บ้านมือสองขยายตัวตามบ้านใหม่ปี 46 เพิ่มจากปี 45 ถึง 20% ขณะที่บ้านใหม่ แนวโน้มปรับราคาบ้างแล้ว
เฉลี่ย 10-15% กลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน จึง น่าจะปรับราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 5-8% ปีนี้
จากปี 46
บ้านมือสองปีที่แล้ว เป็นปีที่ตลาดโตขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา จาก อัตราโตต่อเนื่อง
ระหว่างปี 2542-2546 เฉลี่ยปีละ 10% ช่วงปี 2546 ตลาดยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึง
15-20% โดยประมาณ
ขณะที่ช่วงที่ผ่านมา บริษัทรับซื้อ-ขายบ้านมือสองเกิดขึ้นใหม่กว่า 200 แห่ง ทั้งบริษัทจดทะเบียน
ใหม่ และบริษัทที่เคยปิดตัวไปแล้ว กลับมาทำตลาดใหม่ ภาวะการแข่ง ขันที่สูงขึ้น
ทำให้บริษัทบ้านมือสอง ต่างเร่งปรับเปลี่ยนแผนดำเนินงานให้รวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น
นายโกสินทร์ โกเมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าบริษัท
อีอาร์เอ แฟรนไชส์ ใช้ระบบ call center 1755 เพิ่มความสะดวกลูกค้า
นอกจากนี้ ยังใช้ระบบ IT ช่วยดำเนินการ เป็นการลดขั้นตอน และขยายฐานลูกค้า เพื่อเพิ่มความ
รวดเร็วการดำเนินงาน ซึ่งผลตอบรับดีพอสมควร แม้หลายบริษัทมีโปรโมชั่นตัดราคาค่าธรรมเนียมกันเอง
เหลือเพียง 1.5% แต่บริษัทตั้งค่าธรรมเนียมมาตรฐานที่ 3% เชื่อว่าลูกค้าของอีอาร์เอ
ยังคงเชื่อถือ และไว้ใจระบบการทำงานบริษัทเช่นเดิม
นอกจากนี้ การอบรมพัฒนาพนักงานขาย นับเป็นแผนดำเนินงานที่อีอาร์เอเน้นเป็นพิเศษ
เพื่อให้ถึงเป้า 1,000 คน จากเดิมปี 2546 มีพนักงานขาย 600 คน ประจำในสำนักงาน
42 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น 32 สาขาใน กทม.และ 10 สาขาต่างจังหวัด เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
และกระจายไปแหล่งเงินทุนได้ทั่วถึง
ส่วนยอดรายได้บริษัท ตั้งเป้า 3 ปี ระหว่าง 2546-2548 ประมาณ 5,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้
ยอดรับรู้รายได้แล้วราว 2,000 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ปี 2546 บริษัทยังมีโอกาสบริหารงานขายโครงการคอนโดมิเนียม
ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้าน บาทอีกด้วย
ตลาดรับสร้างบ้านโหมตลาด
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ผล สำรวจฝ่ายการตลาด บริษัท ปทุมดีไซน์
ดีเวลลอป พบว่าภาพรวมตลาด ยังคงร้อนแรงและเติบโตต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะปี 2546
ผู้ประกอบการบางรายที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สามารถก้าวพ้นวิกฤตได้ พร้อมความนิยม ที่สูงขึ้น โดยหลายบริษัทโชว์ตัวเลขกำไรจากผลประกอบการกันคึกคัก
ส่วนผู้ประกอบการที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ทั้งรายเก่า-ใหม่ ก็เตรียมพร้อมขยายการลงทุน
และยอดขายเพิ่มขึ้นกันอย่างมาก ขณะที่บางราย เตรียมแต่งตัวจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้กันมาก
ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำระดับท็อป 10 แต่ละราย ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30-60%
ขึ้นไป จากปริมาณความต้องการตลาดรวมปี 2546 ประมาณ 5,000 ล้านบาท
เพราะภาวะเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย สูงขึ้น ภายใต้การบริหารประเทศของ
รัฐบาลปัจจุบัน รวมทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ ช่วยกระตุ้นเกิดกำลังซื้อ ประชาชนจึงเลือกตัดสินใจลงทุนที่อยู่อาศัยช่วงนี้มากขึ้น
โดยเฉพาะความต้องการมีบ้านเดี่ยว รวมปัจจัยบวกข้างต้น ส่งผลกลุ่มผู้ประกอบการชั้นนำ
ในตลาดรับสร้างบ้าน ได้รับความไว้วางใจ เพราะ ความเชื่อมั่นคุณภาพและบริการธุรกิจ
รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้เกิดการจดจำ และเป็นที่ยอมรับ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไว้วาง
ใจ เลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านกลุ่มนี้ จากจำนวนบริษัททั้งหมดในตลาดขณะนี้ประมาณ
100 กว่าราย
ทั้งนี้ บริษัทกลุ่มชั้นนำสามารถกวาดยอดขายไปประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือประมาณ
50% ของตลาดรับสร้างบ้านรวมในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง การแข่งขันจึงยังคงอยู่ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลส่วนใหญ่
หรือกว่า 90%
ทั้งนี้ เริ่มมีการส่งสัญญาณจากกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ว่าแนวโน้มปรับราคาบ้างแล้ว
เฉลี่ย 10-15% กลุ่มบริษัทรับสร้าง บ้าน จึงน่าจะปรับราคาสูงขึ้นเฉลี่ย 5-8% ปีนี้
จาก ปี 2546 ด้วย
นายสิทธิพร สุวรรณสุต กรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป กล่าวว่าปี
2547 บริษัทยังคงตั้งเป้ายอดขายสูงกว่าปีที่ผ่าน มาประมาณ 50% คาดว่าจะมาจาก 3
สาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล 200 ล้านบาท สาขาสระบุรี 60 ล้านบาท และโคราชประมาณ 40
ล้านบาท รวมยอดขาย 300 ล้านบาท จากการปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ให้บริการ และพัฒนาคุณภาพงาน
ที่ยึดความต้องการผู้บริโภคเป็นแกนคิด ทำให้ประสบ ความสำเร็จมากขึ้น
"การที่บริษัทได้ทำการสำรวจข้อมูล และว่า จ้างการทำวิจัยตลาดและความต้องการผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
เพื่อนำมาปรับปรุงการผลิตและบริการ เพื่อสนองตอบผู้บริโภค ไม่ได้มีเป้าหมาย ที่ต้องการแข่งกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ
ในตลาดเป็นสำคัญ แต่ต้องการแข่งกับตัวเองมากกว่า ในการสร้างการยอมรับจากผู้บริโภค"
นายสิทธิพรกล่าว
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิเอมเพอร์เร่อร์ เฮาส์ เปิดเผยว่าบริษัทรับสร้างบ้านที่เข้าตลาดปี
2546 แต่ละแห่ง จะสร้าง จุดขายให้แตกต่าง และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทั้งรูปแบบบ้าน
วัสดุอุปกรณ์ การออกแบบตก แต่งภายใน รวมถึงระยะเวลาการผลิต ล้วนเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าเชื่อถือ
และมั่นใจในการดำเนินงานของบริษัท
นายสุรัตน์ชัยกล่าวว่า บริษัท ดิเอมเพอร์เร่อร์ เฮ้าส์ สร้างจุดขายเป็นเอกลักษณ์
คือเน้นบ้านสไตล์คลาสสิกระดับสูง พร้อมเปิดโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ 7 แบรนด์ เพื่อรองรับความต้องการ
ลูกค้าที่ให้บริษัทสร้างบ้านพร้อมตกแต่งภายในควบคู่กัน
แผนการตลาดบริษัทปี 2547 จึงแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนรับสร้างบ้านและขายเฟอร์นิเจอร์
โดยตั้งเป้าปีนี้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนรับสร้างบ้าน 250 ล้านบาท และเฟอร์นิเจอร์
50 ล้านบาท
แนะตั้งสมาคมรับสร้างบ้าน
การพัฒนาตลาดรับสร้างบ้านปี 2547 น่าจะถึงเวลาแล้ว ที่จะรวมตัวกันตั้งหน่วยงานหรือองค์กร
เพื่อประโยชน์ ของผู้บริโภคเอง และเพื่อพัฒนาธุรกิจและศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างกลไกตลาด
และการแข่งขันที่ยุติธรรม สร้างกรอบควบคุมจรรยาบรรณวิชาชีพ
สร้างความรู้ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค รวมถึงเสนอปัญหาและแนวทางปฏิบัติแก่ภาครัฐ
เพื่อพิจารณากฎหมายที่เป็นอุปสรรค พร้อมขอส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจสร้างบ้านให้มีศักยภาพขยายตลาดแบบยั่งยืน
เพราะธุรกิจนี้ เป็นตัวจักรสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ เช่นกัน