บล.ซีมิโก้ ประเมินหุ้นแบงก์เอเชีย แนะถือลงทุน ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.30 บาท
หลังจาก ผลงาน 11 เดือนแรก สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม ขึ้นกว่า 7 พันล้านบาท
พร้อมคาดการณ์ปีนี้กำไรสุทธิ ประมาณ 1.8 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 2.1 พันล้านบาทในปีหน้า
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ ประเมินสถานการณ์ธนาคารเอเชีย (BOA) ว่า ในช่วง
11 เดือนของปี 2546 นี้ ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มจากสิ้นปี 2545 ประมาณกว่า
7 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการปล่อยสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็มอี ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่
ไม่ได้ปล่อยเพิ่มตั้งแต่กลางปี 2546 ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล
ปรับลดลงเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อสุทธิของธนาคารลดลงจากสิ้นปี 2545
ประมาณ 2%
ด้านแผนงานในปี 2547 ธนาคารได้ตั้งเป้าขยาย สินเชื่อไว้สูงถึง 10-12% โดยจะยังคงเน้นการขยายฐานสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
และรายย่อยโดยเฉพาะธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อที่สูงกว่าสินเชื่อรายใหญ่
(Corporate Loan) รวมทั้งการขยายฐานรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ โดยตั้งเป้าหมาย
การเติบโตไว้ 15%
พร้อมกันนี้ คาดว่าธนาคารมีกำไรก่อนสำรองหนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 19% และเพิ่มจากปีก่อน
346% เป็น 642 ล้านบาท โดยยังคงได้รับผลดีจากภาวะตลาดเงินโดยรวม ทำให้ประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายลงได้
รวมทั้งเป็นผลจากความพยายามในการขยายฐานรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารอาจจะพิจารณาตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมเป็นจำนวนเกือบ
200 ล้านบาท หลังจาก ไม่ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้ฯ มาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิไตรมาสสุดท้ายปีนี้ลดลงจากไตรมาส
3 ประมาณ 22% แต่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียว กันของปีก่อน 178% เป็น 453 ล้านบาท
บล.ซีมิโก้ รายงานเพิ่มเติมว่า จากการพิจารณา ผลการดำเนินงานในปี 2545 ที่ขาดทุนสุทธิ
3,030 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 1,897 ล้านบาท ในปี 2546 เป็นผลจากการลดลงอย่างมากของภาระในการกันสำรองหนี้
และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ โดยปี 2547 น่าจะเป็นปีที่ธนาคารเร่งขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างรายได้อย่างจริงจัง
ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น แต่การเติบโตด้านรายได้จะมุ่งเน้นไปที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเป็นหลัก
ขณะที่การเร่งขยายฐานสินเชื่อใหม่ โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย น่าจะช่วยให้ Net
interest margin (NIM) ปรับเพิ่มขึ้นได้บ้าง ดังนั้นบล.ซีมิโก้ คาดว่า BOA จะสามารถทำกำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้น
12% เป็น 2,133 ล้านบาทในปี 2547 จึงแนะนำให้ถือโดยประเมิน ราคาเป้าหมายปีหน้าไว้ที่
6.30 บาท
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม คือ แผนแม่บททางการเงิน (Financial Master Plan)
แม้ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ออกมา แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจจะกระทบต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่
ซึ่งคงต้องติดตามดูว่า ABN Amro Bank ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีสาขาต่างประเทศในไทยด้วย
จะมีแนว ทางการจัดการในรูปแบบใด อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าฐานลูกค้าของทั้ง
2 แห่งมีความแตกต่างกันชัดเจน คือฐานะลูกค้าหลักของ BOA เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อย
และ SME ขณะที่สาขาต่างประเทศของ ABN Amro Bank ในไทยนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าประเภท
Corporate เป็นส่วนใหญ่