า "คุณหมอ"             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 

   
related stories

N.C.Housing สีสันใหม่ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้

   
search resources

วังทองกรุ๊ป
สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม




หากคนที่ไม่รู้จักพื้นเพครอบครัวของสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม คงต้องสงสัยว่าในเมื่อเขามีอาชีพที่มั่นคง เป็นที่ยอมรับในสังคมอยู่แล้ว ทำไมถึงคิดเข้ามาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

สมเชาว์เรียนจบคณะแพทยศาสตร์ สาขาอายุรกรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2521 และไปใช้ชีวิตรับราชการเป็นอายุรแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ถึงกว่า 10 ปี

ตลอดเวลาที่เขาไปใช้ชีวิตรับราชการ ถือเป็นช่วงชีวิตที่ราบเรียบ ไม่มีอะไรตื่นเต้น และทางบ้านก็มีการชักชวนเขาอยู่ตลอดให้ลาออกเพื่อกลับมาช่วยดูแลกิจการของครอบครัว ซึ่งขณะนั้นยังบริหารงานกันอยู่ในนามของวังทองกรุ๊ป

"วังทองกรุ๊ป เป็นบริษัทที่คุณพ่อกับน้องเขยของผมร่วมกันก่อตั้งขึ้น" เขาเล่า

การชักชวนให้กลับมาช่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2534 เขาก็ตัดสินใจว่าจะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

"ตอนนั้นผมคิดว่าสาขาที่เราเรียนมา ได้ปริญญามาแล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องทำอย่างนั้นเสมอไป มันก็เหมือนพื้นฐานวิชาชีพอย่างหนึ่ง แต่วิชาชีพที่เราเรียนมันสามารถไปเป็นพื้นฐานของอีกหลายวิชาชีพได้ เราเอาวิชาชีพที่เรามี เรียนมาแล้วไปทำอย่างอื่นได้เหมือนกัน ไม่ใช่เป็นแพทย์อย่างเดียว ก็ลองดู ก็เลยลาออก"

เขากลับเข้ามาช่วยงานที่บ้าน โดยได้รับตำแหน่งผู้จัดการโครงการบ้านภาสกร บางขุนเทียน ของบริษัทภาสกรการเคหะในเครือวังทองกรุ๊ป ซึ่งตำแหน่งนี้ เปรียบเสมือนเป็นการฝึกงานให้คนที่ยังไม่เคยมีความรู้ทางด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เลยอย่างเขา ให้สามารถเข้าใจธุรกิจนี้ได้มากขึ้น

"ตอนนั้นต้องลงไปดูถึงระดับล่างเลยว่าเขาขายกันอย่างไร เขาดูแลโครงการกันอย่างไร ก่อสร้างกันอย่างไร ตอนนั้นก็พยายามศึกษา ไปดูถึงหน้างาน ไปตากแดดกับเขา พยายามไปปีนเสากับเขา ไปดูคาน ดูอะไรพวกนี้ก็เสียวเหมือนกัน เพราะเราไม่เคยชิน เดินไป ขาสั่นไป แต่ก็ได้ความรู้มาเยอะ"

ด้วยความที่เป็นคนที่ต้องการเรียนรู้ เขาได้เข้าอบรมหลักสูตรเรียลเอสเตทของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 8 และต่อด้วยการเรียนต่อ MBA ที่นี่ในปี 2535

โครงการ MBA ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อตั้งขึ้นโดยศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ซึ่งเป็นปรมาจารย์ของคนหลายคนในแวดวงตลาดหุ้น ซึ่งสมเชาว์ก็ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์สังเวียนด้วยคนหนึ่ง

"ผมเป็นรุ่นรองสุดท้ายที่ได้เรียนกับท่าน หลังจากนั้นท่านสอนอีก 1 ปี ก็เลิกสอนเพราะปัญหาสุขภาพ"

สมเชาว์ยอมรับว่าแนวคิดเรื่องเกี่ยวกับตลาดหุ้นได้ผุดขึ้นในสมองของเขา ในช่วงที่ได้เข้ามาเรียน MBA ที่ธรรมศาสตร์ แต่โชคร้าย คือในปี 2537 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนเรียนจบ น้องเขยของเขาได้เสียชีวิตลง บริษัทวังทองกรุ๊ปจึงจำเป็นต้องแตกตัวออก โดยเขาและบิดาได้แยกออกมาเปิดบริษัทเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง

แนวคิดเรื่องการเข้าตลาดหุ้น จึงมาเป็นรูปเป็นร่างหลังจากนั้น อีกถึง 10 ปีต่อมา

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us