"ตลาดหลักทรัพย" เตรียมย้าย STHAI, TEAM และ SF จากตลาด MAI ไปเทรดใน
SET โดยเริ่ม 1 ม.ค. 47 หลังบริษัททั้ง 3 แห่ง เพิ่มทุนตามเกณฑ์ตลาด โบรกเกอร์ไม่แนะนำให้เล่นเก็งกำไร
ให้รอดูความสามารถในการทำกำไรก่อนว่าจะดีหรือไม่
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ตลท.ได้อนุมัติให้ย้าย 3 บริษัทคือ บริษัท
ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) บริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน)
(TEAM) และบริษัทสยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) (SF) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลัก
ทรัพย์ใหม่ (MAI) แต่ขณะนี้ได้มีการเพิ่มทุนจนทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า
200 ล้านบาท โดย
1. STHAI ได้ดำเนินการเพิ่มทุนชำระแล้วจาก 195 ล้านบาท เป็น 260 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
65 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ใน
ราคาหุ้นละ 1 บาท ซึ่งตลาดหลัก ทรัพย์ได้อนุมัติรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ STHAI
เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน MAI ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2546
2. TEAM ได้ดำเนินการเพิ่มทุนชำระแล้วจาก 150 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
50 ล้านหุ้น เพื่อจ่ายหุ้นปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม ต่อ 1
หุ้น ปันผล ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้อนุมัติรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TEAM เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน
MAI ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2546
3. SF ได้ดำเนินการเพิ่มทุนชำระแล้วจาก 71 ล้านบาทเป็น 237.49 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
24 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจง ในราคาหุ้นละ 3.99 บาท และจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
142.49 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1.5 หุ้น ใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท ซึ่งตลาด
หลักทรัพย์ได้อนุมัติรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SF เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ใน MAI
ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2546 และ 27 พฤศจิกายน 2546 ตามลำดับ
เนื่องจากข้อกำหนดว่าด้วยการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ และข้อกำหนดว่าด้วยการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ใหม่ กำหนดว่า กรณีบริษัทจดทะเบียนใน MAI มีการเพิ่มทุนและการเพิ่มทุนดังกล่าวทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า
200 ล้านบาทให้ถือว่าหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
(SET) ในวันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีถัดไปที่บริษัทมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท
ยก เว้นการเพิ่มทุนดังกล่าวเมื่อรวมกับการ เพิ่มทุนในแต่ละครั้งก่อนหน้ามีจำนวนไม่เกินกว่าการเพิ่มทุนเพื่อยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ในครั้งแรก และจำนวนทุนที่เพิ่มต้องไม่ทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้วเฉพาะหุ้นสามัญถึง
250 ล้านบาท
ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนดังกล่าว
มีการเพิ่มทุนจนทำให้ มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท และการเพิ่มทุนดังกล่าวไม่เข้าข่ายได้รับยกเว้นตามข้อกำหนดตลาดหลัก
ทรัพย์ ดังนั้น เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดดังกล่าว
สำหรับการคำนวณ Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ STHAI และ TEAM ให้ใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ดังกล่าวในตลาด
MAI เป็นฐานในการคำนวณ Ceiling & Floor ตามปกติ
ทั้งนี้ ให้มีผลในระบบการซื้อขาย หลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 ซึ่งเป็นวันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีของทั้ง
3 บริษัท เป็นต้นไป
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์
บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยว่า การ ที่ตลาดหลักทรัพย์ย้ายหุ้น STHAI TEAM และ SF จาก
MAI ไปเทรดใน SET วันที่ 1 ม.ค.47 ส่งผลให้วันนี้อาจ มีแรงซื้อเข้ามา แต่ราคาหุ้นคงปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก
เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมารับข่าวไปแล้ว
นอกจากนี้ หุ้นทั้ง 3 ตัวจะย้ายเข้าไปทำการซื้อขายได้แก่ STHAI ย้าย ไปอยู่หมวดเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง
TEAM ย้ายไปหมวดอิเล็กทรอนิกส์ และ SF ย้ายไปหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่กลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจมากนัก
อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร เนื่องจากมาตรการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันแบบ
Net Settlement 10% ของมูลค่าการซื้อขายจะมีผลกระทบต่อหุ้นขนาดเล็ก และในช่วงนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเล่นหุ้นกลุ่มมาร์เกตแคปขนาดใหญ่
และหากนักลงทุนจะเข้าลงทุนให้รอดูผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ว่าจะสามารถทำกำไรได้ดีหรือไม่