สามารถไอ-โมบาย (SIM) เริ่มเทรดในตลาดหุ้นวันนี้ หมวดสื่อสาร โบรกเกอร์เชียร์
"ซื้อ" เชื่อพื้นฐานราคาปี 47 ปรับเพิ่มอีก จากผลดำเนิน งานก้าวกระโดด
เป็นผลจากการเติบโตธุรกิจ Content ขณะที่ บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย)
ตามติด เริ่มเทรด 11 ธ.ค. หมวดวัสดุก่อสร้าง
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่าหุ้นบริษัทจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลัก- ทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรกวันนี้
(9 ธันวาคม) โดยจะซื้อขายหมวดสื่อสารใช้ชื่อย่อการซื้อขายว่า SIM
บริษัทเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 110 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท ราคาเสนอขาย
11 บาท เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน และ 1-2 ธันวาคม ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน
จองซื้อมากกว่าปริมาณที่จัดสรรได้ถึง 26 เท่า ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทมีนโยบาย จ่ายเงินปันผลปีละประมาณ
40-50% ของกำไรสุทธิ เริ่มต้นปีนี้
"เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้คืนเงินกู้
และใช้เป็นเงิน ทุนหมุนเวียน ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุน เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
Content เข้าไปลงทุนบริษัทในเครือ และลงทุนใน ธุรกิจผู้พัฒนาข้อมูล ข่าวสาร และสาระความบันเทิง
Content Provider ในต่างประเทศ ร่วมกับกลุ่มสื่อสารจาก มาเลเซีย ซึ่งถือหุ้นบริษัทประมาณ
20% ของทุนจดทะเบียน" นายธวัชชัยกล่าว
นายธวัชชัยกล่าวต่อไปถึงธุรกิจของบริษัทว่า ในปัจจุบันได้ทำการแบ่งลักษณะของสายธุรกิจเป็น
2 ประเภท ประเภทแรกคือ สายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
SIM Card และอุปกรณ์เสริม โดยจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์ดังทุกระบบที่ให้บริการอยู่ในประเทศขณะนี้
โดยบริษัทได้เพิ่มการให้บริการ ข้อมูลต่างๆ อาทิ ริงโทน วิดีโอคลิป รายงานผลฟุตบอล
ราคาหุ้น ไว้ในตัวเครื่อง เป็น i-mobile package เป็นจุดขายที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
และสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าที่จำหน่าย และธุรกิจ ร้าน i- mobile by SAMART
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กว่า 70 สาขา ซึ่งนอกจากจะจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
ยังมีอุปกรณ์ไอที บริการดาวน์โหลดริงโทน โลโก้ เพลงผ่านตู้ BUG MODE และสาระความบันเทิงต่างๆ
บริการศูนย์ซ่อม และจุดบริการรับชำระเงินค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
(Counter Service) และขยายสู่การ ขายแฟรนไชส์ อีกด้วย
อีกสายธุรกิจคือ สายธุรกิจบริการ ข้อมูลข่าวสารและสาระความบันเทิง คือ บริษัท
สามารถ อินโฟ มีเดีย จำกัด ใน นาม THE BUG โดย BUG Live 1113 บริการข้อมูล และอำนวยความสะดวกโดยโอเปอเรเตอร์
และ BUG Fun 1900 วาไรตี้บันเทิงทางโทรศัพท์ รวมถึงการให้บริการในรูปแบบข้อความ
หรือ ภาพ จาก BUG Mode นำเสนอบริการข้อมูล ข่าวสาร และสาระความบันเทิงผ่านช่อง
การสื่อสารที่หลากหลาย ผ่านอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด อาทิ โทรศัพท์เคลื่อนที่, Notebook,
PDA, Kiosk, website และ mobile kiosk ซึ่งในช่วงเริ่มต้นได้ให้บริการรายงานข่าวประจำวัน
รายงานข้อมูลหุ้น รายงานผลกีฬาผ่านทางการส่งข้อความสั้น (SMS) รายงาน ข้อมูลจราจร
การดาวน์โหลดเกม ออนไลน์ และการทำนายดวงชะตาผ่าน ทางมือถือ เป็นต้น นายธวัชชัยกล่าว
นายธวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2545 มียอดรายได้รวมสูงถึง
4,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ที่มียอดรายได้รวม 3,785 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
คิดเป็นร้อยละ 12 และสำหรับผลประกอบการ งวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2546 บริษัทมียอดรายได้รวม
6,197 ล้านบาท กำไรสุทธิเท่ากับ 175 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.พัฒน-สิน (CNS) วิเคราะห์ SIM โดยระบุว่า ผลดำเนินงานฟื้นตัว
(turnaround) กลับมาแสดงกำไรสุทธิอีกครั้ง ปีนี้ คาด ว่าจะกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท
เทียบกับขาดทุนสุทธิ 26 ล้านบาทปี 2545 จากการเริ่มบันทึกรายได้จากบริการข้อมูล
ข่าวสาร และบันเทิง (Infotainment & Multimedia) ของบริษัทย่อย บริษัท สามารถ
อินโฟร์ มีเดีย เป็นระยะเวลา 5 เดือน
CNS คาดจำนวนนาทีใช้บริการ Bug Fun 1900, Bug Live 1113 และ Bug Mode ปีนี้ ยังคงปรับเพิ่มขึ้น
55% เทียบต่อปี (yoy) รูปแบบข้อมูลสาระบันเทิง ที่ยังคงเป็นที่นิยมได้แก่ เกม ข้อมูลข่าวสาร
คำปรึกษา กีฬา และบันเทิง
ปัจจุบัน SIM มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดของบริการข้อมูลทางโทรศัพท์ คิดเป็น 70%
ของมูลค่าตลาด รวม อัตราส่วนกำไรขั้นต้น (gross margin) สำหรับบริการดังกล่าว สูงมากถึง
50%
รายได้จากการขายเครื่องและบริการที่เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่
ไทยโมบาย 1900 เริ่ม บันทึกเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญปีนี้ SIM ได้รับการแต่งตั้งในกิจการร่วมค้ากับไทยโมบาย
โครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์
โดยสัญญามีระยะเวลา 5 ปี เริ่ม ตั้งแต่ ส.ค. 2545 ใน 3 ส่วนงาน ได้แก่ การบริหารช่องทางจำหน่าย
การบริการ ลูกค้าสัมพันธ์ และการจัดระบบเก็บเงิน CNS คาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการสะสมของไทยโมบายจะอยู่ที่
180,000 ราย ณ ปลายปีนี้ ส่งผลรายได้จากไทยโมบายปีนี้ เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 455%
yoy
ข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งจากการขายเครื่องร่วมกับบริการสาระบันเทิง ส่ง ผลให้ยอดขายเครื่องปีนี้
ขยายตัวสูงถึง 71% ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่อง ยังคงปรับเพิ่มขึ้น 15% แม้ตลาดผู้ใช้บริการรายใหม่แนวโน้มชะลอ
และอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ แนวโน้มหดตัว ท่าม กลางภาวะการแข่งขันรุนแรงของธุรกิจขายเครื่อง
แต่ CNS ประเมินว่า gross margin เฉพาะธุรกิจขายเครื่องสำหรับ SIM แนวโน้มทรงตัว
เนื่องจากข้อได้เปรียบจากขายเครื่องควบ (bundle) กับบริการเสริมพิเศษ (contents)
จะยังคงส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ย และปริมาณยอดขายเครื่องปรับเพิ่มขึ้น
กำไรสุทธิปี 2547 แนวโน้มเติบโต ในอัตราก้าวกระโดด 94% yoy จากเหตุผล 1) จำนวนนาทีใช้บริการข้อมูล
ข่าวสาร และบันเทิง จะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีก 25% yoy
การบันทึกรายได้จากบริการดังกล่าวเข้ามาเต็มปี ปี 2547 ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากบริการดังกล่าวเพิ่มขึ้นอัตราก้าวกระโดด
210% CNS ยังคงคาดว่าจำนวนนาทีการใช้บริการดังกล่าวปี 2547 จะปรับเพิ่มขึ้นอีก
29%
2) ยอดขายเครื่องโทรศัพท์ปรับเพิ่มขึ้นอีก 12% ขณะที่ราคาขายเครื่องเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นอีก
15% เป็นผลจาก การเปิดตัวของรุ่นโทรศัพท์ที่เป็นจอสี และมีเทคโนโลยีสูงขึ้น และการขายรวมกับ
contents ต่อเนื่อง
3) การเริ่มบันทึกรายได้ค่าโฆษณา จากการติดตั้งจอ LED Billboard 3 จอปี 2547
ส่งผลให้คาดว่ารายได้แนวโน้มบันทึกเข้ามา 125 ล้านบาท ปี 2547
จากเหตุผลธุรกิจหลักมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น CNS ใช้สมมติฐานจ่ายเงินปันผล 50%
ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นไป คาดเงินปันผล 52 สตางค์ต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล
4-5% ปี 2547
CNS ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2547 ได้ที่ 13.60 บาทต่อหุ้น แนะนำ "ซื้อ"
โดยใช้ P/E เฉลี่ยหุ้นกลุ่มสื่อสาร 13 เท่า และ EPS ปี 2547 ของ SIM 1.05 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น CNS แนะนำ "ซื้อ" ยังมี upside gain อีก 25% จากราคาจอง 11 บาทต่อหุ้น
ขณะที่บริษัท ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จะเริ่มซื้อขายในตลาดฯ หมวดวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง
ชื่อย่อ "TYCN" 11 ธ.ค.นี้
