Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มกราคม 2547
เผยเงินเฟ้อไทยปีแพะโต 1.8%ตั้งเป้า 47 กระฉูดตามภาวะศก.             
 


   
search resources

กระทรวงพาณิชย์
การุณ กิตติสถาพร
Economics




"พาณิชย์" เผยตัวเลขเงินเฟ้อไทยปีแพะขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ คาดสรุปสิ้นปี46 โตถึง 1.8% ส่วนปีนี้ (47) ตั้งเป้าขยายเป็น 2.0-2.5% เหตุเศรษฐกิจไทยขยายตัวค่อนข้างมาก

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัด กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือเงินเฟ้อ ในเดือนธ.ค.2546 ซึ่งสำรวจจากราคาสินค้าและบริการ 326 รายการ ครอบคลุมหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เคหสถาน การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ยานพาหนะ การขนส่งการสื่อสาร การบันเทิง การอ่านและการศึกษา เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2546 เพิ่มขึ้น 0.1% เทียบเดือน ธ.ค.2545 เพิ่มขึ้น 1.8% และอัตราเฉลี่ยทั้งปี 2546 เทียบกับปี 2545 เพิ่มขึ้น 1.8%

ทั้งนี้ การที่เงินเฟ้อในเดือนธ.ค. เพิ่มจากเดือนพ.ย.ในอัตรา 0.1% นั้น เป็นผลมาจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร และเครื่องดื่ม 0.3% ขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.4%

โดยในเดือนธ.ค.46 สินค้าสำคัญที่มีราคาลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ ผักสด เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักชี ผลไม้ เช่น ส้มเขียวหวาน มะละกอสุก แตงโม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ สุรา เนื่องจากการแข่งขันมีสูง ส่วนสินค้า ที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้าหอมมะลิ เครื่องประกอบอาหาร ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเชื้อ เพลิง ก๊าซหุงต้ม ค่าบริการส่วนบุคคล เช่น ค่าแต่งผมชาย

"ถ้าพูดโดยสรุป เงินเฟ้อในเดือนธ.ค.ที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากการ ปรับราคาน้ำมันในเดือนธ.ค.46 ถึง 2 ครั้ง และการปรับราคาก๊าซหุงต้ม กก.ละ 1 บาท เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.46 ที่ผ่านมา" นายการุณกล่าว

สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน ธ.ค.2546 ซึ่งคำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 235 รายการ โดย หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและกลุ่มพลังงานจำนวน 91 รายการ เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.2546 ไม่เปลี่ยนแปลง เทียบกับเดือน ธ.ค. 2545 ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอัตราเฉลี่ยทั้งปี 2546 เทียบกับปี 2545 เพิ่มขึ้น 0.2%

นายการุณกล่าวว่า ส่วนเงินเฟ้อทั้งปี 2546 ที่เพิ่มสูงขึ้น 1.8% นั้น เป็น ไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1.5-2% พอมาเดือนต.ค.ยังคาดว่าจะอยู่ในระดับ 1.5-2% เช่นเดิม แต่พอมาเดือนพ.ย.คาดใหม่ว่าจะอยู่ในระดับ 1.8% พอสิ้นเดือนธ.ค.ก็ออกมาที่ 1.8% พอดี ซึ่งการที่เงินเฟ้อทั้งปีเพิ่มขึ้น 1.8% เป็นผลมา จากการสูงขึ้นของดัชนีสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3.6% และดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่นๆ ไม่รวม อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น 0.7%

โดยสินค้าสำคัญที่มีราคาสูงขึ้น ในปี 2546 ได้แก่ ข้าวสารเจ้าหอมมะลิ ไก่สด ปลาและสัตว์น้ำ ผักและผลไม้ และน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าตรวจโรค ค่าทำฟัน ค่าโดยสารสาธารณะ และการบันเทิง ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ไข่ไก่ ค่าเช่าบ้าน เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ เบียร์ และสุรา

อย่างไรก็ตาม ในปี 2547 นี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับ 2.0-2.5% โดยอยู่บนพื้นฐานว่าอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 40 บาทต่อดอลลาร์ น้ำมันดิบเฉลี่ย 28-30 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยลิตรละ 16 บาท แต่ทั้งนี้ ในปี 2547 ยังมีปัจจัยที่จะผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งที่เห็นได้ ชัดคือการที่รัฐบาลคาดว่าผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัว 8% ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเกิน 2% รวมทั้งราคา สินค้าเกษตรที่จะเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัย ที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง เช่น การที่ไทยได้มีการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศ คู่ค้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us