Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2547








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2547
Ghirardelli ช็อกโกแลตทัวร์             
โดย มานิตา เข็มทอง
 


   
search resources

Ghirardelli




นานๆ จะได้มาเที่ยวซานฟรานซิสโกสักที และด้วยความที่ชอบช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ เข้าข่าย "Chocohalic" ฉะนั้นเมื่อมาถึงแล้วก็ต้องไปเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของช็อกโกแลต Ghirardelli (อ่านว่า เกียร์-อาร์-เดลลี่ GEAR-AR-DELLY) ช็อกโกแลตชื่อดัง ที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 150 ปีไปเมื่อสองปีที่ผ่านมา

มาเริ่มต้นทัวร์กันที่ถนน Powell ในดาวน์ทาวน์ ที่เป็นสถานีเริ่มต้นของรถรางที่มีชื่อของซานฟรานฯกระโดดขึ้นรถรางสาย Powell-Hyde นั่งไปจนสุดสายที่ Fisherman's Wharf สะพานปลาอันลือชื่อของซานฟรานฯ เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวทุกรายต้องไปเยือนเพื่อลิ้มชิมรสเนื้อ King Crab ปูยักษ์อันแสนหวาน พร้อมกับชมวิวสะพาน Golden Gate ที่อยู่ทอดข้าม Pacific Ocean

กลับมาที่ Ghirardelli ช็อกโกแลตทัวร์...เมื่อลงจากรถราง เดินไปทางซ้ายมือตามถนน Beach เพียงนิดเดียวก็จะเห็นป้ายใหญ่มหึมาของ Ghirardelli ในพื้นที่ Ghirardelli Square ซึ่งในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมาเป็นสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตช็อกโก แลต Ghirardelli แห่งแรกของมิสเตอร์ Domingo Ghirardelli ชาวอิตาเลียนที่เข้ามาตั้งรกรากในอเมริกา แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์สำหรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมสภาพอาคาร โรงงานและสำนักงานใหญ่ยังคงสถาปัตยกรรมดังเดิม หากภายในแบ่งซอยออกเป็นที่เช่าสำหรับออฟฟิศ และห้างร้านต่างๆ หลายสิบธุรกิจ

ตำนานของช็อกโกแลต Ghirardelli เริ่มจากมิสเตอร์ Domingo Ghirardelli พ่อค้าชาวอิตาเลียนผู้อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตขนมหวาน ลูกกวาดและช็อกโกแลต ในสมัยนั้นคนที่เป็นพ่อค้าต้องล่องเรือไปตามเมืองต่างๆ ประมาณปี ค.ศ.1817 Mr.Domingo Ghirardelli ก็ล่องเรือและจอดเรือยึดหัวหาดเปิดร้านผลิตภัณฑ์ลูกกวาดและช็อกโกแลตแห่งแรกๆ ในเปรูและอุรุกวัย ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญคือ เมล็ดโกโก้

ขณะเดียวกันยุคนั้นก็เป็นยุคตื่นทอง (Gold Rush) ในแคลิฟอร์เนีย เพื่อนของ Mr.Domingo Ghirardelli ชื่อว่า James Lick ก็เป็นคนหนึ่งที่อยากเข้ามาขุดทองในแคลิฟอร์เนีย แต่แทนที่เขาจะแห่ขุดทองเหมือนคนอื่นๆ เขากลับหัวใสคิดหากำไรจากพวกที่ขุดทองได้ เขามั่นใจว่าพวกที่ขุดทองจนร่ำรวยตั้งเนื้อ ตั้งตัวได้ต้องมีความต้องการจับจ่ายซื้อของราคาแพง

ในปี ค.ศ.1848 เขาหอบเงินลงทุนจำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐกับช็อกโกแลต Ghirardelli จำนวน 600 ปอนด์มาปักหลักค้าขายในพื้นที่ซานฟรานซิสโกเบย์...มิสเตอร์ Domingo Ghirardelli ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย ตามมาด้วย เมื่อมาถึงเขาก็เปิดเต็นท์ เล็กๆ ขายของทั่วไป เก็บเล็กผสมน้อยขยายกิจการมีร้านของตัวเอง มีโรงแรมเป็นของตัวเอง แต่โชคชะตาไม่เข้าข้างเขาเสมอไป ในปี ค.ศ.1851 เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ "The Great Fire of 1851" ได้เผาผลาญอาคารธุรกิจของ Mr.Domingo Ghirardelli ที่มีอยู่ในซานฟรานซิสโกจนหมดสิ้น แต่เขายังไม่หมดหวังนำเงินเก็บทั้งหมดที่มีอยู่มาลงทุนเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ผีซ้ำด้ำพลอย...ร้านกาแฟขาดทุนยับเยิน จนเขาต้องขายทิ้ง

Mr.Domingo Ghirardelli ยังไม่ยอมแพ้ ในปี ค.ศ.1852 เขาหวนกลับไปหาธุรกิจเก่าดังเดิมที่เขาถนัด คือ อุตสาหกรรมผลิตขนมหวาน ลูกกวาดและช็อกโกแลต เขาขายไอเดียให้กับหุ้นส่วนชื่อ Mr. Girard เปิดบริษัทชื่อ Grirardelli & Ghirard ธุรกิจเริ่มเจริญงอกงาม เขาได้หุ้นส่วนใหม่เป็นภรรยาของเขาเอง และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Mrs.Ghirardelli & Co. ธุรกิจเริ่มดียิ่งขึ้น ในปีแรกเขาต้องนำเข้าเมล็ดโกโก้สูงถึง 200 ปอนด์ จากนั้นก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ใน ปี ค.ศ.1866 สูงถึง 1,000 ปอนด์

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเขาไปได้ดี คือมีพนักงานในบริษัททำการทดลองแขวนถุงช็อกโกแลตไว้ในห้องร้อนๆ พบว่า Cocoa Butter ละลายออกมา ทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นผงแห้ง โดยเรียกว่ากระบวนการ "The Broma process" และนี่เองกลายเป็นที่มาของเทคนิคการผลิตผงช็อกโกแลต ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตช็อกโกแลตตราบจนปัจจุบัน

ธุรกิจ Ghirardelli ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดได้เปิดที่ทำการสำนักงานใหญ่ที่หัวมุมถนน Beach และ Larkin ในพื้นที่ Fisherman's Wharf และในปี ค.ศ.1915 ป้ายยักษ์ Ghirardelli ขนาด 25 X 125 ฟุต

เปิดใช้อย่างเป็นทางการ โดยมองเห็นเด่นชัดจากสะพาน Golden Gate และจากบรรดาเรือน้อยใหญ่ที่กำลังเข้าเทียบท่าซานฟรานซิสโกเบย์ 40 ปีต่อ มาเมืองซานฟรานซิสโกประกาศให้ Ghirardelli Square เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ประจำเมืองซานฟรานซิสโก

แม้ปัจจุบัน Ghirardelli จะกลายเป็นบริษัทในเครือของ Lindt และ Sprungli Chocolate แห่ง สวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว...แต่ตำนานของช็อกโกแลต Ghirardelli ยังคงเป็นตำนานช็อกโกแลตที่ชาวอเมริกันภาคภูมิใจ และเล่าขานกันต่อไป...

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us