Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มกราคม 2547
5บล.ขอเป็นที่ปรึกษาฯนำอสมท.เข้าตลาดหุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โฮมเพจ อสมท.

   
search resources

ทิสโก้, บง. - TISCO
แอสเซท พลัส, บล.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ธนชาต, บล.
ภัทรธนกิจ, บง.
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (MCOT)
ไทยพาณิชย์, บล.
กระทรวงการคลัง
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
TV




อ.ส.ม.ท.คึกคักรับมติครม.อนุมัติแปรรูปเข้าตลาดหุ้นได้ เปิดโผ 5 รายบริษัทหลักทรัพย์คั่วงานที่ปรึกษา-อันเดอร์ไรเตอร์ พร้อมเร่งปรับโครงสร้างใหม่รองรับ เตรียมเปิดโครงสร้างใหม่ของสำนักข่าวไทยเดือนหน้า เผยรายได้เดือนกันยายนถึงธันวาคม 2546 โกยรายได้เกินเป้าหมายได้ 200 กว่าล้านบาทต่อเดือน

แหล่งข่าวจากองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย หรืออ.ส.ม.ท.เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้อ.ส.ม.ท.ทำการแปรรูปองค์กรเพื่อพร้อมเป็นบริษัทมหาชนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้นั้น หลังจากนี้ไปอ.ส.ม.ท.ต้องดำเนินการจัดหาบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามารับผิดชอบดำเนินการ ในการศึกษารายละเอียดต่างๆ

ความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้คณะกรรมการจัดจ้างที่ อ.ส.ม.ท.ตั้งขึ้นได้กำหนดให้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน 5 รายไว้แล้วให้เข้ามาเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการ เงินและมีสิทธิ์ที่จะยื่นข้อเสนอในการคัดเลือกและแต่งตั้งผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรเตอร์) ต่อ อ.ส.ม.ท.ได้ ประกอบไปด้วย 1.บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ 2.บล.ไทยพาณิชย์ 3.บล.ธนชาติ 4.บล.ภัทร 5.บล.แอสเซทพลัส อย่างไรก็ตาม อาจจะเหลือเพียงรายเดียวหรือหลายรายก็ได้แต่จะคัดเลือกให้เร็วที่สุด

"อ.ส.ม.ท.จะต้องเข้าตลาดหุ้นให้ได้ภายในปีนี้ ตามนโบายของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ประกาศไว้ชัดเจนว่า หากรัฐวิสาหกิจใดที่มีผลการดำเนินงานดีก็ให้เข้าตลาดหุ้นในปีนี้ให้ได้"

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เข้าตลาดหุ้นแล้ว คาด ว่า รัฐบาลยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยผ่านทางกระทรวงการคลังซึ่งถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% ส่วนที่เหลือ กระจายให้กับบุคคลภายนอกรวมทั้งพนักงานของ อ.ส.ม.ท.เองด้วย แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนที่ชัดเจนว่าเป็นเท่าใด ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการ จะมีการประชุมและพบ ปะกับพนักงานอ.ส.ม.ท.เพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการนำองค์กรเข้าตลาดหุ้นด้วย ซึ่งรูปแบบคงจะคล้าย กับการบินไทย หรือทิพยประกันภัยที่รัฐบาลยังคงถือหุ้นใหญ่แต่เป็นบริษัทมหาชน นอกจากนั้นแล้วจะนำอ.ส.ม.ท.เข้าตลาดโดยตรง จากเดิมที่เคยคิดว่าจะเอาบริษัทลูกเข้าแทน

นอกจากนั้น อ.ส.ม.ท.เองก็จำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งบางส่วนได้เริ่มทยอยปรับไปบ้างแล้วและบางส่วนรอการปรับอยู่ เช่น ล่าสุดเตรียมที่จะประกาศปรับโครงสร้างในส่วนของสำนักข่าวไทย ซึ่งปัจจุบันนี้นายมิ่งขวัญยังรักษาการอยู่ นอกนั้นก็เพิ่งประกาศยกระดับฝ่ายกฎหมายกับฝ่าย การตลาดขึ้นเป็นระดับสำนัก เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนตำแหน่งระดับรองผู้อำนวยการยังมีอยู่ 3 คน ประกอบด้วย นางอรัญรัตน์ อยู่คง รองผอ.ฝ่าย การบริหารงานบุคคล วิทยุ 2.นายชิตณรงค์ คุณะกฤดาธิการ รองผอ.ดูแลทางด้านสถานีโทรทัศน์เป็นหลัก 3.นายสิทธิศักดิ์ เอกพจน์ รองผอ.ดูแลทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีเป็นหลัก นอกนั้นจะมีตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวไทยซึ่งเทียบเท่ากับรองผอ. โดยอ.ส.ม.ท.มีพนักงานทั่วประเทศรวมกันมากกว่า 1,100 คน โดยแบ่งเป็นส่วนกลางประมาณ 70% และที่เหลือกระจายอยู่ในต่างจังหวัด

สำหรับผลประกอบการของอ.ส.ม.ท.นั้น เมื่อปีงบประมาณ 2546 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2545 -30 กันยายน2546 มีรายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท มีผลกำไรประมาณ 842 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วน 70% มาจากทีวี และ 30% มาจากวิทยุ ขณะที่ปีงบประมาณ 2547 นี้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ประมาณ 2,000 กว่าล้าน บาทและคาดผลกำไรประมาณ 1,500 ล้านบาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ผลประกอบการช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้คือ ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม ปรากฏว่าทำรายได้มากกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม อ.ส.ม.ท.ยังคงต้องนำส่งกำไรอย่างน้อย 40% ให้กับรัฐบาล ทั้งๆที่ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลแต่อย่างใด แต่ปัจจุบันอ.ส.ม.ท.ได้ส่งเงินเกินสัดส่วนที่เคยปฏิบัติมา โดยส่งไปประมาณ 60% จากยอดกำไรให้กับรัฐบาลเพราะผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลัง จากการปรับสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เป็นโมเดิร์นไนน์ทีวี

การเข้าตลาดหุ้นของอ.ส.ม.ท.เหตุผลหลักคือการสร้างความพร้อมในการแข่งขันกับธุรกิจโทรคมนาคม โดยเฉพาะทีวีกับวิทยุ ซึ่งในอนาคตจะมีการเปิดเสรีกันมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันยิ่งรุนแรงกว่า นี้มาก อีกทั้งเม็ดเงินโฆษณาในระบบของธุรกิจโทรทัศน์นั้นมีมากกว่า 60% จากมูลค่าตลาดโฆษณารวม กว่า 70,000 ล้านบาท เป็นบ่อทองที่ผู้ประกอบการโทรทัศน์ต่างก็จดจ้องที่จะโกยส่วนแบ่งให้มากที่สุดไม่เว้นแม้แต่อ.ส.ม.ท.เองด้วย

นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับตัวเพื่อต่อสู้กับคู่แข่ง โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เพราะปัจจุบันนี้วงการทีวีแทบจะแบ่งขั้วคู่ต่อสู่กันอย่างชัดเจนว่า ช่อง 3 แข่งกับช่อง 7 ส่วนช่องไอทีวีแข่งกับโมเดิร์นไนน์ทีวีของอ.ส.ม.ท. ดังนั้นเมื่อไอทีวีเข้าตลาดหุ้นได้แล้ว โมเดิร์นไนน์จึงต้องเข้าตลาดหุ้นด้วยเหมือนกันกับไอทีวี

อีกทั้งยังเป็นการระดมทุนเพื่อนำมาขยายงานต่างๆ ซึ่งในแผนระยะยาวของอ.ส.ม.ท.กำหนดไว้ที่จะลงทุนอีกมากถึงปี 2550 เช่น ลงทุนระบบโกลบอลเทเลวิชั่นเน็ตเวิร์กประมาณ 2,000 ล้านบาท ลงทุนการ ส่งสัญญาณระบบโทรทัศน์ออกอากาศในระบบดิจิตอล 1,000 ล้านบาท เป็นต้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us