ก.ล.ต. เปิดเผยหุ้นปั่นล็อตแรก "กฤษดามหานคร" แจ็กพอต ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุพบการเคลื่อนไหวราคาที่ผิดปกติ
จากฝีมือของนักลงทุน 2 ราย ผ่านโบรกเกอร์ 4 ราย แต่ปิดชื่อไว้ก่อน ขอเวลา 1 สัปดาห์หาหลักฐานก่อนสรุปส่งตำรวจเพื่อกล่าวโทษ
"ทักษิณ" เชื่อตลาดหุ้นจะไม่กระทบ ทุกอย่างชัดเจนความเชื่อมั่นจะกลับมา ด้านปปง.ขอแก้กฎหมายไล่บี้ยึดทรัพย์
หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายป้องกันการสร้างราคาหุ้นหรือ "ปั่นหุ้น" ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยมีกระแสข่าวออก มาเป็นระยะถึงการตรวจสอบของทางการจนสร้างความกังวลแก่นักลง ทุน
และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ การซื้อ-ขายหุ้นมากว่า 3 สัปดาห์
วานนี้ (27 พ.ย.) ตลอดทั้งวัน คนในวงการตลาดหุ้นต่างให้ความสนใจต่อการประกาศรายชื่อนักปั่นหุ้นที่ทางการระบุจะเปิดเผยออกมาให้ทราบ
แต่ก็ไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทั่งช่วงปิดตลาดการซื้อขายหุ้น(16.30
น.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. ได้ออกประกาศเรื่องการตรวจสอบการกระทำอันไม่เป็น
ธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเนื้อความระบุว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายของตลาดโดยรวม
ดังนั้น สำนักงานก.ล.ต.จึง ต้องแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2546 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายของผู้ลงทุน
2 รายที่ได้เข้าทำการซื้อขาย หลักทรัพย์ บริษัทกฤษดามหานคร (KMC) จำนวนประมาณ 40
ล้านหุ้นในช่วงวันที่ 22 สิงหาคม 2546 -19 กันยายน 2546 ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 4
แห่ง เพื่อให้สำนักงานพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรมแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องก.ล.ต.จะไม่เปิดเผยข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติมจนกว่าจะมีข้อยุติชัดเจนว่ามีการปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย
ทั้งนี้สำนักงานจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ในการพิจารณาถึงน้ำหนักและความเพียงพอของหลักฐาน
ก.ล.ต.ย้ำเอาผิดกับแก๊งปั่นหุ้นข้ามชาติได้
นางศรัณยา จินดาวณิค ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวว่า เหตุผลที่ไม่เปิดเผยรายชื่อของนักลงทุนเพราะก.ล.ต.ต้องให้ความ
เป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา และจะตรวจสอบข้อมูลก่อน หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการกล่าวโทษ
ส่งต่อให้สำนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) พิจารณาต่อไป ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเรื่องแต่ละรายแต่ก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
สำหรับกรณีที่ระบุว่า สำนักงานไม่สามารถเอาผิดกับนักลงทุนที่ปั่นหุ้น ที่ใช้วิธีเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ต่างประเทศแล้วส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในตลาดหุ้นไทยนั้น
นางศรัณยา กล่าวว่า หากตรวจพบ ว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดในลักษณะปั่นหุ้นจริงก.ล.ต.สามารถขอความร่วมมือจากประเทศที่อยู่ในกลุ่มสมาชิกสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งเอเชียและโอชีเนีย
(ไอโอเอสซีโอ) ให้ช่วยตรวจสอบได้ เพราะมีการเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู)
เกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่างๆ ไว้
"ทักษิณ" เชื่อตลาดหุ้นจะกลับมาดี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายสร้างราคาหรือปั่นหุ้นของ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้กับสำนักงาน (ก.ล.ต.) วานนี้ ว่า การดำเนินการของก.ล.ต.จะไม่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุน
ถ้าทุกอย่างดำเนินการอย่างชัดเจนความไม่เชื่อมั่นก็จะหมดไป เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหุ้นก็น่าจะดีขึ้น
เพราะความเป็นจริงปัจจัยพื้นฐานของตลาดดีอยู่แล้ว
"เราต้องทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ใครทำดีก็ต้องได้ดี อย่าปล่อยให้ใครทำไม่ดีแล้วได้ดีอยู่เรื่อยๆ
จะทำให้บ้านเมืองไม่เข้มแข็ง ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บรรยากาศการลงทุนซบเซา เพราะเกิดจากของปลอม
ก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันแฟบไปเองดีกว่า แต่ของจริงที่ยังอยู่อย่างเก่า ยังเป็นของดี
ดีไม่ดีจะทำให้ตลาดดีขึ้นกว่านี้ด้วยก็เป็นได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานของทางการเป็นการทำงานตามกระบวนการที่ไม่น่าเป็นห่วงและไม่ล่าช้า
ขอให้นักลงทุนลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีผลประกอบการที่ดี ก็จะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยง
ด้าน ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพียงว่า ทุกอย่างจบแล้ว
ช่วงนี้ภาวะตลาดหลักทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และ ไม่อยากให้สื่อนำเสนอข่าวเรื่องนี้มากเกินไป
ปปง.ตามประกบเสี่ย "อ." ขาใหญ่แก๊งปั่น
พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(ปปง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบผู้ที่กระทำความผิดในการปั่นหุ้น ซึ่งเชื่อว่ากระทำกันเป็นขบวนการ
ทั้งผู้ซื้อขายหุ้น และโบรกเกอร์ โดยธนาคารพาณิชย์ จะมีการรับเช็คและเงินสดจำนวนมาก
เพื่อโอนเงินไปโบรกเกอร์ จากนั้นก็โอนเงินให้ลูกค้าทั้งนี้การรับทำธุรกรรมทางการเงิน
5 - 10 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคาร จะต้องรู้จักประวัติของลูกค้า และต้องส่งข้อมูลมายัง
ปปง.ด้วยและคาดว่า ถ้าแก้ไขกฎหมายฟอกเงินเสร็จ ในปี 2547 จะสามารถติดตามทรัพย์สินจากนักลงทุน
ที่ปั่นหุ้นคืนมาได้
"ปปง.กำลังแก้ไขกฎหมายฟอกเงินให้ครอบ คลุมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์
ในปี 2535 ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. เสนอ" พล.ต.ต. พีรพันธุ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พีระพันธุ์ กล่าวว่า การ เอาผิดนักปั่นหุ้นด้วยกฎหมายฟอกเงินข้อหาซ่องโจร
อั๊งยี่ ตามที่มีกระแสข่าวนั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน การใช้กฎหมายฟอกเงินเอาผิดกับกลุ่มนักปั่นหุ้นขณะนี้อาจจะใช้ได้กับบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายมูลฐาน
7 ข้อตามองค์ประกอบกฎหมาย เช่น โพยก๊วน ซึ่งล่าสุดปปง.กำลังตรวจสอบอยู่ 1 ราย
"ผมได้รับการแจ้งข่าวบอกว่า มีอดีตคนที่เป็น เจ้าของกลุ่มโพยก๊วนชื่อย่อว่า
"อ." ไปเทกโอเวอร์ โบรกเกอร์ชื่อฝรั่งที่กำลังง่อนแง่น เสร็จเรียบร้อยก็มาร่วมกันปั่นหุ้น"พล.ต.ต.พีระพันธ์
กล่าว
เลขาธิการปปง.กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้นักปั่นหุ้นรายนี้ยังเป็นโพยก๊วนอยู่ โดยทำธุรกิจสินค้าหนีภาษี
ลักลอบเอาเงินเข้าออกนอกประเทศ แต่เขาไม่ได้ถือเองโดยจ้างลูกน้องในเครือข่าย หอบเงินออกนอกประเทศซึ่งปปง.เคยเข้าจับกุมเมื่อวันที่
18 ตุลาคม ปี 2544 จำนวน 4 รายได้เงินยอดประมาณ 50 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล
เปิดปูม KMC หุ้นยอดนิยมนักปั่น
สำหรับบริษัทกฤษดามหานคร เป็นผู้ประกอบ การด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อในยุคทองของการพัฒนาที่ดินช่วงปี
2533 เทียบเคียงกับแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยักษ์ใหญ่ของวงการ จากนั้นขยับเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเหมือนกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ
แต่มาประสบปัญหาทาง การเงินหลังจากฟองสบู่แตกและต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการช่วงหลังวิกฤตการเงินเมื่อปี2540
ในอดีตหุ้นของบริษัทกฤษดามหานคร ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่นักเก็งกำไรจะชอบ
เนื่องจากจะมีข่าวลือรายใหญ่เข้าซื้อขายอยู่เป็นระยะ กระทั่งเมื่อมีพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์บังคับใช้เมื่อปี
2536 หุ้นเคเอ็มซีก็เป็นหนึ่งในหุ้นที่เข้าไปพัวพันกับการกล่าวโทษนักปั่นหุ้น หากครั้งนี้ก.ล.ต.กล่าวโทษนักปั่นหุ้นจากการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์พบความผิดปกติก็จะเป็นครั้งที่สองที่หุ้นตัวนี้ติดร่างแหการปั่นหุ้น
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเคเอ็มซีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่าผิดปกติช่วงระหว่างวันที่22
สิงหาคมถึง 19 กันยายนปีนี้นั้น จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้จัดการ" พบว่า การเคลื่อนไหวราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นค่อยๆขยับจากราคา
9.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 302 ล้านบาทเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ
11.30 บาทในวันที่ 22 สิงหาคม ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 1,415 ล้านบาท
จากนั้นราคาหุ้นและปริมาณการซื้อขายหุ้นเคเอ็มซีก็อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่เดือนกันยายน
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ร้อนแรงอย่างมาก มูลค่าการซื้อขายทั้งตลาดสูงถึงวันละกว่า 40,000
ล้านบาท และในระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน ช่วงที่มีนักลงทุนซื้อขายเฉียด 60,000
ล้านบาทหุ้นเคเอ็มซีก็ซื้อขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,752.20 ล้านบาท และ 2,566.46
ล้านบาทผลักดันราคาหุ้นขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคา 22 บาทซึ่งสูงกว่า 100%เพียงระยะเวลาไม่ถึง
1 เดือน โดย ณ วันที่ 19 กันยายน หุ้นเคเอ็มซีปิดที่ระดับ 22.30 บาท
สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทกฤษดามหานคร 10 อันดับแรก ประกอบไปด้วย บริษัท
จี ที เอส มารีนฟาร์ม จำกัด 5.92% นายวิชัย กฤษดาธานนท์ 3.87% บริษัท ฟาร์มไทย
เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด 3.06% บริษัท วี ซี เอ็น โปรดักท์ จำกัด 2.98% นายยุทธนา พันธ์รัตนมงคล
1.92% นาง ลาวัณย์ หวั่งหลี 1.59% น.ส.นพสรัญ พงศ์ไพโรจน์ 1.58% CITIBANK NOMINEES
SINGAPORE PTE LTD-PBG 1.53% บริษัท อัลลาย เทคโนโลยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
1.47% และ นายอร่าม จาตุรวิทย์ 1.31%