Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 ธันวาคม 2546
การไฟฟ้าเข้าตลท.47 พร้อมขายหุ้นกลางปี             
 


   
search resources

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
คณะกรรมการทุนรัฐวิสาหกิจ -- กนท.
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
วราเทพ รัตนากร
ชลิต เรืองวิเศษ
ไพจิตร เทียนไพฑูรย์
Stock Exchange




บอร์ดกนท. ไฟเขียวแผนแปลงสภาพ กฟน. และกฟผ.เป็นบริษัททั้งองค์กร วาง เป้าแปลงสภาพเป็นบริษัทเรียบ ร้อยภายในไตรมาสแรก และไตรมาส 2 ปีหน้า ก่อนจะแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนมิ.ย. และ ก.ย. ตามลำดับ ขณะที่ผู้บริหารทั้ง 2 หน่วยงาน ยืนยันความพร้อม กระจายหุ้นได้กลางปี 2547

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมน-ตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) ซึ่งมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (22 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ แนวทางการแปลงสภาพการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็น บริษัททั้งองค์กร โดยใช้พระราชบัญญัติทุนนโยบายรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานดำเนินการให้เกิดความ ชัดเจนในเรื่องโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า และการชดเชยรายได้ของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ให้แล้วเสร็จก่อนการกระจายหุ้นของกิจการไฟฟ้าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติในหลักการ และให้มีคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัท ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ เพื่อ พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท โดยคาดว่าการแปลงสภาพเป็นบริษัทของ กฟน.และกฟภ.จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก และไตรมาสที่สองของปี 2547 ตามลำดับ

นายวราเทพ กล่าวว่า ผลการประชุมในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากมติครม. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2546 ที่เห็นชอบเรื่องโครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบ Enhanced Single Buyer (ESB) โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ดำเนินการผลิตและส่งไฟฟ้า เช่นเดียวกับปัจจุบัน และเป็นผู้ซื้อขายไฟฟ้าราย เดียว ส่งกระแสไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย คือ กฟน. และกฟภ. ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการระบบจำหน่ายและการค้าปลีกไฟฟ้าภายในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง

ขณะที่แนวทางกำกับดูแล โดยจะให้มีการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลภายใต้กระทรวงการคลัง เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ราคาค่าบริการ พร้อมทั้งดูแลให้ความเป็นธรรมกับนักลง ทุนและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับคุณภาพการบริการที่ดี

ด้านนายไพจิตร เทียนไพฑูรย์ ผู้ว่าการ การ ไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กฟภ.มี สินทรัพย์ทั้งสิ้นประมาณ 180,000 ล้านบาท เป็น ทุนจำนวน 64,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัท จำกัด ได้ภาย ในเดือนมิถุนายน 2547 และจะสามารถกระจายหุ้นให้กับประชาชนและจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ ได้เรียบร้อยภายในเดือน กันยายน 2547 โดยในเบื้องต้นบริษัทที่ปรึกษาเห็นควรกำหนดทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 700 ล้านหุ้น มูลค่า หุ้นละ 10 บาท หรือ คิดเป็นมูลค่ารวม 7,000 ล้าน

สำหรับเงินที่ได้จากการกระจายหุ้นจำนวน 7,000 ล้านบาท นั้น โดยปกติจะต้องตกเป็นของกระทรวงการคลังทั้งหมด ซึ่งหลังจากนั้นหาก กฟภ.เข้าเพิ่มทุนกำไรส่วนที่ได้มาก็จะเป็นของ กฟภ.เอง โดยเงินที่ได้อาจจะนำไปลดหนี้ที่มีอยู่ประมาณ 120,000 ล้านบาท หรือนำไปขยายงาน ของบริษัท รวมทั้งอาจจะเปิดโครงการใหม่เพื่อเพื่อต่อยอดกำไรมากขึ้น

"ในการกระจายหุ้นเข้าตลาด จริงๆ แล้ว สามารถกระจายได้ประมาณกลางปีก็ได้ เพราะบริษัทเรามีความพร้อมในเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องชื่อของบริษัทมีคิดไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตอนนี้ได้ คงต้องรอให้คณะกรรมการจัดตั้งบริษัทเป็นผู้ลงมติก่อน" นายไพจิตร กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2546 กฟภ. มีกำไรประมาณ 5,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ประมาณ 3,820 ล้านบาท หรือประมาณ 33% คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2547 กฟภ. ได้ตั้งเป้ากำไรเพิ่มจากยอดกำไรของปีนี้ อีก 10% ตามนโยบายพัฒนารัฐวิสาหกิจของรัฐบาล

นายชลิต เรืองวิเศษ ผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กฟน.มีสิน ทรัพย์ประมาณ 100,000 ล้านบาท และได้ตั้งเป้า หมายว่า จะสามารถแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัด ได้ภายในวันที่ 1 เมษายน 2547 และจะสามารถ กระจายหุ้นในตลาดฯ ได้เรียบร้อยภายในเดือน มิถุนายน 2547 ซึ่งหากผ่านมติครม.จะเป็นไปตามกำหนดการตามที่ตั้งไว้ ส่วนทุนจดทะเบียนเบื้องต้นนั้น ต้องรอให้คณะกรรมการเตรียมการ จัดตั้งเป็นผู้พิจารณาก่อน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us