พันตำรวจเอกสมพงษ์ บุญธรรม

เกิดวันที่ 18 มกราคม 2473 เป็นคนกรุงเทพฯ บิดาชื่อ พันตำรวจตรีพยุง บุญธรรม มารดาชื่อ สละ จบชั้นมัธยม 8 จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่นเดียวกับวิโรจน์ เลาหพันธ์ และนายแพทย์ประสพ ธรรมวิทย์

เข้าสู่ชีวิตตำรวจเมื่อด้วยการสมัครเป็นนักเรียนพลฯ ตำรวจ รุ่น 500 มีเพื่อนร่วมรุ่นดังๆ หลายคน อาทิ ถวิล เปล่งวานิชย์ อาคม มกรานนท์ และพลตำรวจตรีแสวง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นต้น

ออกจากโรงเรียนพลฯ ตำรวจมาเป็นตำรวจรถถัง ที่วังปารุส 3 ปี ระหว่างนั้นเคยฝึกอาวุธพิเศษฝึกการรบแบบกองโจรและฝึกแรงเยอร์ ที่ค่ายเอราวัณ ลพบุรี

ปี 2495 สอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจและได้รับพระราชทานกระบี่เมื่อปี 2500 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นแรกที่ต้องเรียนหลักสูตร 4 ปีแทนที่จะเป็น 3 ปีอย่างเก่า ออกจากโรงเรียนนายร้อยได้รับการบรรจุครั้งแรกเป็นรองสารวัตรปราบปราม สน.พลับพลาไชย เขต 2 อีก 6 ปีต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นรองสารวัตร สน.ท่าข้าม

ปี 2507 ย้ายมาเป็นรองสารวัตร แผนก 2 กองกำกับการ 7 กองปราบปรามสามยอด อยู่ที่กองปราบเรื่อยมาจนได้ขึ้นเป็นผู้กำกับการ 1 และรองผู้บังคับการ เมื่อปี 2526 จนถึงปัจจุบันพูดได้ว่าเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของกองปราบ เพราะอยู่จนเปลี่ยนผู้บังคับการไปแล้วถึง 8 คน โด่งดังมากเมื่อทำคดีชม้อย ทิพย์โส

พันตำรวจเอกบุญฤทธิ์ รัตนะพร

เป็นศิษย์เก่าอัสสัมชัญบางรัก รุ่นปี 2506 เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2507 และได้รับการอบรมเป็นนายตำรวจในรุ่นที่ 3

บรรจุเป็นว่าที่ร้อยตรีที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีผู้กองฯ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ช่วยฝึกงานให้ชื่อพันตำรวจตรีบุญชู วังกานนท์ (ยศขณะนั้น) ขณะรับราชการอยู่ที่อุดรธานีนั้นเคยปะทะกับผู้ก่อการร้ายที่ลอบเข้าวางระเบิดสนามบินอุดรฯ ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ และผู้ที่ฝ่ากระสุนเข้าไปช่วยก็คือ ผู้กองฯ บุญชู วังกานนท์

ปี 2513 ย้ายมาอยู่ที่กองคดี กรมตำรวจไม่ทันครบปีก็ย้ายมานั่งในตำแหน่งรองสารวัตรแผนก 1 กองกำกับการ 1 กองปราบปราม

ปี 2516 ได้ทุนของรัฐบาลฝรั่งเศสไปศึกษาวิชากฎหมายระดับปริญญาโทต่อ จบแล้วขออนุญาตกรมตำรวจไปเข้าอบรมที่สกอตแลนด์ยาร์ด ประเทศอังกฤษอีก

เป็นนายตำรวจไทยคนเดียวที่ไปอบรมยิงปืนที่ฟอร์ดกราเซียและได้รับเหรียญแม่นปืน

สมัยที่เรียนปริญญาโทนั้น ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “การคุ้มครองความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่ริเวียร่าŽ เมื่อกลับมาในปี 2519 จึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการก่อตั้งกองกำกับการ 8 กองปราบปราม ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้กำกับ 1 กองปราบ และผิดหวังพอสมควรที่ไม่ได้กลับไปที่กองกำกับการ 8 ซึ่งเป็นงานถนัด แต่ก็โชว์ฝีมือเต็มเหยียดเมื่อต้องรับผิดชอบเรื่องแชร์ชม้อยและอีกหลายวง

พันตำรวจโทพรภัทร สุยะนันท์

เป็นบุตรของพลตำรวจตรีเสนอ สุยะนันท์ อดีตผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร จบรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2514

เริ่มเข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งผู้บังคับหมวดประจำสถานีตำรวจอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จากนั้นย้ายมาเป็นรองสารวัตรจราจรที่ สน.นางเลิ้ง อยู่ที่นางเลิ้ง 3 ปีครึ่งจึงย้ายมาเป็นรองสารวัตรสอบสวน สน.ลุมพินี

ที่ สน.ลุมพินีนี้เองที่ฝากฝีไม้ลายมือไว้หลายคดี จนพลตำรวจเอกมนต์ชัย พันธ์คงชื่น อธิบดีกรมตำรวจขณะนั้น ออกปากชมเชยอยู่บ่อยๆ

อีก 2 ปีให้หลังย้ายออกภูธรอีกครั้ง โดยรับตำแหน่งสารวัตรสอบสวน สภ.อ.เกาะสมุย ในฐานะที่ฝากผลงานเรื่องปราบปรามโจรสลัดไว้มาก ก็เลยถูกดึงตัวมานั่งในตำแหน่งสารวัตรแผนก 4 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด รับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของข้าราชการ

ปัจจุบันก้าวขึ้นไปเป็นรองผู้กำกับการ 1 กองปราบฯ และเป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่ทำคดีชม้อย ทิพย์โส มาตั้งแต่ต้น

ร้อยตำรวจเอกจุมภฎ จินดานนท์

จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปูนา ประเทศอินเดีย เข้ารับการอบรมเป็นนายร้อยทำการพิเศษรุ่นที่ 21 เมื่อปี 2519

จากนั้นก็เข้าประจำการที่แผนก 3 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรองสารวัตรแผนก 4 กองกำกับการ 1 กองปราบปราม เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการระดับรองสารวัตรที่คร่ำหวอดอย่างมากๆ กับคดีอาชญากรทางเศรษฐกิจ

เคยเป็นพนักงานสอบสวนคดีฉ้อโกงที่มีสุพจน์ เดชสกุลธร และชวลิต หล่อไพบูลย์ เป็นผู้ต้องหา ได้รับการคัดเลือกเป็นมือสอบสวน 1 ใน 6 ระดับรองสารวัตรสำหรับคดีชม้อย ทิพย์โส ซึ่งจะต้องใช้เทคนิคอย่างสูงในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ร้อยตำรวจเอกชัยวัฒน์ ดิษยบุตร

เป็นศิษย์เก่ารามคำแหงรุ่นแรก สำเร็จนิติศาสตร์เมื่อปี 2517

เข้าอบรมเป็นนายร้อยตำรวจรุ่นพิเศษ ในรุ่นที่ 7 ประจำการครั้งแรกที่ สทล.1กก.4 ตำรวจทางหลวง อยู่ที่นี่เพียง 7 วันก็ย้ายไปประจำที่ สทล.2 กก.1 ตำรวจทางหลวงที่หินกอง สระบุรี จากนั้นจึงย้ายอีกครั้งมาลงที่กองปราบปรามสามยอด

เคยเป็นพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อโกงภายในธนาคารเอเชียทรัสต์

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองสารวัตรแผนก 4 กองกำกับการ 1 กองปราบปราม รับผิดชอบคดีชม้อย ทิพย์โส โดยเป็นผู้สอบปากคำ น.ท.พจน์ ทิพย์โส สามีเก่านางชม้อย และนางสาวพรทิพย์ กลิ่นผา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการติดตามเอาเงิน 19.5 ล้านบาทคืนมาได้

ร้อยตำรวจเอกพงษ์พันธุ์ สิริโยธิน

จบจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ เมื่อปี 2514 นิติศาสตร์รามคำแหง ปี 2518 และเข้ารับการอบรมนายตำรวจรุ่นที่ 20 บรรจุครั้งแรกที่แผนก 3 กองกำกับการ 1กองปราบปราม เมื่อปี 2520

เป็นมือปราบชั้นเยี่ยมคนหนึ่ง ส่วนใหญ่จะทำการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับอิทธิพลและสถาบันการเงินที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกง

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองสารวัตรแผนก 3 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด มีบทบาทสำคัญอีกคนหนึ่งในคดีชม้อย ทิพย์โส

ร้อยตำรวจเอกชูชาติ สุวรรณาคม

จบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่น 14 เข้ารับการอบรมเป็นนายตำรวจในรุ่นที่ 5 บรรจุครั้งแรกที่กองปราบปรามสามยอด เคยเป็นพนักงานสอบสวนคดียิงผู้อำนวยการทีวีสีช่อง 7 พันโทชายชาญ เทียนประภาส คดีประเทือง กีรติบุตร ที่ถูกกล่าวหาว่าปล่อยผู้ต้องหายาเสพติดสมัยเป็นอธิบดีกรมอัยการ

ปัจจุบันเป็นรองสารวัตรแผนก 2 กองกำกับการ 1 กองปราบปราม เป็นมือคดีชม้อย อีกคนหนึ่ง

ร้อยตำรวจเอกขจิตร์ ภุมรินทร์

เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่นที่ 31 รับพระราชทานกระบี่แล้วบรรจุเป็นร้อยตำรวจตรีประจำสน.บางขุนเทียน เมื่อปี 2521 ปลายปี 2522 ย้ายมาประจำที่แผนก 3 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองสารวัตรแผนก 3 กองกำกับการ 1 กองปราบปราม

เป็นคนหนึ่งที่กรมตำรวจแต่งตั้งเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับวงแชร์และเป็นผู้เก็บข้อมูลเริ่มต้นของวงแชร์ชม้อย

สำหรับวงแชร์อื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบรวบรวมหลักฐานก็เช่น เอ็มวายเอส เมอร์ลินคอมมอดิตี้ส์ มิลเลียนแนร์ กิจศรีบารา เมอร์แคนไทล์ เพชรคีรี และเสริมกิจ เจ็บๆ ทั้งนั้น

ร้อนตำรวจตรีจักร สุขโชคศิริชัยพร

จบนิติศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 17 เข้าอบรมเป็นนายตำรวจเป็นรุ่นที่ 23 บรรจุครั้งแรกที่แผนก 4 กองกำกับการ 3 สันติบาล ด้วยฝีมือการสืบสวนสอบสวนที่เฉียบขาดต่อมาจึงถูกเลือกตัวเข้าประจำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจึงย้ายมาเป็นรองสารวัตรแผนก 4 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด จนปัจจุบันเป็นพนักงานสอบสวนอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้สอบปากคำชม้อย ทิพย์โส อย่างใกล้ชิดทั้งนอกคุกและในคุก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรชม้อยให้ความไว้เนื้อเชื่อใจมาก อาจจะเป็นเพราะความใจเย็นและพูดจาเรียบร้อยก็เป็นได้

ร้อยตำรวจเอกอนุสรณ์ กลิ่นขจร

เป็นศิษย์เก่าราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี ปี 2521 นักเรียนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 35 ได้รับพระราชทานกระบี่แล้ว เข้าประจำการที่แผนก 3 กองกำกับการ 1 กองปราบปรามสามยอด ผลงานที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะทำคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงในวงราชการ

ล่าสุดเป็นทีมงานสอบสวนคดีชม้อย ทิพย์โส เช่นกัน