กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น เตรียมผนึกกำลังธุรกิจในกลุ่ม รุกธุรกิจบันเทิงปีหน้า
ขณะที่วานนี้ประกาศร่วมมือกับดีบีเอส สิงคโปร์ ตั้ง บริษัท แคปปิตอล โอเคสยายปีกสู่ธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลตั้งเป้าประเดิม
ปล่อยสินเชื่อ มี.ค. หวังลูกค้าปีแรก 4 แสนคน คาด 2-3 ปี ถึงจุดคุ้มทุนแน่ ขณะที่เจ้าตลาดสินเชื่อบุคคลเดิมไม่หวั่น
เหตุอยู่ในธุรกิจนี้นานกว่า รู้มู้ด ตลาดดีกว่า ขณะที่ธุรกิจนี้ แข่งขันสูงอยู่แล้ว
ด้านผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า เฮต้อนรับกลุ่มชิน เพราะจะช่วยขยายฐานลูกค้าธุรกิจนี้มากขึ้น
หุ้น SHIN ขานรับ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี
นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น กล่าววานนี้
(11 ธ.ค.) ถึงทิศทางการลงทุนของกลุ่มปีหน้าว่า กลุ่มชินคอร์ป จะลงทุนธุรกิจบันเทิง
โดยมุ่งเนื้อหาสาระ หรือคอนเทนต์ ลักษณะเป็นการผนึกพลังธุรกิจในกลุ่ม
ทั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี โมบายล์คอนเทนต์ ที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือ บรอดแบนด์คอนเทนต์
รวมทั้งดาวเทียมไอพีสตาร์ ของบริษัท ชินแซทเทล ไลท์ ที่เป็นดาวเทียมสำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
หรือบรอดแบนด์ แซทเทลไลท์ โดยเฉพาะนายบุญคลียังกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างชิน คอร์ป
กับธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ ว่าเป็นการตั้งบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลในประเทศไทย
ทั้งให้สินเชื่อไม่มีหลักประกันส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อเช่าซื้อต่างๆ
และสินเชื่อรูปแบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว
บริษัทใหม่จะใช้ชื่อบริษัท แคปปิตอล โอเค ทุน จดทะเบียน 1,000 ล้านบาท บริษัทชิน
คอร์ปอเรชั่นจะถือหุ้น 60% มูลค่าร่วมทุนขั้นต้นประมาณ 600 ล้าน บาท และดีบีเอส
แบงก์ ลิมิเต็ด ถือหุ้น 40% มูลค่าร่วมทุนขั้นต้นประมาณ 400 ล้านบาท บริษัท แคปปิตอล
โอเค จะเป็นทางเลือกใหม่ ที่ให้บริการด้วย ความรวดเร็ว ผ่านศูนย์บริการที่มีอยู่ของทั้ง
2 เครือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงสาขาธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ธนาคารลูกของกลุ่มดีบีเอสในไทย
และร้านเทเลวิซ ทุกสาขา
"การร่วมลงทุนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะขยาย ธุรกิจของบริษัทในการจัดตั้งบริษัท
เพื่อดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นการนำ ความสามารถทางด้านบริหารธุรกิจของบริษัท
ชิน คอร์ ปอเรชั่น กลยุทธ์ทางการตลาดฐานลูกค้า และการจัดจำหน่ายของแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส
มาบวกเข้า กับความเชี่ยวชาญทางการเงิน และการให้สินเชื่อที่มี การบริหารความเสี่ยงที่ดีของธนาคารดีบีเอส
สิงคโปร์" นายบุญคลีกล่าว
กวาดลูกค้า 4 แสนรายปีแรก
เขาคาดว่า บริษัทจะเปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลได้ มี.ค. 2547 โดยตั้งเป้าลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ไว้ประมาณ 400,000 คน ภายในสิ้นปี 2547 คิดเป็น ส่วนแบ่งตลาด 6% โดยตั้งเป้าว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน
2-3 ปี หากบริษัทเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะนำเข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เพื่อระดมทุนและขยายสินเชื่อต่อไป ส่วนปี 2548 หาก จำนวนลูกค้าเป็นไปตามเป้าหมาย
400,000 คน บริษัทอาจเพิ่มทุน
นายบุญคลีกล่าวต่อว่าเบื้องต้น ลูกค้าเป้าหมาย แคปปิตอล โอเค จะเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดเป็นหลัก
รายได้มากกว่า 5 พันบาทต่อเดือน รวมทั้งลูกค้า โทรศัพท์มือถือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์
เซอร์วิส (ADVANC) ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษจากการใช้บริการ สินเชื่อส่วนบุคคลจากแคปปิตอล
โอเค
เป้าท็อป 3
สาเหตุที่เลือกธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ร่วมทุน เนื่องจากมีระบบการทำงานดี ฐานลูกค้าพร้อม
และมีประสบการณ์ด้านไฟแนนซ์ จึงตั้งเป้าบริษัทใหม่ติด อันดับ 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในไทยให้เร็วที่สุด
จากที่คาดว่า การเปิดให้บริการปีแรก จะอยู่ในอันดับ 1 ใน 5 ของตลาด จากยอดตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล
3 หมื่นล้านบาทต่อปี ยังคาดว่า ตลาดจะเติบโตได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ด้านม.ล.อยุทธ์ ไชยันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายกำกับการปฏิบัติ ธนาคารดีบีเอส
ไทยทนุ เปิดเผยว่า ธนาคารเชื่อว่าการรวมกำลังความสามารถ ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือ
และขยายธุรกิจใหม่ๆ กับบริษัทร่วมทุนดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่จะขยายขอบเขตธุรกิจธนาคารด้านต่างๆ
เช่น การให้บริการสนับสนุนงานปฏิบัติการ ซึ่ง ธนาคารเชี่ยวชาญ การแนะนำลูกค้า เป็นต้น
เจ้าเก่าไม่หวั่น
นายจตุฤทธิ์ จันทรกาต์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมและส่งเสริมธุรกิจ บริษัท สยามเอแอนด์ซี
จำกัด เจ้าของสินเชื่อบุคคล อีซี่ บาย กล่าววานนี้ (11 ธ.ค.) ว่าการที่กลุ่มชิน
คอร์ป ร่วมกับธนาคารดีบีเอส จะเปิดบริษัททำธุรกิจสินเชื่อบุคคล ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อ
ผู้บริโภคไทย
บริษัทมองว่า บริษัทร่วมทุนใหม่ดังกล่าว เป็นผู้ประกอบการรายหนึ่ง ที่จะเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อบุคคล
ดังนั้น เขาเชื่อว่าธุรกิจโดยรวมจะแข่งขันและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ หรือให้บริการ นำสิ่งดีๆ
กลับสู่ลูกค้าไทย ทั้งสิ้น
ด้านการแข่งขัน เขามองว่าธุรกิจมีการแข่งขันตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งบริษัท มีการพัฒนา
และปรับ ปรุงการให้บริการ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ดังนั้น การมีผู้ประกอบการใหม่ไม่น่าจะกระทบ มากนักกับบริษัท หรือผู้ประกอบการรายเดิมอื่นๆ
ซึ่งเป็นไปตามคาดหมายว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาอีกประมาณ 2-3 ราย หลังจากพ.ร.บ.
บัตรเครดิตออก โดยบริษัทยังไม่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มากมาย
ส่วนประเด็นที่กลุ่มชิน คอร์ป จะมีฐานลูกค้าโทรศัพท์มือถือมากนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ที่อาจขยายฐานลูกค้าสินเชื่อบุคคลได้เร็ว แต่บริษัทมั่นใจว่า ประสบการณ์ที่อยู่ในตลาด
ใกล้ชิดลูกค้ามากกว่า 7 ปี เข้าใจลูกค้าได้ดีกว่า นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้า น่าจะเป็นคนละกลุ่ม
โดยลูกค้าบริษัทส่วนใหญ่ จะเป็น กลุ่มซีลบขึ้นไป หรือเทียบเป็นเงินเดือนตั้งแต่
5,000 บาทขึ้นไป หรือประเภทนักศึกษา หรือเพิ่งจบทำงาน ประมาณ 1-2 ปี
"เราเชื่อว่า เรามีการวางแผนไว้อย่างดีในทุกๆ ด้าน ดังนั้น การที่จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามา
ไม่กระทบกับธุรกิจบริษัท แต่หากแห่งอื่นใดไม่มีการ วางแผน อาจจะมีผลกระทบบ้าง"
แผนปีหน้า บริษัทเตรียมผลิตภัณฑ์ให้บริการใหม่ๆ ต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเติบโต
ทั้งด้านยอดขายและจำนวนลูกค้า ประมาณ 20-25% จากปีนี้ ที่มียอด ปล่อยสินเชื่อประมาณ
10,000 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นลูกค้าดี เป็นเอ็นพีแอลเพียง 3% ถือว่าน้อยมาก
ด้านนายพิริยะ วิเศษจินดา ประธานธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค จีอี แคปปิตอล
ประเทศไทย กล่าว ว่าการเข้ามาของผู้ให้บริการสินเชื่อรายใหม่ๆ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค
ถือเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคไทย โดยรวม ที่จะมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้บริการ สินเชื่อประเภทนี้
ขณะเดียวกัน จะช่วยผลักดันผู้บริการสินเชื่อที่อยู่ในตลาดแข่งขันกันให้บริการ และ
เสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้อง การของผู้บริโภคไทยดียิ่งขึ้น
"ส่วนจีอี แคปปิตอลนั้น เราจะยังคงมุ่งเน้นใน การเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว
และช่องทางในการให้บริการ ซึ่งรวมถึงการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่รวด เร็วขึ้น"
ค้าปลีกเฮ
แหล่งข่าวเชนร้านค้าปลีกวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าวให้ความเห็นว่าการเกิดขึ้นของผู้ให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนอีกรายอย่างกลุ่มชินคอร์ป
ที่ร่วมมือกับกลุ่มดีบีเอสิงคโปร์ ในนามแคปปิตอล โอเค ว่าน่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
ที่จะมีทางออกใช้บริการมากขึ้น เพราะคู่แข่งรายใหม่ ย่อมต้องมีข้อเสนอดีๆ เพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการรายเก่า
ที่ต้องได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ
ส่วนร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ได้รับผลกระทบ แต่อย่างใด แต่จะเป็นผลดีมากกว่า
เพราะไม่ได้เป็นคู่แข่ง เป็นการทำธุรกิจต่างกัน แต่สินเชื่อเงินผ่อนจะเป็นพันธมิตรที่ดีกับร้านค้าปลีกขายสินค้า
เพราะจะเป็นแรงกระตุ้นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้การ ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือคอนซูเมอร์โปรดักต์อื่นๆ
ขายได้มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคจะมีทางเลือกใช้บริการสินเชื่อเงินผ่อนมากขึ้น
ทำให้ฐานตลาดกว้างกว่าปัจจุบัน
ปัจจุบันร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ มีผู้ให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนเป็นพันธมิตรอยู่แล้วแทบทุกราย
ซึ่งเป็นรายใหญ่ในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นอีซี่บาย เฟิร์สช้อยส์ อิออน นอกนั้นเป็นรายย่อย
หรือเป็น การให้บริการเองของเชนร้านค้าปลีกต่างๆ
ขณะที่หุ้น SHIN วานนี้ ตอบรับการสยายปีกของกลุ่ม โดยราคาเพิ่ม 4.54% เพิ่ม 1.50
บาท เป็น 34.50 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ด้วยมูลค่าซื้อขายติด 1 ใน 10 ของหุ้นที่มูลค่าซื้อขายสูงสุดวานนี้
ที่ 1,320.42 ล้านบาท
ซึ่งเป็นไปตามภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยรวมวานนี้ที่คึกคัก ดัชนีเดินหน้าอีก 6.92
จุด เพิ่ม 1.04% ด้วยมูลค่าซื้อขายถึง 46,536.26 ล้านบาท หลังจากหุ้นบลูชิปหลักๆ
ขึ้นยกแผง ด้วยการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติอีก 1,427.68 ล้านบาท