Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2546








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2546
When You Say Yes But Mean No             

 





การนิ่งเงียบไม่ช่วยแกไขความขัดแย้งซ้ำยังทำลายบริษัท

วัฒนธรรมการทำงานของเรามักไม่นิยมความขัดแย้ง ทำให้พนักงานต้องจำใจพยักหน้าทั้งๆ ที่ใจอยากค้าน ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการที่ในที่ทำงานมีบรรยากาศที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่า เขาคงจะต้องตกงานหากแสดงความเห็นที่ขัดแย้งออกมา หรือไม่ก็อาจทำให้ลูกค้ารายสำคัญต้องหลุดมือไป หากขืนแสดงความขัดแย้งกับลูกค้า แต่ Leslie A. Perlow กลับไม่เห็นเช่นนั้น Perlow ผู้เป็นนักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมและรองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Harvard Business School ชี้ว่า การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่มีพลังในตัวเอง แต่การนิ่งเงียบเก็บความรู้สึกไม่เห็นด้วยไว้ในใจต่างหาก ที่จะทำลายความสัมพันธ์ทางธุรกิจตลอดจนถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว

วังวนแห่งความนิ่งเงียบ

Perlow ชี้ว่าเมื่อเรานิ่งเงียบในครั้งแรก เราจะมีแนวโน้มที่จะนิ่งเงียบต่อไปเรื่อยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนถลำลงสู่ "วังวนแห่งความนิ่งเงียบ" โดยหารู้ไม่ว่าเรากำลังทำสิ่งที่เสี่ยงต่อการสูญเสียตัวเอง สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่น กระทั่งสูญเสียงานที่เราทำอยู่ การนิ่งเงียบเมื่อรู้สึกไม่เห็นด้วย การเก็บความรู้สึกและการจำใจแสดงความเห็นด้วย ไม่ใช่วิธีแก้ไขความขัดแย้ง แต่กลับทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ผิดหวัง กังวลหรือแม้แต่โกรธ แล้วเราก็จะโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราอารมณ์ไม่ดี หรือไม่ก็ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองกำลังอารมณ์บูด การทำเช่นนี้รังแต่จะเพิ่มความไม่สบายใจให้ตัวเองจนในที่สุดจะกลายเป็นการปกป้องตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งกลับจะทำร้ายความสัมพันธ์กับผู้อื่นให้เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว จนเหลืออยู่แต่ความรู้สึกไม่ไว้วางใจและความกลัว

การนิ่งเงียบไม่กล้าแสดงความแตกต่างออกมาส่งผลเสียต่อองค์กรดังนี้

‘ องค์กรจะไม่ได้รับความคิดใหม่ๆ เพราะไม่มีใครกล้าที่จะคิดต่าง จึงขาดการค้นพบทางเลือกใหม่ๆ
‘ อารมณ์ไม่ดีที่ไม่สามารถระบายออกมาจะเก็บกดอยู่ภายในใจส่งผลเสียต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนกระทบความสัมพันธ์ส่วนบุคคล
‘ ผู้บริหารจะไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ให้ภาพอีกด้านหนึ่ง ทำให้การตัดสินใจผิดพลาด
‘ ประสิทธิภาพการผลิตและความคิดสร้างสรรค์ในองค์กรหดหาย

การไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระย่อมกลายเป็นความอัดอั้นตันใจ และทำให้พนักงานหมดความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วม เพราะเมื่อคนเรารู้สึกว่าความคิดของตนไม่ได้รับการให้ความสำคัญ ก็จะรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า และจะแยกตัวออกจากงานและองค์กร ทำให้ความรู้สึกพึงพอใจในงานลดต่ำลง บริษัทก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย

สลัดแบบแผนทิ้ง

Perlow เสนอทางแก้สำหรับผู้ที่ตกอยู่ในวังวนแห่งความนิ่งเงียบดังนี้

‘ หยุดโทษคนอื่นและกล้าที่จะรับผลที่เกิดขึ้นในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง
‘ ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร จงให้เกียรติต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
‘ ทำต่างไปจากแบบแผนที่เคยปฏิบัติกันมาบ้างเพราะนี่เป็นวิธีที่จะทำให้เกิดการค้นพบทางเลือกใหม่ๆ
‘ สร้างพันธมิตรซึ่งจะทำให้ได้รับประโยชน์จากการได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us