Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 ธันวาคม 2546
ไต้หวันลงทุน8หมื่นล.ปี47 BOIดึงโครงการพัฒนาคน             
 


   
search resources

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน - บีโอไอ
สมพงษ์ วนาภา
Investment




บีโอไอหวังดึงการลงทุนต่างประเทศ โดยไม่นับไต้หวัน เข้าไทยปีหน้าเพิ่มเท่าตัวจากปีนี้ ขณะ ที่บริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์-ชิ้นส่วนยานยนต์ จากไต้หวัน เตรียมยกพลลงทุนในไทยปีหน้ากว่า 8 หมื่นล้านบาท

นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่าเขาหวังให้บีโอไอดึงโครงการลงทุนจากต่างประเทศเข้าประเทศไทย ที่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนผ่านบีโอไอ เพิ่มเท่าตัว เป็นประมาณ 6 พันล้านบาทปี 2547 จากปีนี้ โดยเน้นดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติจากประเทศเอเชียตะวันออก ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (SMEs) ทั้งของประเทศเหล่านั้น และของไทย ลงทุนตาม ในลักษณะบริษัทสนับสนุน (Supporting Industries) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากนายก-รัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรองนายก-รัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เดินทางเยือนต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อเจาะตลาดเดิมและตลาดใหม่ ๆ ทั้งด้านการค้า ที่ต้องเชื่อมกับการลงทุน

โดยบีโอไอพร้อมสนองตอบนโยบายนายสมคิด ที่ต้องการทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ทางด้านสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยการดึงการลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านนี้ จากประเทศในเอเชียตะวันออก ทั้งเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น ให้ย้ายฐานการผลิตหลักมาสู่ประเทศไทยให้ได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากจีน มีปัญหาถูกกีดกันนำเข้าเครื่องรับโทรทัศน์จากสหรัฐอเมริกา ที่จะมีผล ม.ค.ปีหน้า

"ประเทศไทยมีโอกาสมาก ที่จะเป็นศูนย์กลาง การลงทุนภูมิภาคนี้ เพราะความมีเสถียรภาพด้านการเมือง และเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มขยายตัวยั่งยืน คนไทยมีความเป็นมิตรกับต่างชาติ ขณะที่ผู้ผลิตจากประเทศอย่างเกาหลี หรือญี่ปุ่น พยายามกระจายความเสี่ยงการลงทุนออกจากจีน" เขากล่าว

ไต้หวันลุยลงทุนไทย 8 หมื่นล้านปี 47

ขณะที่ปี 2547 เขากล่าวว่าผู้บริหารระดับสูงบริษัทในไต้หวัน ด้านการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ รวมถึงด้านชิ้นส่วนยานยนต์ เตรียมเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้ไทยเป็นฐานส่งออก ประเทศอาเซียนอื่น ๆ บางส่วนด้วย

"ขณะนี้ บริษัทต่าง ๆ ในไต้หวัน กว่า 56,000 บริษัท กำลังกระจายการลงทุนไปที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่ง เท่าที่ผมคุยกับซีอีโอบริษัทในไต้หวันหลาย ๆ บริษัท เขามองประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับ การลงทุนจากต่างประเทศ"

นอกจากนี้ บีโอไอจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ต่อเนื่องปีหน้า เพื่อดึงโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ พร้อมกับใช้นโยบายดึงโครงการลงทุนที่เน้นการลงทุนด้านพัฒนา ทักษะคนไทยให้เชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยี และด้านสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ (Skills, Technology an Innovation-STI) โดยมีกองทุนวิจัยสนับสนุน โดย เฉพาะอุตสาหกรรมแฟชั่นเสื้อผ้า ยานยนต์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เน้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสนองนโยบาย พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2558 เร็วกว่าเป้าหมายมาเลเซีย 5 ปี

พลิกบทบาทบีโอไอ

ขณะเดียวกัน นายสมพงษ์กล่าวว่าบีโอไอต้อง พลิกบทบาทตนเองใหม่หมด โดยเน้นส่งเสริมการลงทุนให้ตรงจุด ตั้งทีมงานดึงการลงทุนด้านนี้โดยเฉพาะ ขณะที่ปีหน้า บีโอไอจะเน้นจัดโรดโชว์ดึงนักลงทุนต่างชาติทั่วโลกเข้าไทยมากขึ้นต่อเนื่อง

รวมถึงการผลักดันบริษัทไทย ให้ลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เขมร พม่า เพื่อใช้ประโยชน์แรงงานราคาถูกจากประเทศเหล่านี้ รวมถึง การมุ่งร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วม กับจีนตอนใต้ และเวียดนาม

เลขาธิการบีโอไอกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กฎระเบียบด้านส่งเสริมการลงทุนจากไทยยังล้าสมัย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก ประเทศไทยต้องแก้กฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกการลงทุนจากต่างประเทศ

สำหรับกรณีที่เสนอให้บีโอไอเป็นองค์กรอิสระ นายสมพงษ์กล่าวว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะการเป็นองค์กรอิสระ ต้องมีเป้าหมายชัดเจน ต้องมีความพร้อมด้านกำลังคน และอีกหลาย ๆ ด้าน ขณะนี้ เขากำลังขอความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ ว่าบีโอไอต้องการเป็นองค์กรอิสระหรือไม่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us