Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 ธันวาคม 2546
ทักษิณไม่ต่ออายุภาษีอสังหาฯ"อัตราเดิม3.3%ถือว่าไม่มาก"             
 


   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ทักษิณ ชินวัตร
สุชาติ เชาว์วิศิษฐ
Real Estate




"ทักษิณ" ส่งสัญญานจะขยายเวลาลดภาษี- ค่าธรรมเนียมโอนอสังหาฯ หรือไม่ ให้ขุนคลัง ตัดสินใจเต็มที่ แต่แนะ อัตราเดิม 3.3% ถือว่าไม่มาก ขณะที่ "สุชาติ" เตรียมรายงาน ครม.วันนี้ (9 ธ.ค.) ข้อเสนอเอกชน ที่ให้เก็บภาษีตามราคาบ้านเป็น 3 ระดับ ต่ำ-กลาง-สูง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายก รัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (8 ธ.ค.) ถึง การขยายเวลาลดภาษี-ค่าธรรม-เนียมการโอนสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะครบกำหนดวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ว่า การสรุปเรื่องดังกล่าวขึ้นกับการ ตัดสินใจของกระทรวงการคลัง หากคิดว่าจะไม่มีการยืดมาตรการดังกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะยึดรูปแบบเก็บภาษีระดับเดิม

"โดยส่วนตัว ผมคิดว่าถ้าไม่ยืดมาตรการภาษีดังกล่าว แล้วจัดเก็บในอัตรา 3% เท่าเดิม ก็ถือว่าเป็นระดับที่ไม่มาก และการใช้ มาตรการภาษีอสังหาฯนั้น ความจริงถือว่าช่วยผู้ประกอบการได้ นิดหน่อย ไม่มาก ซึ่งถ้ากลับมาเก็บภาษีในระดับเท่าเดิม ก็ไม่มีผล กระทบอะไร" นายกรัฐมนตรีกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ ถือว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่น่าห่วง และไม่ร้อนแรงเกินไป โดยเฉพาะอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย แต่เขายอมรับว่า บ้านระดับราคาเกินหลังละ 20 ล้านบาท อาจเก็งกำไร บ้างเล็กน้อย แต่จุดนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการจำกัดการปล่อยกู้ของธนาคารภาค อสังหาฯ ที่ 70% ของราคาขาย ก็นับว่าการเก็งกำไรเริ่มเบาบางลง การชะลอความร้อนแรง ต้องทำเป็นบาง ส่วน ไม่ใช่ทำทุกอย่าง ทุกส่วนเหมือนกันหมด

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การไม่ขยายเวลามาตรการดังกล่าว จะมีไม่ผลกระทบต่อการปรับเป้าเก็บรายได้ภาษีของคลัง ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการ ขยายตัวเศรษฐกิจไทย ที่ตั้งเป้าปีหน้า 8% เพราะตัวเลขส่วนนี้ไม่มาก

ด้านร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีภาษีเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กระทรวงการคลังจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ แต่คาดว่าคงไม่ทันการประชุมครม. วันนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด ต้องรอให้ครม.มีมติออกมาก่อน จึง จะเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะนี้ ให้ยึดมติครม. เดิมไปก่อนคือให้มาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาฯ จาก 3.3% เหลือ 0.11% สิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้

"หากจะมีการปรับเปลี่ยน คงจะไม่ใช้รูปแบบการจัดเก็บที่เป็นหลายอัตรา เพราะจะทำให้เกิดความ ยุ่งยากในการจัดเก็บภาษี" ร.อ.สุชาติกล่าว

ด้านแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าวันนี้ (9 ธ.ค.) ร.อ.สุชาติจะรายงานเรื่องนี้ ลักษณะปากเปล่า ให้ที่ประชุมครม.รับทราบ เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีตัวเรื่องที่เป็นหนังสือวาระให้ครม.พิจารณา ซึ่งการรายงาน คาดว่า ร.อ.สุชาติจะชี้แจงข้อดี ข้อเสีย อุปสรรค ปัญหาการเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะแบ่ง ตามระดับราคาบ้านด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องรายงานให้ครม.รับทราบ

เสนอเก็บภาษีตามราคาบ้าน

"ตอนนี้ มีแนวคิดที่จะให้มีการเก็บภาษีตามราคาบ้าน เป็นระดับล่าง ระดับกลาง และระดับบน ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่จากผู้ประกอบการเข้ามา รัฐมนตรีคลังจึงต้องรายงานให้ที่ประชุมครม.ได้รับทราบด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าในทางปฏิบัติทำได้ยาก" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานผลการศึกษาผลกระทบจากการกลับไปใช้มาตรการเก็บภาษี-การโอน อสังหาริมทรัพย์อัตราเดิมคือภาษีธุรกิจเฉพาะอสังหาฯ 3.3% จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ในระดับ 0.11% ว่าจะทำให้ ต้นทุนราคาบ้านสูงขึ้น 5% คิดเป็นเงินประมาณ 54,000 บาท สำหรับบ้านราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป หากปรับขึ้น อยู่ที่ 1% จะทำให้ต้นทุนราคาบ้านสูงขึ้น 2%

"หากถามถึงผลกระทบ เชื่อว่าขณะนี้ ผู้ประกอบการได้มีการรับรู้ และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้แล้วในระดับหนึ่ง" แหล่งข่าวกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us