ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (เอ็มเอไอ) ตั้งเป้าดึง
บจ.ใหม่ปี 47 จำนวน 50 บริษัท หวังเพิ่มมูลค่าระดมทุนรวม 1 แสนล้านบาท จะทำให้มูลค่าตลาดรวม
(มาร์เกตแคป) เพิ่มขึ้นอีก 4 แสนล้านบาท ขณะที่เตรียมตั้งชมรมนักวิเคราะห์ เพื่อพัฒนานักวิเคราะห์ปัจจุบันต่อเนื่อง
หลังจากสมาคมนักวิเคราะห์ที่มีอยู่ปัจจุบัน มักให้ความสำคัญแก่หลักสูตรมะกัน เน้นอบรมนักวิเคราะห์ใหม่มากเกินไป
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
กล่าวว่า ปี 2547 การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ยังคง คึกคัก เพราะจะมีหุ้นขนาดใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก
จะมีระยะเวลาจดทะเบียนที่ไม่ห่างกันมาก และสม่ำเสมอ
โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่เอกชนและรัฐวิสาหกิจ มีทั้งกลุ่มสุราของบริษัท เบียร์ไทย
(1991) เจ้าของเบียร์ช้าง ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)
หุ้นใหม่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ผ่านมา ยังช่วยขยายฐานนักลงทุนรายใหม่ทาง
อ้อมให้ตลาดหลักทรัพย์ด้วย จากการสำรวจ ทุกครั้งที่มีหุ้นใหม่จดทะเบียนในตลาดหลัก
ทรัพย์ จะมีนักลงทุนรายใหม่เข้าลงทุนประมาณ 30% ของนักลงทุนที่มีอยู่
เขากล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์หวังว่า บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะกำหนดราคาเสนอขายด้วยความระมัดระวัง
สามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนในระดับเหมาะสม จึงจะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนลงทุนต่อเนื่อง
ตั้งชมรมนักวิเคราะห์
ตลาดหลักทรัพย์มีแผนสนับสนุนนักวิเคราะห์ ให้ตั้งชมรมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งให้ความรู้นักลงทุน รวมถึงฝึกอบรมนักวิเคราะห์รุ่นใหม่ๆ
ให้มีประสบการณ์ ความชำนาญมากขึ้น
ปีหน้า ตลาดหลักทรัพย์จะจัดงานมหกรรม นักวิเคราะห์ เพราะขณะนี้ ยังขาดการทำงานร่วมกันในการพัฒนาตัวเอง
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะให้ฝ่ายงานบริการบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์
คอย ช่วยเหลือ พร้อมสนับสนุนเงินลงทุนเบื้องต้น 10 ล้านบาท
การตั้งชมรมดังกล่าว แม้จะมีสมาคม นักวิเคราะห์อยู่แล้ว แต่เนื่องจากที่ผ่านมา
เขากล่าวว่า สมาคมฯดูเหมือนให้ความสำคัญอบรม นักวิเคราะห์ใหม่ หลักสูตร CFA และ
CISA ของสหรัฐอเมริกามากเกินไป จนละเลยการ ให้ความสัมพันธ์นักวิเคราะห์เดิม ที่ประกอบอาชีพอยู่แล้ว
ตลาดหลักทรัพย์จึงเลือกจะสนับสนุนตั้งชมรมนักวิเคราะห์เอง โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นปีหน้า
จะปล่อยให้สมาชิกเลือกกรรมการชมรมกันเอง