กลางเดือนพฤศจิกายน 2546 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถูกใช้เป็นสถานที่ประกาศการเข้าสู่ตลาดเบียร์พรีเมียมอย่างเต็มตัวของแบรนด์
"อาซาฮี" ในประเทศไทย โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัทอาซาฮี บริวเวอรี จำกัด
กับบริษัทขอนแก่น บริวเวอรี่ จำกัด
บริษัทอาซาฮี บริวเวอรี ก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน 2492 สำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น มีพนักงานทั้งสิ้น 3,900 คน ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาหารและยา เฉพาะอาซาฮี ซูเปอร์ดราย ครองส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในญี่ปุ่นประมาณ
50% มียอดขายเป็นอันดับ 1 ขณะที่ในระดับโลกรั้งอันดับ 6 ส่วนบริษัท ขอนแก่น
บริวเวอรี่ เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบุญรอดฯ ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2540
มีกำลังการผลิตเบียร์ 400 ล้านลิตรต่อปี
"กลุ่มอาซาฮี บริวเวอรี ในฐานะผู้ผลิตเบียร์ ได้เร่งพัฒนาธุรกิจเพื่อให้ทันกับการแข่งขันในระดับโลก
โดยมีการพัฒนาโอกาสทางธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาตลอด ทำให้ได้รับการยอมรับจากคอเบียร์กว่า
40 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นเราจึงเล็งเห็นอัตราการบริโภคเบียร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงสร้างฐานการผลิตในท้องถิ่นของตลาดหลักๆ โดยเฉพาะแถบอาเซียน" ซึกิญ่า
อิวาซากิ Executive Officer ฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัทอาซาฮี บริวเวอรีกล่าว
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้อาซาฮี บริวเวอรี เร่งผลักดันฐานธุรกิจ เพื่อตอบรับกับตลาดเบียร์ที่มีการแข่งขันมากขึ้น
โดยการตกลงร่วมมือทางธุรกิจกับขอนแก่น บริวเวอรี่ เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตและเทคโนโลยีของโรงเบียร์จากขอนแก่นแห่งนี้
นั่นก่อให้เกิดบริษัทบีแอนด์เอ ดิสทริบิวชั่น จำกัด ขึ้นเพื่อร่วมผลักดันอาซาฮีกันอย่างเต็มกำลัง
ปิยะ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัทขอนแก่น บริวเวอรี่ บอกว่า
"ด้วยเทคโนโลยีชั้นยอดและอุปกรณ์ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตของขอนแก่น บริวเวอรี่
อีกทั้งมีการควบคุมคุณภาพในทุกๆ ขั้นตอนการผลิตอย่างเข้มงวด จะทำให้ได้รสชาติ
เบียร์ที่เฉียบและลุ่มลึก ไม่แตกต่างจากการผลิตที่ญี่ปุ่น"
งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท คือทุนสำหรับกิจกรรมการตลาด ครอบคลุมทั้งภาพยนตร์โฆษณา
สื่อสิ่งพิมพ์ กิจกรรมส่งเสริมการขาย หวังพิชิตกลุ่มเป้าหมาย คือคนทำงานรุ่นใหม่อายุระหว่าง
25-39 ปี ซึ่งทางอาซาฮีเห็นว่าเป็นตลาดที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนาโอกาสและแย่งส่วนแบ่งจากตลาดเบียร์พรีเมียม
มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในไทยที่มีไฮเนเก้นเป็นเจ้าตลาดซึ่งกวาดส่วนแบ่งไปแล้วกว่า
80% งานนี้จึงเป็นที่น่าจับตาว่าอุณหภูมิของตลาดเบียร์จะร้อนระอุเพียงใด