ชินคอร์ปเร่งปั้นธุรกิจที่ไม่ใช่โทรคมนาคม เสริมมูลค่าการลงทุนที่ตั้งไว้ 4 แสนล้านบาท
ในอีก 5 ปี โดยเฉพาะธุรกิจด้านบันเทิงที่จะโหมหนักในปีหน้า
นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า
จาก 3 โครงการที่ชิน คอร์ปร่วมลงทุนในปีนี้คือ สายการบินราคาต่ำหรือโลว์คอสต์ แอร์ไลน์
บริการ สิน เชื่อแคปิตอล โอเค และการเปิดให้กันตนา กรุ๊ป กับไตรภพ ลิมปพัทธ์ เข้ามาถือหุ้นใน
ไอทีวีฝ่ายละ 10% คาดว่าจะทำให้รายได้ของชินคอร์ปในปีหน้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
ปัจจุบัน ชินคอร์ปมีสินทรัพย์อยู่ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
หรือเอไอเอสประมาณ 2 แสนล้านบาท ในธุรกิจดาวเทียม 4 หมื่นล้านบาท และจะทำให้มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจดาวเทียม
รวมถึงธุรกิจที่ไม่ใช่โทรคมนาคมรวมกันให้ได้ 2 แสนล้านบาท และภายใน 5 ปี จะทำให้ชินคอร์ปมีพอร์ตหรือมูลค่าการลงทุนประมาณ
4 แสนล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งจะ เป็นการลงทุนในเรื่องของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมอย่างเอไอเอสเป็นตัวนำ
อีก 2 แสนล้านบาทจะเป็น การลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากชินคอร์ปไม่ต้องการ ผูกติดเรื่องของรายได้จากธุรกิจโทรคมนาคมเพียงอย่างเดียว
"ปีหน้าเราจะต้องเร่งดำเนินการในสามโครง การนี้เป็นหลัก"
สำหรับทิศทางของชินคอร์ปในรอบปี 2547 บุญคลีประกาศชัดว่า มุ่งเน้นในเรื่องของบันเทิงหรือธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์
มากขึ้น โดยมุ่งเรื่องเนื้อหา สาระหรือคอนเทนต์ ในลักษณะของการผนึกพลังของ ธุรกิจในกลุ่มทั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
โมบายล์ คอนเทนต์ที่ให้บริการในโทรศัพท์มือถือ บรอดแบนด์คอนเทนต์ รวมทั้งในส่วนของไอพีสตาร์ของบริษัท
ชินแซทเทลไลท์ ที่เป็นดาวเทียมสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ แซทเทลไลท์โดยเฉพาะ
ซึ่งทิศทางตรงนี้เร็วเห็นภาพชัดเจนขึ้นหลังกันตนา กรุ๊ป กับไตรภพ ลิมปพัทธ์ เข้ามาถือหุ้นในไอทีวี
ส่วนที่กลุ่มชินคอร์ปร่วมทุนกับ DBS เชื่อว่าผลประโยชน์ส่วนหนึ่งจะตกกับลูกค้าเอไอเอสอย่างชัดเจน
คือไม่จำเป็นต้องไปขออนุมัติวงเงินกู้หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ลูกค้าชั้นดีของเอไอเอสซึ่งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้
จะได้รับอนุมัติวงเงินสินเชื่อทันที
ด้านการให้บริการ ทิศทางของเอไอเอสในการที่จะเป็นเกตเวย์เชื่อมโยงกับธุรกิจด้านต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งหรือเอนเตอร์เทนต์ จะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ในลักษณะของการเป็นเปย์เมนต์
เกตเวย์ รวมทั้งในเรื่อง M-Wallet หรือ M-Commerce ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นการใช้ประโยชน์
จากสังคมสื่อสารไร้สายอย่างเต็มที่
ด้วยกลยุทธ์การผสมผสานธุรกิจต่างๆ ในกลุ่ม หรือ Synergy เอไอเอสได้มีการเปลี่ยนโฉมร้าน
เทเลวิซในภาพลักษณ์ใหม่ โดยเน้นคอนเซ็ปต์ "Shop you can trust" ยกระดับมาตรฐานบริการเหมือนเป็นสาขาของเอไอเอส
เอไอเอสมีร้านเทเลวิซจำนวนกว่า 350 ร้านทั่วประเทศเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายและให้บริการลูกค้าเอไอเอส
ทั้งจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ จีเอสเอ็ม 1800 และวัน-ทู-คอล!
ร้านเทเลวิซโฉมใหม่ สะท้อนภาพลักษณ์ของการให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบและมีความทันสมัย
ด้วยการสร้างให้เป็นศูนย์กลางการสื่อสารไร้สายที่ดีที่สุด ที่ลูกค้าจะได้รับสินค้าและบริการที่ต้องการได้อย่างครบวงจรและเป็นที่ยอมรับของลูกค้า
ในฐานะ Shop you can trust ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดความ เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการของร้าน
เทเลวิซ โดยร้านเทเลวิซโฉมใหม่ จะมีพื้นที่เป็นสัด ส่วนโดยแบ่งพื้นที่ในการขายและพื้นที่การบริการอย่างชัดเจน
ซึ่งพื้นที่ต่างๆนั้นจะสามารถให้บริการต่างๆ ได้ในมาตรฐานเดียวกับสำนักงานบริการเอไอเอส
อย่างพื้นที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับบริการและโปรโมชั่น และพื้นที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
เป็นต้น
นอกจากนี้ การปรับโฉมใหม่ของร้านเทเลวิซ ยังเตรียมพร้อมรับบริการใหม่ที่มีการร่วมมือกับพันธมิตร
เช่น เรื่องของสินเชื่อ หรือการจำหน่ายตั๋วเครื่องบินราคาต่ำด้วย