ปตท.สผ.ทุ่มเงิน 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้น"ไทยเชลล์ เอ็กซพลอเรชั่นแอนด์โปรดักชั่น"
และโอนสิทธิในแปลงสัมปทานบนบกหมายเลข L22/43 คาดดำเนินการเสร็จ ภายใน 29 ม.ค.47
ส่งผลให้กลาย เป็น ผู้ดำเนินการในแหล่งน้ำมันดิบบน บก ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และดันยอด
ขายรวมเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1.29 แสนบาร์เรล พร้อมกับรื้อ
วานนี้ (30 ธ.ค.) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(ปตท.สผ.)
และบริษัท พีทีทีอีพี ออฟชอร์ อินเวสท์เมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามสัญญาซื้อ
หุ้นทั้งหมดของบริษัท ไทยเชลล์เอ็กซ-พลอเรชั่นแอนด์โปรดักชั่น จำกัด และการโอนสิทธิในแปลงสัมปทานบน
บกหมายเลข L22/43 จากบริษัท เชลล์ ปิโตรเลียม เอ็น วี จำกัด โดยมีน.พ. พรหมินทร์
เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน
นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด
(มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทฯจะดำเนิน การชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าวประมาณ
205 ล้านดอลลาร์สหรัฐประมาณ 8,200 ล้านบาท อย่างช้าภายในวันที่ 29 มกราคม 2547
โดยแหล่งเงินทุนจะมา จากเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทที่มีอยู่ 1.9 หมื่นล้านบาทเหลือเพียง
1.1 หมื่นล้านบาท
การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้ปตท.สผ. และบริษัทในเครือเป็นผู้ถือ หุ้นทั้งหมด
และเป็นผู้ดำเนินการในแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยจะทำให้เกิดรายได้จากการขายปิโตรเลียมในทันที
ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการผลิตน้ำมันดิบ และปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้วของบริษัทฯ
รวมทั้งได้รับบุคลากรที่มี ความรู้และประสบการณ์ด้านธุรกิจปิโตรเลียมจากบริษัท
ไทยเชลล์ฯ
คาดว่าในปี 2547 ยอดขายรวมของ ปตท.สผ. จะเป็นวันละประมาณ 129,000 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ
เพิ่มขึ้นจากยอดขายรวมของปี2546 ที่ วันละประมาณ 107,000 บาร์เรล โดย บริษัทอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตใน
แหล่งเอส 1 เพิ่มขึ้นอีกจากที่ผลิตอยู่เดิม
ในการซื้อครั้งนี้ มีการแข่งขันสูงจากบริษัทน้ำมันทั่วโลก แต่สุดท้าย ปตท.สผ.ประสบความสำเร็จในการซื้อ
หุ้นของไทยเชลล์ฯ ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ดำเนินการแหล่งน้ำมันดิบบนบกขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
และจะเกิดรายรับจากการขายปิโตรเลียมทันที รวมทั้งยังเพิ่มสัดส่วนการผลิตน้ำมันดิบและปริมาณสำรองน้ำมันดิบด้วย
โดยแหล่งเอส 1 มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบถึง 110 ล้านบาร์เรล สามารถผลิตได้ถึง 20
ปี ซึ่งคุ้มค่าการ ลงทุน
ทั้งนี้ แหล่งเอส 1 มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณวันละ 19,000 บาร์เรล ก๊าซธรรมชาติ
ประมาณวันละ 50 ล้านลูกบาศก์ฟุต และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ประมาณวันละ 300
ตัน และยังถือสิทธิทั้งหมดในแปลงสัมปทาน 6/27 หรือแหล่งนางนวล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบในอ่าว
ไทย ซึ่งปัจจุบันหยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว โดยปตท.สผ.จะส่งทีมงานเข้า ไปประเมินในแหล่งนางนวลอีกครั้งว่า
เนื่องจากเป็นแหล่งปิโตรเลียมที่น่าสน ใจ ส่วนสาเหตุที่หยุดผลิตมาตั้งแต่ปี 2540
เนื่องจากมีน้ำเข้าหลุมสำรวจและมีค่าใช้จ่ายไม่คุ้มการลงทุน
ปัจจุบันไทยเชลล์ฯถือหุ้นสัด ส่วน 75% ในแปลงสัมปทานเอส 1 และสิทธิทั้งหมดในสัมปทานแปลงบี
6/27 รวมทั้งถือหุ้นในแปลงสัมปทาน บนบกหมายเลข L22/43 สัดส่วน 65% และปตท.สผ.ถือหุ้น
35%
สำหรับราคาหุ้น PTTEP วานนี้ เปิดตลาดที่ 252 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อ เข้ามาดันราคาหุ้นดีดไปแตะสูงสุด
258 บาท แต่มีแรงเทขายทำกำไรออกมา จนปิดตลาดอยู่ที่ 252 บาท เพิ่มขึ้น 22 บาท เปลี่ยนแปลง
9.57% คิดเป็นมูลค่า การซื้อขายรวม 913.75 ล้านบาท
นายมารุต กล่าวถึงราคาหุ้นPTTEP ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นครั้งนี้ เห็น ว่ายังไม่สูงเกินปัจจัยพื้นฐาน
เนื่องจาก บริษัทฯมีทรัพย์สินที่ดี เช่น แหล่งอาทิตย์และแหล่งจีดีเอ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯอีกนาน