บอร์ด กฟผ. ไฟเขียวให้ กฟผ.เซ็น MoU ร่วมบ้านปูกับซีแอลพี เพาเวอร์เพื่อแลกหุ้นราชบุรี (RATCH) และผลิตไฟฟ้า (EGCOMP) กฟผ.เล็งทุ่ม 2 หมื่นกว่า ล้านบาท กว้านซื้อหุ้น RATCH 100% ก่อนถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ อ้างแผนนี้ เพื่อชี้แจงนักลงทุนก่อน กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

วานนี้ (5 ม.ค.) บอร์ดการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีนายเชิดพงษ์ สิริวิชน์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้ประชุมวาระพิเศษ เพื่ออนุมัติให้ กฟผ. ทำข้อตกลง (MoU) กับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) กับ CLP Power เพื่อแลกหุ้นกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCOMP) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH)

นายสิทธิพร รัตโนภาส ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวว่า การลงนาม MoU ดังกล่าว ไม่ถือเป็นข้อตกลงทางกฎหมาย แต่เป็นข้อตกลงที่จะร่วมมือกันแลกซื้อ ขายหุ้น โดยทางเลือกที่ตกลงเป็นไปตามข้อเสนอของ บล.ภัทร ที่ปรึกษาการเงิน ที่ศึกษาไว้ตั้งแต่เขาเป็นประธาน EGCOMP โดยมีทางเลือกหลายทาง แต่ด้วยข้อจำกัดเวลาที่ กฟผ.ต้องมีความชัดเจนในเรื่องบริษัทลูกของ กฟผ. ก่อนที่จะกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น MoU จึงต้องเร่งสรุป และเกิดการซื้อขายจริงภาย ในสิ้นเดือน ก.พ.นี้

สำหรับแนวทาง คือ กฟผ.จะซื้อหุ้นราชบุรีจาก บ้านปู 15% มูลค่า 9,534.5 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะขายหุ้นที่ถือใน EGCOMP 24.99% ให้บ้านปู มูลค่า 10,864.9 ล้านบาท และขายให้ CLP Power 0.42% มูลค่า 182.5 ล้านบาท

"เราเจรจากันเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2546 นี้เอง และราคาหุ้นที่นำมาคำนวณ คือราคาย้อนหลังไป 15 วัน จากวันที่ปิดการซื้อขาย 31 ธ.ค. 2546 ซึ่งราคาเฉลี่ยออกมาอยู่ที่ หุ้นราชบุรี 43.8589 บาทต่อหุ้น และราคาหุ้นเอ็กโก้อยู่ที่ระดับ 82.5832 บาทต่อหุ้น โดยการซื้อขายดังกล่าว จะทำให้ กฟผ.ถือหุ้นในราชบุรีเป็น 60%Ž"ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าว

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าว อาจต้องยื่นคำเสนอขอซื้อหลักทรัพย์บริษัท ราชบุรี หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นรายย่อย ระดับเดียวกับที่ซื้อจากบ้านปู คือ 43.8589 บาทต่อหุ้น ส่วนจะซื้อทั้งหมด 100% หรือไม่ คงต้องขึ้นกับหลายๆ ด้าน หากจะซื้อคืนทั้งหมด คาดว่าจะใช้เงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาท และการที่จะนำหุ้น RATCH ออกจากตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นไปตามเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซึ่งต้องสรุป แผนทั้งหมดภายใน 1 เดือนจากนี้ หรือภายใน ก.พ. 2547

นายสิทธิพรกล่าวว่า แนวทางดังกล่าว ถือเป็น ข้อเสนอที่ทุกฝ่ายยอมรับทั้งหมด และเป็นทางเลือกที่ดี หากจะใช้วิธีอื่นๆ พิจารณาแล้ว เป็นเรื่องที่ดำเนิน การได้ยาก และด้วยข้อจำกัดเวลา จึงทำให้ทางเลือกนี้ มีประสิทธิภาพสูงสุด และจะสามารถอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจได้ง่าย ก่อนจะกระจายหุ้นในตลาด หลักทรัพย์ ส่วนความชัดเจนในเรื่องโครงสร้างการบริหารเอ็กโก้ และราชบุรีใน MoU ระบุให้ผู้บริหาร สามารถยื่นแสดงความคิดเห็นได้

ด้านนายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท บ้านปู กล่าวว่า เป็นข้อตกลงที่ดีมากสำหรับแนวทางนี้ แต่ยอมรับว่า ตัดสินใจยาก เพราะ กฟผ.และ CLP เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามท้ายสุด ต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ซึ่งคาดหวังว่าจะจบในเร็ววัน

ขณะที่วานนี้ ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามการซื้อขายหุ้นบริษัท บ้านปู (BANPU) บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCOMP) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ตามที่บริษัทร้องขอ เนื่อง จาก กฟผ. และ BANPU อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เรื่องซื้อขายหุ้น EGCOMP และ RATCH ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทดังกล่าว

คาด กฟผ.ทำเทนเดอร์ 40 บาท/หุ้น

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ธนชาติ ให้ความเห็นว่า หากการเจรจาสำเร็จ ผลดีน่าจะตกกับ BANPU และ RATCH มากกว่า EGCOMP เนื่องจาก BANPU จะได้ส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gains) จากการขาย RATCH ขณะที่ RATCH จะมีจุดแข็ง คือผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น กฟผ. ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศ

นอกจากนี้ กฟผ. ต้องเสนอซื้อหุ้น RATCH เป็นการทั่วไป (Tender Offer) ซึ่งตามกฎ ก.ล.ต. ราคาเสนอซื้อ ต้องสูงกว่าราคาซื้อขายเฉลี่ยย้อนหลัง 90 วัน คือ 40 บาทต่อหุ้น