ประธานตลาดหลัก ทรัพย์ขอเวลาศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธนาคารอิสลาม
(อิสลามิก อินเด็กซ์) เพราะเป็นเรื่องใหม่ "ธีรศักดิ์" ยันมีแต่ได้กับได้
เผยนักลงทุน สิงคโปร์ติดต่อขอลงทุนผ่านธนาคารชารีอะฮ์
กรณีที่ผู้บริหารและกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารชารีอะฮ์ (ธนาคารอิสลามของธนาคารกรุงไทย)
เสนอให้มีการจัดตั้งตลาดหุ้นอิสลาม (อิสลามิก อินเด็กซ์) นายวิจิตร สุพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่า
การกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนถึงแนวทางการเปิดตลาดหุ้นดังกล่าว
จึงขอเวลาศึกษาในรายละเอียดให้มีความชัดเจนเสียก่อน เนื่องจากเรื่องการ ตั้งตลาดหุ้นอิสลามนั้นถือเป็นเรื่องใหม่
โดยเฉพาะใน รายละเอียดเรื่องหุ้นตัวใดที่จะสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นอิสลามได้
นายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ธนาคารอิสลามที่เพิ่งเปิดดำเนินการจะต้องมีแผนการดำเนินงานและผลประกอบการที่มั่นคงทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อและธุรกรรมอื่นๆ
ก่อนจะเปิดตลาดหุ้นอิสลาม เมื่อธนาคารมีความต่อเนื่องแล้วมีความต้องการจากนักลงทุนที่เป็นชาวมุสลิมจริง
ค่อยหารือถึงการจัดตั้งตลาดหุ้นอิสลาม
"เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ที่สำคัญต้องแน่ใจว่ามีความต้องการจริง"
นายนิพัทธกล่าว
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ ประธานกรรมการ ธนาคารชารีอะฮ์ กล่าวว่าขณะนี้มีนักลงทุนมากมายใน
ประเทศสิงคโปร์มาติดต่อกับธนาคารชารีอะฮ์ว่าจะเอา เงินมาลงในประเทศไทยขอให้ธนาคารชารีอะฮ์ช่วยดูแลให้
"เราก็คงจะดูให้นักลงทุนจากสิงคโปร์ หากยังไม่ตลาดหุ้นอิสลามก็ต้องดูการลงทุนอื่นๆ
แต่ยังยืนยันว่าการเปิดตลาดหุ้นอิสลามจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าไทยมากกว่าแสนล้าน
เราต้องเข้าใจว่า ชาวมุสลิมไม่สามารถลงทุนในตลาดหุ้นอื่นเพราะผิดกฎ หมายและศาสนา
แต่นักลงทุนอื่นสามารถลงทุนในตลาดหุ้นอิสลามได้"
นายธีรศักดิ์ ระบุถึงหลักการจัดตั้งตลาดหุ้นอิสลามว่าจะต้องมีคณะกรรมการกฎหมายอิสลามประจำตลท.
ทำหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่ขัดหลักศาสนา ส่วนธุรกรรมที่ขัดต่อหลักศาสนามี 5
ประการ คือ ธุรกิจเกี่ยวกับรับจ่ายดอกเบี้ย ธุรกิจ ผูกขาดตัดตอน เก็งกำไร สุรา
ยาเมา และก็ธุรกรรม ที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีต่อสังคม