ซีดีเอสโชว์ยอดขายปีนี้ทะลุ 19,000 ล้านบาท โต 15% มากกว่าตลาดรวม ชี้เป็นเพราะผู้บริโภคกำลังซื้อเพิ่ม
เร่งพัฒนาเฮาส์แบรนด์แฟชั่นเล็งจับตลาดคนไทย ปีหน้าตั้งเป้ารุกสร้างแบรนด์หวังโกอินเตอร์
นายอลัน นามชัยศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล
จำกัด หรือซีดีเอส เปิดเผยว่า ปีนี้ถึงแม้ว่าจะเจอผลกระทบจากโรคซาร์สและสงครามอิรักจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา
แต่ยอดขาย ของซีดีเอสสิ้นปีคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 19,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว
12-15% แต่ตลาดรวม ค้าปลีกกลับเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 5-6% เท่านั้น ทั้งนี้ เป็นเพราะช่วงครึ่งปีหลังซีดีเอสเร่งอัดกิจกรรมกระตุ้นความต้องการ
ซึ่งสอดรับกับ กำลังซื้อสูงของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้ใช้งบการตลาดและส่งเสริมการขายรวม
400 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าหลังจากที่เปิดสาขาภูเก็ตช่วงเดือนส.ค.ปี 2547 แล้วจะส่งผลให้อัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปีนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังเตรียมนโยบายเร่งพัฒนากลุ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า
รองเท้า กระเป๋า ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และสินค้าของใช้ภายในบ้าน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความแข็งแกร่งมาก
ทั้งนี้ สินค้า ทุกประเภทที่ดึงมาเป็นเฮาส์แบรนด์ จะเน้นขายความเป็นแฟชั่นและแตกต่างจากค้าปลีกอื่นๆ
นอกจาก นี้ยังมั่นใจว่าสินค้าเฮาส์แบรนด์ของซีดีเอสมีความหลากหลายมากกว่าค้าปลีกอื่นด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์การทำตลาดให้กับเฮาส์แบรนด์ในปีนี้ได้เร่งอัดโฆษณา ประชาสัมพันธ์ตามนิตยสารต่างๆ
เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์เพิ่มมากขึ้น และเพิ่มจำนวนแค็ตตาล็อก ส่งเป็นจดหมายตรงไปยังกลุ่มสมา-ชิกบัตรเซ็นทรัลการ์ดที่มีจำนวนกว่า
700,000 ราย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเฮาส์แบรนด์เซ็นทรัล 80-90% เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย
ในขณะ ที่กลุ่มลูกค้าต่างประเทศก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน ซีดีเอสจึงมีแผนที่จะส่งสินค้าเฮาส์แบรนด์ออกสู่ตลาด
ต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในระหว่างเจรจา กับคู่ค้าในประเทศต่างๆ อาทิ ฟิลิปปินส์ อินเดีย
ยุโรป สิงคโปร์ มาเล-เซีย เป็นต้น และคาดว่าแผนดังกล่าวจะมีความชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ซีดีเอสจะต้องรุกทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับสินค้ากลุ่มดังกล่าวมากขึ้นในปี
2547 โดยเฉพาะกลุ่มเฮาส์แบรนด์กลุ่มที่ 3 ที่ซีดีเอสคิดและพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งมีประมาณ
40 แบรนด์ จากจำนวนเฮาส์แบรนด์ ทั้งหมดกว่า 80 แบรนด์ เพราะสินค้ากลุ่มนี้เป็น
แบรนด์ใหม่ที่มีจำหน่ายเฉพาะในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเท่านั้น จึงต้องเพิ่มการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้า
หมายที่มีตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ นอกจาก นี้จะส่งผลิตภัณฑ์คอลเลกชันใหม่ๆ
กระตุ้นตลาดทุกเดือน เนื่องจากสินค้าทุกตัวเน้นความเป็นแฟชั่น อีกทั้ง แบรนด์กลุ่มที่
3 นี้ยังเป็นแบรนด์ที่ซีดีเอสมีแผนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย
สำหรับสินค้าเฮาส์แบรนด์ของซีดีเอสที่มี กว่า 80 แบรนด์และมีราคาตั้งแต่ 300-10,000
บาท แบ่งเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ 1.กลุ่มเฮาส์ แบรนด์นำเข้า อาทิ มิส ซิกตี้,
อีเนอร์จี้, อดิดาส แฟชั่น เป็นต้น 2.กลุ่มเฮาส์แบรนด์ที่เป็น National Brand หรือ
Local Brand แต่ผลิตคอลเลกชันพิเศษเฉพาะที่จำหน่ายในห้างสรรพ-สินค้าเซ็นทรัล อาทิ
ไฟโด ดีโด้, เอ ทู แซด, ฮีโร่ คิดส์ เป็นต้น และ 3. กลุ่มเฮาส์แบรนด์ที่ซีดีเอส
พัฒนาตัวสินค้าและสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง อาทิ ฟิน, คูลล์, บี เบสิก เป็นต้น โดยเฮาส์แบรนด์ทั้งหมดนั้นจะไม่อยู่ภายใต้คำว่า
เซ็นทรัล เพราะต้องการให้แต่ละแบรนด์จับกลุ่มเฉพาะเป้า หมาย ซึ่งแตกต่างจากเฮาส์แบรนด์ของโมเดิร์นเทรดหรือซูเปอร์มาร์เกตทั่วไปที่จะนิยมใช้แบรนด์
เดียวทุกสินค้าเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวงกว้าง
ทางด้านสินค้าเฮาส์แบรนด์กลุ่มที่นำเข้าส่วนใหญ่จะมาจากประเทศฝรั่งเศส อิตาลี
ออส-เตรเลีย สเปน สิงคโปร์ มาเลเซีย ซึ่งสินค้าที่นำ เข้าจากประเทศในแถบเอเชียจะมีเพียง
2 ประเทศ ดังกล่าวไปแล้วเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีแผนนำ เข้าสินค้าจากประเทศในเอเชียเพิ่ม
แต่ก็ให้สัด ส่วนกับ 2 ประเทศดังกล่าวมาก เพราะจะได้รับภาษีนำเข้า
นายอลันกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มองกำลังการซื้อเฉลี่ยในแต่ละครั้งของกลุ่มลูกค้าแล้ว
โปรโมชั่นไฮไลต์สิ้นปีนี้จะเพิ่มปริมาณการซื้อขั้นต่ำจากปีที่แล้ว 600 บาท เป็น
800 บาทแล้วจะได้รับคูปองลุ้นรับบัตรของขวัญและบัตรส่วนลด ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
แน่นอน