คลังรับโอน 70,000 ล้านบาท จาก 2 บลจ. ที่ใช้กองทุนวายุภักษ์ 1 ซึ่งมีเอ็นเอวีแล้วหน่วยละ
12 บาท ซื้อหลักทรัพย์ 11 ตัวของคลัง พร้อมจ่าย 30,000 ล้านบาท จองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนฯ
ส่วน 40,000 ล้านบาทที่คลังเหลือสุทธิ เตรียมไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล 25,075 ล้านบาท
ที่เหลือเป็นรายได้ส่งรัฐ ด้านกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 ต้องรอดูนโยบายรัฐ
วานนี้ (1 ธ.ค.) มีพิธีลงนามสัญญาซื้อขายกองหลักทรัพย์สิน ระหว่างกระทรวงการคลัง
ในฐานะเจ้าของกองทรัพย์สิน กับกองทุนรวม วายุภักษ์ 1 ในฐานะผู้ซื้อ และพิธีจองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนฯ
ส่วนของกระทรวงการคลัง 30,000 ล้านบาท
โดย ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะตัวแทนคลัง ลงนามสัญญา
ร่วมกับนายศรีภพ สารสาส กรรมการ ผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการ (บลจ.) กองทุน
กรุงไทย และนายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการจัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะผู้จัดการร่วม
กองทุนรวมวายุภักษ์ 1
หลังจากลงนาม บลจ.ทั้ง 2 แห่งส่งมอบ เงิน 70,000 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง ขณะเดียวกัน
คลังส่งมอบกองทรัพย์สิน ซึ่งประกอบด้วย ใบหุ้น 11 หลักทรัพย์ ได้แก่ หุ้นสามัญบริษัท
ปตท. (PTT) หุ้นบุริมสิทธิธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) หุ้นสามัญบริษัท การบินไทย (THAI)
หุ้นสามัญธนาคารกรุงไทย (KTB) หุ้นสามัญบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) หุ้นสามัญบริษัท
ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ (PPPC) หุ้นสามัญบริษัท กรุงเทพประกันภัย (BKI) หุ้นบุริมสิทธิธนาคาร
กรุงไทย และหุ้นสามัญบริษัท กรุงเทพคลังสินค้า (KWI) ให้กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 โดยธนาคารนครหลวงไทยทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์
รวม ทั้งเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 เก็บรักษาต่อไป
จากนั้น เป็นพิธีลงนามใบจองซื้อหน่วยลงทุน กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ส่วนกระทรวงการคลัง
3,000 ล้านหน่วย หรือ 30,0000 ล้านบาท โดยคลังชำระค่าจองซื้อให้ บลจ.ทั้ง 2 แห่ง
และรับมอบใบจองหน่วย ลงทุนวายุภักษ์ 1 จาก บลจ. ทั้ง 2 แห่ง
นายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าต่อจากนี้
กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะเริ่มดำเนินการเป็นทางการ โดย จะบริหารจัดการตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน
ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ จะประชุมเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการ การลงทุนคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
ตนเอง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รองผู้อำนวยการสำนักกองทุนรวมวายุภักษ์
และกรรมการผู้จัดการ บลจ. ทั้ง 2 แห่ง
ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการลงทุนกองทุนฯ ภาพกว้าง รวมทั้งติดตามและประมวลผลการลงทุน
กองทุนฯเป็นระยะ คณะกรรมการชุดนี้ จะคัดเลือกที่ปรึกษาการลงทุนอีกชุด เพื่อดูแลการลงทุนให้มีประสิทธิภาพ
นโยบายการลงทุน จะเป็นไปตามหลักการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ คือส่วนการลงทุนประเภท
ก. 70,000 ล้านบาท กองทุนฯ ซื้อกองหลักทรัพย์กระทรวงการคลัง 11 หลักทรัพย์ดังกล่าว
โดยจะลงทุนหุ้นสามัญ บริษัท ปตท. หุ้นบุริมสิทธิธนาคารไทยพาณิชย์ และหุ้นสามัญบริษัท
การบินไทย สูงสุด 3 อันดับแรก รวมสัดส่วนลงทุนประมาณ 65% ของทั้งหมด
สำหรับเงิน 40,000 ล้านบาทที่รัฐบาลได้จากโครงการนี้ 25,075 ล้านบาท จะไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่ออกตามโครงการช่วยเหลือเงินกองทุน
ขั้นที่ 1 ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลประหยัดเงิน 2,000 ล้านบาท ที่เหลือจะส่งเป็นรายได้เข้ารัฐ
ส่วนการลงทุนประเภท ข 30,000 ล้านบาท จะลงทุนหุ้นรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถือ
ตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกลาง และเตรียมไว้ใช้สิทธิ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนรัฐวิสาหกิจที่จะแปรรูป
นายนิพัทธกล่าวว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไม่เกิน
90 วัน นับจากนี้ นักลงทุนรายย่อยที่ต้องการซื้อหน่วย ลงทุนกองทุนฯ ติดต่อซื้อจากธนาคาร
หลังจาก กองทุนฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ราคามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV)
ขณะนั้น โดยจะประกาศ NAV ได้ภายใน 8 ธ.ค.นี้ ขณะนี้ 12 บาทต่อหน่วย ซึ่งกองทุนฯจะประกาศช่วงเวลาจองซื้อเป็นทางการอีกครั้ง
ส่วนการตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ 2 กำลัง ดูกันอยู่ ซึ่งต้องดูนโยบายรัฐบาล และต้องหารือ
กับรัฐบาลก่อน