Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 มกราคม 2547
PICNIพร้อมรุกตลาดตปท.เพิ่มหลังเทกโอเวอร์วีแก๊สที่เวียดนาม             
 


   
search resources

ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง, บมจ.
เอสซีที (เวียดนาม) แก๊ส - V-GAS
ธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน
Energy




ธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ แอลพีจี) เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเพิ่ม สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (PICNI) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ดำเนินธุรกิจนี้เพียงรายเดียว ที่มีความโดดเด่นในด้านการเติบโตทางรายได้และกำไรในรอบปี 2546

นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2547 รวมทั้งแผน การตัดสินใจซื้อบริษัทค้าก๊าซแอลพีจีที่ประเทศเวียดนามในเร็วๆ นี้

ชี้แจงการตัดสินใจเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม ?

มติคณะกรรมการบริษัท ปิคนิค แก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ได้มีมติให้บริษัทฯขยายกิจการไปยังเวียดนามเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทเตรียมเข้าไปซื้อกิจการบริษัท เอสซีที (เวียดนาม) แก๊ส จำกัด หรือ V-GAS เนื่องจากเล็งเห็นว่าเวียดนาม เป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีโอกาส โตสูงจึงถือว่าเป็นการรุกธุรกิจข้ามประเทศครั้งแรกของปิคนิค

ปัจจุบันระบบการค้าก๊าซของเวียดนามลอยตัวแล้ว และมาตรฐานต่างๆใกล้เคียงกับไทย ประกอบกับอัตราการใช้ก๊าซฯโตขึ้นเรื่อยๆ โดยประเทศเวียดนามมีความสามารถใน การผลิตก๊าซฯอยู่ปีละ 4.8 แสนตัน และมียอดนำเข้าอยู่ทั้งหมด 30% และผู้ค้าใหญ่ในเวียดนามมี 10 ราย เป็นของรัฐบาลอยู่ 3 ราย ซึ่งวีแก๊ส เป็นบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าไปลงทุนธุรกิจก๊าซฯในเวียดนาม มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้ค้าก๊าซฯเอกชน ที่เราจะเข้า ไปซื้อทรัพย์สินเป็นบริษัท วีแก๊ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าไปลงทุน

ทั้งนี้ ปิคนิคจะเข้า ไปซื้อทรัพย์สินของวีแก๊สทั้งหมดโดยรวมทั้งท่าเรือและโรงงานซ่อมสี ซึ่งเป็นจุดเด่นของวีแก๊สที่บริษัทให้ความสนใจ ปัจจุบันวีแก๊สมียอดขายประมาณ 5-7 พันตันต่อเดือน โดยฐานลูกค้าจะเป็นผู้ค้าปลีกและจ็อบเบอร์ ซึ่งการที่วีแก๊สมีถังก๊าซฯ หมุนเวียนอยู่แล้วในตลาด ทำให้การขยายยอดขายก๊าซฯทำได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ วีแก๊สยังได้สัมปทานธุรกิจนี้ถึง 30 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 2536 และปัจจุบันวีแก๊สอยู่ระหว่างการต่อรองรัฐบาลเวียดนามขอขยายเวลาสัมปทานเพิ่มอีก 30 ปีด้วย ในปี 2545 สถิติการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ของไทยอยู่ที่ 39 กิโลกรัม/คน/ปี แต่ เวียดนามอยู่ที่ 6 กิโลกรัม/คน/ปี ขณะที่ประชากรเวียดนามมีถึง 80 ล้านคน ทำให้เห็นศักยภาพชัดเจน คาดว่าในปี 2547 ยอดการใช้ก๊าซฯของ เวียดนามอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 12 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

สาเหตุที่เขาตัดสินใจขาย และมูลค่าทรัพย์สินที่บริษัทจะซื้อ ?

สาเหตุที่วีแก๊สขายธุรกิจนั้น เนื่องจากต้องการหันไปลงทุนธุรกิจที่มีกำไรสูงกว่าและความเสี่ยงด้านการบริหารต่ำกว่า ซึ่งธุรกิจก๊าซฯยิ่งโตก็ต้องยิ่งขยาย จำเป็นต้องมีเงินทุนมา รองรับ เขามองว่าปิคนิคมีศักยภาพ ในการทำธุรกิจที่เวียดนาม จึงเหมือน กับเครื่องรับและเครื่องส่งตรงกัน โดย วีแก๊สเสนอขายมาที่ 480 ล้านบาท แต่ เรารอบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทประเมินสรุปผลก่อนจะมีการเจรจาต่อรองราคาอีกครั้งหนึ่ง โดยบริษัทฯจะลงนามสัญญาบันทึกช่วยจำ (เอ็มโอยู)ไม่เกิน 15 มกราคม 2547 และคาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จไม่เกินกุมภา-พันธ์ 2547

โดยแหล่งเงินทุนที่ซื้อกิจการในเวียด-นามมาจากเงินทุนหมุน เวียนประมาณ 100 ล้าน บาท และที่เหลือจะมาจากการออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,500 ล้านบาทด้วย

สำหรับผลิต ภัณฑ์ของวีแก๊สจะใกล้เคียงกับเรา โดยจำหน่าย ก๊าซบรรจุถังขนาด 12, 15,45, 48 กิโลกรัม ซึ่งเวียดนามไม่มีถังก๊าซฯขนาด 4 กิโลกรัม ดังนั้นปิคนิคเข้าไปจะเป็นสีสันของตลาดก๊าซฯใน เวียดนาม เพราะเราจะนำถังขนาด 4 กิโลกรัมบุกตลาดที่เวียดนาม เพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภค เพราะถังขนาด 4 กิโลกรัมจะง่ายต่อการเคลื่อนย้าย

ปัจจุบัน วีแก๊ส ตั้งอยู่แถบเวียดนามใต้ (ดองไน) โดยส่วนใหญ่จะนำเข้าก๊าซฯจากไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งภายหลังจากปิคนิคเข้าไปซื้อกิจการ ก็จะทำหน้าที่ในการป้อนก๊าซฯให้กับวีแก๊สเอง

เราจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศหรือไม่ ?

หลังจากเราลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เราก็มีกำลังใจที่จะลงทุนในภูมิภาคนี้ต่อไป รวมถึงการเข้าไปซื้อธุรกิจก๊าซในเวียดนามเพิ่มเติม หากพบว่ามีผู้ประกอบการรายใดจะเลิกธุรกิจ เพราะในส่วนตัวมองตลาดเวียดนามแล้วมีความมั่นใจมาก เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับตลาดก๊าซฯในไทย ทำให้คาดการณ์ในอนาคตยอดการใช้ ก๊าซฯของเวียดนามจะโตใกล้เคียงของ ไทยหรืออาจแซงหน้า เพราะรัฐบาลเวียดนามต้องการรักษาทรัพยากรป่าไม้ของเขา โดยผลักดันให้ประชากรมา ใช้ก๊าซฯมากขึ้น

แผนการลงทุนในปี 2547 ?

บริษัทจะลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะสร้างคลังเพิ่ม ที่นครสวรรค์ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สมุทรสงคราม รวมทั้งมีแผนขยายก๊าซ ชอปและเพิ่มจำนวนถังก๊าซฯก็ยังคงเดิม

ในปี 2546 บริษัทมีกำลังการ ผลิตก๊าซฯอยู่ที่ 2 หมื่นตันต่อเดือน และปี 2547 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2.5 หมื่นตันต่อเดือน ขณะที่เวียดนาม จะมีกำลังการผลิตประมาณ 7 พันตันต่อเดือน ทำให้กำลังการผลิตของปิคนิคฯเพิ่มขึ้นทันที 33%

สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกตราสารหนี้ประเภทหุ้นไม่เกิน 3,500 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวยังนำมาใช้ในการลงทุนในต่างประเทศ ที่จะซื้อทรัพย์สินจากเอสซีที( เวียดนาม) แก๊ส รวมถึงการซื้อเรือขนส่งก๊าซ ปิโตรเลียมเหลว 2-3 ลำ มูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ปิคนิคจะออกการออกตราสารหนี้ประเภท ตั๋วสัญญาใช้เงิน และ/หรือ ตั๋วแลกเงิน ภายในวงเงินรวมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อ รองรับตั๋วแลกเงินที่จะถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เกิดจากปัจจัยอะไร ?

สืบเนื่องจากบริษัทมีการเติบโต ค่อนข้างสูง ทำให้ผลการดำเนินงานใน ช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2546 มีกำไรประมาณ 139 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 4/2546 กำไรจะดีกว่าไตรมาส 3 ที่มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนหันมาไล่ซื้อหุ้นPICNI จนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

และขอยืนยันว่าการตัดสินใจลงทุนในเวียดนามนั้น เป็นความลับไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ก่อน แต่อาจจะมีข่าวรั่วออกจากเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ประสานงานให้บริษัทกับเวียดนามก็ได้ ทำให้ช่วงนั้นราคาหุ้นPICNI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us