Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 ธันวาคม 2546
EASTW ออกหุ้นเพิ่มทุนปี 47             
 


   
search resources

จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก, บมจ.
วันชัย หล่อวัฒนตระกูล
Consultants and Professional Services




อีสท์ วอเตอร์ฉวยจังหวะตลาดหุ้นดี เตรียมออกหุ้นเพิ่มทุน ควบคู่กับออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3.5 พันล้านบาทในปี 47 หวังเพิ่มสภาพคล่องในกระดาน โดยเม็ดเงินที่ได้จะนำมาไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระก.ค.47 จำนวน 2.2 พันล้านบาท และลงทุนต่อเนื่องอีก 1.5 พันล้านบาท คาดสรุปที่ปรึกษาทางการเงินได้ม.ค.47 ตั้งเป้าปริมาณการขายน้ำดิบงวดปี 47 เติบโตขึ้น 12% และมีกำไรสุทธิ เฉียด 400 ล้านบาท โตขึ้น 10% เมื่อเทียบ จากปี 46 ที่มีกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท

นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาค ตะวันออก จำกัด (มหาชน)หรืออีสท์ วอเตอร์ (EASTW) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯมีแนวคิดที่จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน(PO)ขายให้ประชาชนทั่วไป ควบคู่กับการออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินคาดว่าจะสรุปได้ในเดือนมกราคม 2547

โดยบริษัทฯจะให้ที่ปรึกษาทางการเงินศึกษาว่าจะออกหุ้นกู้จำนวนเท่าไร รวมทั้งหุ้นสามัญเพิ่มทุนควรมีจำนวนและราคาหุ้นเท่าไร โดยจะต้องไม่กระทบผู้ถือหุ้นเดิมมากนัก และช่วยเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น EASTW ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาหุ้น EASTW ขาดสภาพคล่อง ผู้ถือหุ้นใหญ่ถือครองหุ้นไว้โดยไม่มีการนำออกมาซื้อขายในกระดาน

"สาเหตุที่ยังไม่กำหนดตัวเลขการออกหุ้นทุนได้ เพราะต้องขออนุญาตผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก่อน หากผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จะกระทบสัดส่วนการถือหุ้นแค่ไหน ดังนั้น มติคณะกรรมการครั้งที่ผ่านมา จึงพิจารณาแต่ออก หุ้นกู้ ไม่ได้พิจารณาเรื่องการออกหุ้นทุน เพราะต้องการรอให้ศึกษาหุ้นทุนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งการออกหุ้นทุนครั้งนี้ ยังมีจุดประสงค์ที่ต้องการ แก้ไขสภาพคล่อง หากขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดก็เท่ากับไม่ได้แก้ไขสภาพคล่อง เพราะผู้ถือหุ้นเดิมก็เก็บให้หมดอีก"

นายวันชัย กล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาทาง การเงินที่บริษัทฯได้เรียกหารือนั้น ส่วนใหญ่ได้เสนอว่าบริษัทฯควรออกหุ้นทุนด้วย เนื่องจากช่วง นี้ตลาดหุ้นเปิด จึงเป็นโอกาสที่ดีในการระดมทุนเพิ่ม แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ยังคงเป็นหลัก เนื่องจากดอกเบี้ยหุ้นกู้ไม่สูงมากนัก และเชื่อว่า อีก 5 ปีข้างหน้าแนวโน้มดอกเบี้ยหุ้นกู้จะสูงกว่านี้ ทำให้ตัดสินใจออกหุ้นกู้ในปี 2547

สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำมาไถ่ถอนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในช่วงกรก-ฎาคม 2547 จำนวน 2.2 พันล้านบาท และเงินทุนเพื่อใช้ในการลงทุนเพิ่มเติมในงวดปี 2547 จำนวน 1.5 พันล้านบาท

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้จำนวน 2.5 พันล้าน มีอายุ 5 ปี ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกรกฎาคม 2547 แต่บริษัทฯได้มีการไถ่ ถอนหุ้นกู้บางส่วนคืนก่อนกำหนด ทำให้คงเหลือ หุ้นกู้ที่จะต้องไถ่ถอนเพิ่มเติมอีก 2.2 พันล้านบาท

"ดังนั้น ในปี 2547 บริษัทฯมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนประมาณ 3.5-4 พันล้านบาท โดยจะนำมาไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดประมาณ 2.2 พันล้านบาท และใช้ลงทุนในการวางท่อน้ำดิบและธุรกิจในเครือฯอีก 1.5 พันล้านบาท ทำให้บริษัทฯตัดสินใจออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท รวมกับเงินทุนหมุนเวียนอีกประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท หากบริษัทฯไม่มีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน" นายวันชัยกล่าว

เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้ฟรีแก่พนักงาน กรรมการ และที่ปรึกษาของบริษัทฯ จำนวน 5 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมทั้งออกและเสนอขายหุ้นกู้ ประเภทหุ้นกู้ ด้อยสิทธิ และ/หรือหุ้นกู้ไม่ด้อย วงเงินไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี เสนอขายทั้งหมด ในคราวเดียวกัน หรือแบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อเสนอขายเป็นคราวๆให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ นักลงทุนประเภท

ทุ่มเงินลงทุนอีก 1.5 พันล้าน

สำหรับการลงทุนในปี 2547 บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยกึ่งหนึ่งลงทุนในธุรกิจน้ำดิบ และที่เหลือลงทุน กิจการของบริษัทในเครือ คือ ธุรกิจน้ำประปาและบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด

ทั้งนี้ บริษัทฯจะขยายระบบการให้บริการน้ำดิบเพิ่มขึ้น โดยจะวางท่อน้ำดิบต่อจากฉะเชิงเทราไปยังนิคมฯบางพลีและนิคมฯบางปู เพื่อให้ บริการน้ำดิบแก่นิคมฯดังกล่าว หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้เลิกการใช้น้ำบาดาลในต้นปีหน้า โครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท และจะแล้วเสร็จกลางปี 2548

ส่วนโครงการขยายการให้บริการน้ำดิบไปสู่จังหวัดปราจีนบุรีนั้น บริษัทฯจะลดขนาดโครง การลง หลังจากผลศึกษาพบว่าตัวเลขความต้อง การใช้น้ำไม่ได้มากอย่างที่คาด และนิคมฯในพื้น ที่ดังกล่าวมีแหล่งน้ำของตัวเอง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเหลือไม่เกิน 1 พันล้านบาท จากเดิมที่เคยกำหนดวงเงินลงทุนไว้ 1.4 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯจะกลับไปศึกษาความต้องการใช้น้ำอีกครั้ง

"เดิมเราคาดว่า โครงการที่ปราจีนบุรีจะใช้น้ำ 40-50 ล้านลบ.ม.ต่อปี แต่พอสำรวจพบว่าเขามีแหล่งน้ำของตัวเอง ทำให้ปริมาณการใช้น้ำหาย ไปกว่ากึ่งหนึ่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาท คิดว่าโครงการนี้จะศึกษาจบกลางปีหน้า หลังจากนั้นหากตัดสินใจลงทุน ก็จะเริ่มดำเนินการออกแบบและว่าจ้างการวางท่อ แล้วเสร็จประมาณปลายปี 2548Ž"

ตั้งเป้างวดปี 47 กำไรโต 10%

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำในปี 2547 อยู่ที่ 170 ล้านลบ.ม.ต่อปี เพิ่มขึ้น12% เมื่อ เทียบจากปี 2546 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 46) ที่มียอดขายน้ำอยู่ที่ 150 ล้านลบ.ม.ต่อปี และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 387 ล้านบาท โตขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปี 2546 ที่มีกำไรสุทธิ 352 ล้านบาท

เหตุผลที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจไว้ค่อนข้างสูง เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตขึ้น ทำให้มีการใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมทั้งระยองและชลบุรีเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันโรงงาน ปิโตรเคมีในเครือแบงก์กรุงเทพก็เริ่มใช้น้ำบ้างแล้ว และโรงกลั่นไทยออยล์ ก็สั่งซื้อน้ำดิบจากเราเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต

รวมทั้ง บริษัทฯจะต่อขยายท่อให้ถึงมือผู้ใช้น้ำมากขึ้น เช่น นิคมฯภาคตะวันออก รวมทั้งจะ เชื่อมท่อบางส่วนจากระยองมายังชลบุรี เนื่องจาก แหล่งน้ำที่จังหวัดชลบุรีมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้มา 2 ปีแล้ว ทำให้การประปาชลบุรีสั่ง ซื้อน้ำจากบริษัทฯเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการประกันความมั่นคงในแหล่งน้ำที่จังหวัดระยองและฉะเชิงเทรา ทางบริษัทฯจะดำเนินการจัดทำสระน้ำสำรอง ขึ้น 2 แห่งในปีนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 120-200 ล้านบาท

จ่ายน้ำประปาที่เกาะสีชังม.ค.47

ส่วนความคืบหน้าในการผลิตน้ำประปาจากน้ำทะเลบนเกาะสีชัง คาดว่าในเดือนมกราคม 2547 จะเริ่มจ่ายน้ำประปาที่เกาะสีชังแล้ว หลังจากบริษัทฯได้เคลียร์ปัญหาที่ดินสาธารณะและลงนามสัญญาสัมปทานทำน้ำประปาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างรายได้ 2-3 ล้านบาทต่อปี

นายวันชัย กล่าวว่า โครงการทำน้ำทะเลเป็นน้ำประปาที่เกาะสีชัง สร้างรายได้ไม่สูงมากนัก แต่ถือเป็นต้นแบบการทำน้ำทะเลเป็นน้ำประปา ทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะทำน้ำทะเลเป็นน้ำประปาอีกหลายเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะล้าน เกาะพีพี เกาะสมุย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นในเร็วๆนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us