"ผมไม่กลัวหรอก แต่ขอแช่งไว้เลย ใครที่ทำอะไรกับผมไว้ เขียนถึงผมไม่ดีต้องได้รับผลกรรมที่ทำ
หนังสือพิมพ์ที่โจมตีผมก็เหมือนกัน" คำกล่าวของสมิทธ ธรรมสโรช อธิบดีกรมอุตุฯ
ผ่านสายโทรศัพท์ ที่ส่ออาการฉุนเฉียวเต็มที่ ระหว่างการสนทนากับ "ผู้จัดการ"
เกือบตลอด 1 ปีเต็มนับตั้งแต่มีการประมูลซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ภายในกรมอุตุนิยมเต็มไปด้วยความยุ่งหยิง
ที่จริงแล้วอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สมิทธจะเกษียณอายุราชการ ซึ่งตามปกติแล้วช่วงที่เหลือนี้น่าจะสงบสุข
แต่ชีวิตของอธิบดีในช่วงนี้กลับตรงกันข้าม
ใบปลิวนับพันใบถูกวางไว้ทั่วกรม ไม่ว่าจะเป็นทางเดินในห้องน้ำ จ่าหัวเปิดโปงเบื้องหลังความร่ำรวยผิดปกติของสมิทธ
ธรรมสโรช และการใช้ชีวิตเยี่ยงหนุ่มเจ้าสำราญของเขา
อารมณ์ยามนี้ของสมิทธจึงฉุนเฉียวยิ่งนัก เมื่อถูกถามถึงโครงการประมูลคอมพิวเตอร์ที่อื้อฉาวที่สุดในรอบปี
"เรื่องนี้ผมไม่แคร์หรอก เหลืออายุราชการไม่กี่เดือนก็จะเกษียณแล้วผมโดนทั้งขู่ทั้งจะย้าย
โดนใบปลิวมาตลอด แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง เพราะเวลาออกงานพบผู้ใหญ่พรรคฝ่ายค้าน
อย่างอดีตนายกฯ ชวนก็ยังตบไหล่ให้กำลังใจผม" สมิทธ กล่าวอย่างมีอารมณ์กับ
"ผู้จัดการ"
สมิทธใช้ชีวิตราชการในกรมอุตุฯ มายาวนานถึง 35 ปี หลังจบมาทางด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐ
บินกลับมาเรียนเพิ่มเติมทางด้านอุตุนิยมวิทยาซึ่งขณะนั้นยังอยู่สังกัดกองทัพเรือก่อนจะตั้งเป็นกรมอุตุฯ
สังกัดกระทรวงคมนาคม
สมิทธไต่เต้าจากราชการชั้นผู้น้อยจนเป็นอธิบดี ในยุคของมนตรี พงษ์พานิชแต่ต่อมาในช่วงประมาณ
3-4 ปีที่แล้ว ย้ายไปนั่งเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ทำอยู่ไม่นานสมบัติ
อุทัยสาง ซึ่งย้ายมาเป็นอธิบดีกรมอุตุฯ แทน ได้ย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม
สมิทธจึงย้ายกลับมาที่กรมไปรษณีย์อีกครั้ง
สมิทธเคยได้รับเลือกให้เป็นประธานบอร์ด กสท. ในยุครัฐบาลชวน 1 ซึ่งพรรคกิจสังคมได้โควต้าดูแลกระทรวงคมนาคม
ช่วงชิวิตของเขาในช่วงนั้นหากเป็นกราฟ ก็เรียกว่าอยู่ในจุดสูงสุด
เกือบแทบทุกโครงการร่วมทุนที่เอกชนเสนอผ่านบอร์ด กสท. ในช่วงนั้นจะได้รับอนุมัติ
เว้นแต่เรื่องที่พนักงาน กสท. ไม่ยอม เพราะมีผลกระทบกับ กสท. เรื่องจึงถูกระงับไป
สมิทธชอบงานเลี้ยงสังสรรค์ แทบทุกงานของกระทรวงคมนาคม และส่วนใหญ่จะอยู่ตลอดจนถึงงานเลิก
บุคลิกที่โดดเด่นของเขาคือจะไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเองเท่าใดนัก หากยามใดที่ชอบใจ
หรือพอใจอะไรจะแสดงออกมาอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเวลาโกรธ
ภายหลังจากปรับ ครม. พินิจ จารุสมบัติ ส.ส. พรรคเสรีธรรม นั่งเป็น รมช.
คมนาคมดูแลการสื่อสาร ความขัดแย้งระหว่างพินิจและสมิทธเริ่มก่อตัว ที่เห็นได้ชัดเจนคือ
โครงการอินเตอร์วีแซท หรือวีแซทระหว่างประเทศที่กลุ่มจัสมินเสนอมาและสมิทธก็เตรียมอนุมัติ
แต่ก็ถูกพินิจระงับไว้
เช่นเดียวกับ โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม ที่สมิทธอนุมัติโครงการอินมาร์แซทให้กับกลุ่มชินวัตร
ก่อนหน้าโครงการอีเรเดียมของกลุ่มยูคอม
หลังจากนั้นไม่นาน มีคำสั่งปลดสมิทธออกจากบอร์ด กสท. สมิทธกลับไปอยู่กรมอุตุฯ
กระทั่งเกิดโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์พินิจ และสมิทธก็โคจรมาเจอกันอีกครั้ง
แน่นอนว่ารอยร้าวยังมีอยู่
แม้ว่าพินิจก็เป็นฝ่ายจากไปก่อนและปัญหาน่าจะยุติ แต่กลับตรงกันข้าม
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ สมิทธ ธรรมสโรช จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ จนเป็นเหตุให้ต้องหัวเสียถึงเพียงนี้
!