Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 ธันวาคม 2546
สหวิริยาฯซื้อCD-SSI ลดกังวลไดลูทชั่น35%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โฮมเพจ เอสวีโอเอ (สหวิริยา)
โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
เกียรตินาคิน, บง.
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สหวิริยาสตีลอินดัสทรี, บมจ.
จำลอง อติกุล
Stock Exchange




ผู้ถือหุ้นใหญ่สหวิริยาสตีล ควักเงินซื้อหลักทรัพย์ หุ้นกู้แปลงสภาพ CD-SSI จำนวน 2,347.5 ล้านบาท จากแบงก์กรุงศรีฯ ตามเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ โบรกเกอร์ระบุการตัดสินใจซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพจากเจ้าหนี้ครั้งนี้ จะช่วยลดความกังวลที่เกิดจากไดลูทชั่น เอฟเฟกต์ เมื่อมีการใช้สิทธิแปลงสภาพถึงประมาณ 34.89%

นายจำลอง อติกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)ขอชี้แจงข้อมูลการซื้อหลักทรัพย์ หุ้นกู้แปลงสภาพของ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (CD-SSI) จำนวน 1,200 ล้านบาท จากธนาคารไทยพาณิชย์ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2546 ซึ่งเมื่อรวมกับ CD-SSI ที่ธนาคารมีอยู่เดิม จำนวน 1,200 ล้านบาท รวมเป็น CD-SSI จำนวนทั้งสิ้น 2,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะจำหน่าย CD-SSI จำนวน 2,347.5 ล้านบาท ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างหนี้เดิม ทั้งนี้การซื้อ CD จำนวน 1,200 ล้านบาท และการจำหน่าย CD-SSI จำนวน 2,347.5 ล้านบาท ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนของธนาคาร

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ให้ความเห็นว่า การขายคืนหุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SSI ได้ช่วยลดความกังวลจากการที่เจ้าหนี้จะแปลงสภาพหุ้นกู้นั้น เนื่องจากหากมีการแปลงสภาพ จะทำให้เกิด Dilution effect ถึงประมาณ 34.89%

หุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวมีจำนวน 2,400 ล้าน บาท ราคาแปลงสภาพที่ 5.25 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวน หุ้นสามัญที่เกิดจากการแปลงสภาพได้ประมาณ 457.14 ล้านหุ้น ขณะที่ปัจจุบัน SSI มีหุ้นทุนชำระแล้วเท่ากับ 853 ล้านหุ้น ซึ่งหากมีการแปลงสภาพจะทำให้มีหุ้นทุนชำระแล้วประมาณ 1,310.14 ล้านหุ้น

การขายคืนหุ้นกู้แปลงสภาพนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างใดต่องบการเงินของ SSI เนื่องจากการขายคืนนี้เป็นการขายคืนให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SSI

ด้วยคุณสมบัติที่เป็นหุ้นกู้ที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ ในอนาคต หากบริษัทฯต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจ ก็สามารถที่จะนำหุ้นสามัญที่ได้จัดสรรไว้จำนวน 457.14 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพหุ้นกู้มาขายให้นักลงทุน

ได้ โดยเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อราคาหุ้น SSI เนื่องจากปัจจุบันดีมานด์ความต้องการใช้เหล็ก ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ บริษัทจะยังได้รับผลดีจากโครงการพัฒนาระบบท่อส่งมูลค่า 2 แสนล้านบาท โดยโครงการพัฒนาระบบท่อส่งน้ำนี้ จะก่อให้เกิดความต้องการใช้ท่อเหล็กในการติดตั้งท่อส่งน้ำ เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่อุตสาหกรรม ส่งผลให้ผลประกอบการของ SSI ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น

SSI ยังมีโครงการล้าง กัดกรด และชุบน้ำมันในเหล็กแผ่นรีดร้อนให้มีผิวเรียบ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มกับสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน จากราคาประมาณ 300 ดอลาร์/ตัน เป็นราคา 450-500 ดอลลาร์/ตัน

"เราคาดว่ากลุ่มยานยนต์จะใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนที่ผ่านการล้าง กัดกรด และชุบน้ำมันแล้วจากกลุ่ม SSI ประมาณ 200,000 ตัน และยังคงคาดว่า SSI จะมีกำไรสุทธิ (Normalized profit) ในปี 2546 ประมาณ 3,848 ล้านบาท EPS ประมาณ 4.51 บาท"

จากการที่ SSI ออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาทนั้น บริษัทได้นำไปชำระหนี้คืนบางส่วน ส่งผลให้บริษัทสามารถโอนกลับดอกเบี้ยค้างจ่ายตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้ โดยจากมูลหนี้ที่บริษัทมี 12,000 ล้านบาท บริษัทมีดอกเบี้ยค้างจ่ายดังกล่าวเท่ากับ 1,198 ล้านบาท ซึ่งเราคาดว่าในไตรมาส 4/2546 จะโอนกลับดอกเบี้ยค้างจ่ายดังกล่าวประมาณ 399 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในปี 2546 SSI มีกำไรสุทธิประมาณ 4,248 ล้านบาท EPS ประมาณ 4.98 บาท

สำหรับปี 2547 ได้แจ้งหยุดผลิตประมาณ 45 วันเพื่อซ่อมบำรุงและจะสามารถกลับมาผลิต ได้ประมาณเดือน ม.ค. 2548 เราจึงคาดว่าเป้าหมาย การผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้าน ตัน/ปี ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ซื้อลงทุน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us