Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤศจิกายน 2546
เปิดโฉมหุ้นปันKMC 4โบรกเกอร์พัวพัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
กฤษดามหานคร, บมจ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.)
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ทักษิณ ชินวัตร
สุชาติ เชาว์วิศิษฐ
ศรัญยา จินดาวณิก
พีระพันธ์ เปรมภูติ
Stock Exchange




ก.ล.ต. เปิดเผยหุ้นปั่นล็อตแรก "กฤษดามหานคร" แจ็กพอต ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุพบการเคลื่อนไหวราคาที่ผิดปกติ จากฝีมือของนักลงทุน 2 ราย ผ่านโบรกเกอร์ 4 ราย แต่ปิดชื่อไว้ก่อน ขอเวลา 1 สัปดาห์หาหลักฐานก่อนสรุปส่งตำรวจเพื่อกล่าวโทษ "ทักษิณ" เชื่อตลาดหุ้นจะไม่กระทบ ทุกอย่างชัดเจนความเชื่อมั่นจะกลับมา ด้านปปง.ขอแก้กฎหมายไล่บี้ยึดทรัพย์

หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายป้องกันการสร้างราคาหุ้นหรือ "ปั่นหุ้น" ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีกระแสข่าวออก มาเป็นระยะถึงการตรวจสอบของทางการจนสร้างความกังวลแก่นักลง ทุน และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ การซื้อ-ขายหุ้นมากว่า 3 สัปดาห์

วานนี้ (27 พ.ย.) ตลอดทั้งวัน คนในวงการตลาดหุ้นต่างให้ความสนใจต่อการประกาศรายชื่อนักปั่นหุ้นที่ทางการระบุจะเปิดเผยออกมาให้ทราบ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทั่งช่วงปิดตลาดการซื้อขายหุ้น(16.30 น.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. ได้ออกประกาศเรื่องการตรวจสอบการกระทำอันไม่เป็น ธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเนื้อความระบุว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายของตลาดโดยรวม

ดังนั้น สำนักงานก.ล.ต.จึง ต้องแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2546 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายของผู้ลงทุน 2 รายที่ได้เข้าทำการซื้อขาย หลักทรัพย์ บริษัทกฤษดามหานคร (KMC) จำนวนประมาณ 40 ล้านหุ้นในช่วงวันที่ 22 สิงหาคม 2546 -19 กันยายน 2546 ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่ง เพื่อให้สำนักงานพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรมแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องก.ล.ต.จะไม่เปิดเผยข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติมจนกว่าจะมีข้อยุติชัดเจนว่ามีการปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้สำนักงานจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ในการพิจารณาถึงน้ำหนักและความเพียงพอของหลักฐาน

ก.ล.ต.ย้ำเอาผิดกับแก๊งปั่นหุ้นข้ามชาติได้

นางศรัณยา จินดาวณิค ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวว่า เหตุผลที่ไม่เปิดเผยรายชื่อของนักลงทุนเพราะก.ล.ต.ต้องให้ความ เป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา และจะตรวจสอบข้อมูลก่อน หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการกล่าวโทษ ส่งต่อให้สำนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) พิจารณาต่อไป ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเรื่องแต่ละรายแต่ก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

สำหรับกรณีที่ระบุว่า สำนักงานไม่สามารถเอาผิดกับนักลงทุนที่ปั่นหุ้น ที่ใช้วิธีเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ต่างประเทศแล้วส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในตลาดหุ้นไทยนั้น นางศรัณยา กล่าวว่า หากตรวจพบ ว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดในลักษณะปั่นหุ้นจริงก.ล.ต.สามารถขอความร่วมมือจากประเทศที่อยู่ในกลุ่มสมาชิกสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งเอเชียและโอชีเนีย (ไอโอเอสซีโอ) ให้ช่วยตรวจสอบได้ เพราะมีการเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่างๆ ไว้

"ทักษิณ" เชื่อตลาดหุ้นจะกลับมาดี

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายสร้างราคาหรือปั่นหุ้นของ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้กับสำนักงาน (ก.ล.ต.) วานนี้ ว่า การดำเนินการของก.ล.ต.จะไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ถ้าทุกอย่างดำเนินการอย่างชัดเจนความไม่เชื่อมั่นก็จะหมดไป เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นก็น่าจะดีขึ้น เพราะความเป็นจริงปัจจัยพื้นฐานของตลาดดีอยู่แล้ว

"เราต้องทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ใครทำดีก็ต้องได้ดี อย่าปล่อยให้ใครทำไม่ดีแล้วได้ดีอยู่เรื่อยๆ จะทำให้บ้านเมืองไม่เข้มแข็ง ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บรรยากาศการลงทุนซบเซา เพราะเกิดจากของปลอม ก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันแฟบไปเองดีกว่า แต่ของจริงที่ยังอยู่อย่างเก่า ยังเป็นของดี ดีไม่ดีจะทำให้ตลาดดีขึ้นกว่านี้ด้วยก็เป็นได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของทางการเป็นการทำงานตามกระบวนการที่ไม่น่าเป็นห่วงและไม่ล่าช้า ขอให้นักลงทุนลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีผลประกอบการที่ดี ก็จะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยง

ด้าน ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพียงว่า ทุกอย่างจบแล้ว ช่วงนี้ภาวะตลาดหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และ ไม่อยากให้สื่อนำเสนอข่าวเรื่องนี้มากเกินไป

ปปง.ตามประกบเสี่ย "อ." ขาใหญ่แก๊งปั่น

พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบผู้ที่กระทำความผิดในการปั่นหุ้น ซึ่งเชื่อว่ากระทำกันเป็นขบวนการ ทั้งผู้ซื้อขายหุ้น และโบรกเกอร์ โดยธนาคารพาณิชย์ จะมีการรับเช็คและเงินสดจำนวนมาก เพื่อโอนเงินไปโบรกเกอร์ จากนั้นก็โอนเงินให้ลูกค้าทั้งนี้การรับทำธุรกรรมทางการเงิน 5 - 10 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคาร จะต้องรู้จักประวัติของลูกค้า และต้องส่งข้อมูลมายัง ปปง.ด้วยและคาดว่า ถ้าแก้ไขกฎหมายฟอกเงินเสร็จ ในปี 2547 จะสามารถติดตามทรัพย์สินจากนักลงทุน ที่ปั่นหุ้นคืนมาได้

"ปปง.กำลังแก้ไขกฎหมายฟอกเงินให้ครอบ คลุมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2535 ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. เสนอ" พล.ต.ต. พีรพันธุ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พีระพันธุ์ กล่าวว่า การ เอาผิดนักปั่นหุ้นด้วยกฎหมายฟอกเงินข้อหาซ่องโจร อั๊งยี่ ตามที่มีกระแสข่าวนั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน การใช้กฎหมายฟอกเงินเอาผิดกับกลุ่มนักปั่นหุ้นขณะนี้อาจจะใช้ได้กับบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายมูลฐาน 7 ข้อตามองค์ประกอบกฎหมาย เช่น โพยก๊วน ซึ่งล่าสุดปปง.กำลังตรวจสอบอยู่ 1 ราย

"ผมได้รับการแจ้งข่าวบอกว่า มีอดีตคนที่เป็น เจ้าของกลุ่มโพยก๊วนชื่อย่อว่า "อ." ไปเทกโอเวอร์ โบรกเกอร์ชื่อฝรั่งที่กำลังง่อนแง่น เสร็จเรียบร้อยก็มาร่วมกันปั่นหุ้น"พล.ต.ต.พีระพันธ์ กล่าว

เลขาธิการปปง.กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้นักปั่นหุ้นรายนี้ยังเป็นโพยก๊วนอยู่ โดยทำธุรกิจสินค้าหนีภาษี ลักลอบเอาเงินเข้าออกนอกประเทศ แต่เขาไม่ได้ถือเองโดยจ้างลูกน้องในเครือข่าย หอบเงินออกนอกประเทศซึ่งปปง.เคยเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปี 2544 จำนวน 4 รายได้เงินยอดประมาณ 50 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล

เปิดปูม KMC หุ้นยอดนิยมนักปั่น

สำหรับบริษัทกฤษดามหานคร เป็นผู้ประกอบ การด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อในยุคทองของการพัฒนาที่ดินช่วงปี 2533 เทียบเคียงกับแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยักษ์ใหญ่ของวงการ จากนั้นขยับเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเหมือนกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ แต่มาประสบปัญหาทาง การเงินหลังจากฟองสบู่แตกและต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการช่วงหลังวิกฤตการเงินเมื่อปี2540

ในอดีตหุ้นของบริษัทกฤษดามหานคร ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่นักเก็งกำไรจะชอบ เนื่องจากจะมีข่าวลือรายใหญ่เข้าซื้อขายอยู่เป็นระยะ กระทั่งเมื่อมีพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์บังคับใช้เมื่อปี 2536 หุ้นเคเอ็มซีก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่เข้าไปพัวพันกับการกล่าวโทษนักปั่นหุ้น หากครั้งนี้ก.ล.ต.กล่าวโทษนักปั่นหุ้นจากการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์พบความผิดปกติก็จะเป็นครั้งที่สองที่หุ้นตัวนี้ติดร่างแหการปั่นหุ้น

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเคเอ็มซีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่าผิดปกติช่วงระหว่างวันที่22 สิงหาคมถึง 19 กันยายนปีนี้นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้จัดการ" พบว่า การเคลื่อนไหวราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นค่อยๆขยับจากราคา 9.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 302 ล้านบาทเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 11.30 บาทในวันที่ 22 สิงหาคม ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 1,415 ล้านบาท

จากนั้นราคาหุ้นและปริมาณการซื้อขายหุ้นเคเอ็มซีก็อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่เดือนกันยายน ภาวะตลาดหลักทรัพย์ร้อนแรงอย่างมาก มูลค่าการซื้อขายทั้งตลาดสูงถึงวันละกว่า 40,000 ล้านบาท และในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน ช่วงที่มีนักลงทุนซื้อขายเฉียด 60,000 ล้านบาทหุ้นเคเอ็มซีก็ซื้อขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,752.20 ล้านบาท และ 2,566.46 ล้านบาทผลักดันราคาหุ้นขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคา 22 บาทซึ่งสูงกว่า 100%เพียงระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน โดย ณ วันที่ 19 กันยายน หุ้นเคเอ็มซีปิดที่ระดับ 22.30 บาท

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทกฤษดามหานคร 10 อันดับแรก ประกอบไปด้วย บริษัท จี ที เอส มารีนฟาร์ม จำกัด 5.92% นายวิชัย กฤษดาธานนท์ 3.87% บริษัท ฟาร์มไทย เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด 3.06% บริษัท วี ซี เอ็น โปรดักท์ จำกัด 2.98% นายยุทธนา พันธ์รัตนมงคล 1.92% นาง ลาวัณย์ หวั่งหลี 1.59% น.ส.นพสรัญ พงศ์ไพโรจน์ 1.58% CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-PBG 1.53% บริษัท อัลลาย เทคโนโลยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 1.47% และ นายอร่าม จาตุรวิทย์ 1.31%

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us