Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2539
"มาริษา คุวานันท์ ทายาทโค้วหยู่ฮะที่ไม่ใช่สิงห์รถบรรทุก"             
 


   
search resources

โค้วหยู่ฮะ
มาริษา คุวานันท์
Commercial and business




"โค้วหยู่ฮะ" เป็นบริษัทค้ารถบรรทุกที่มั่งคั่งบริษัทหนึ่งของเมืองไทย มีชื่อเสียงมายาวนาน แม้จะมีข่าวแง่ลบออกมาบ้างเป็นบางครั้งคราวในแวดวงธุรกิจค้ารถ ถึงขนาดที่ผู้บริหารของโค้วหยู่ฮะเองเอ่ยปากว่าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีข่าวในแง่ลบของโค้วหยู่ฮะอยู่บ่อยๆ

แต่โค้วหยู่ฮะก็ดูจะไม่หวั่นไหว และคงจะต้องเข้าใจกับธุรกิจที่มีการแข่งขัน และมีผู้ร่วมอาชีพเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งนี้ด้วย โค้วหยู่ฮะจึงไม่ได้หยุดตัวเองที่ธุรกิจค้ารถบรรทุก แต่กำลังทดลองและมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับตนเองโดยเฉพาะการเตรียมธุรกิจให้กับรุ่นลูก ๆ หลาน ๆ ที่จะเติบโตขึ้นมาอีกมาก

มาถึงปัจจุบันการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่โค้วหยู่ฮะทำแบบจุบจิบมานาน จึงกำลังรุกเพื่ออนาคตที่ก้าวไกลและจริงจังมากขึ้น

มาริษา คุวานันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท วีเคแอนด์เอ็ม จำกัด บริษัทในเครือโค้วหยู่ฮะ กรุงเทพฯ จำกัด กล่าวถึงสาเหตุที่โค้วหยู่ฮะเข้ามาสู่ธุรกิจพัฒนาที่ดินว่า

"ที่โค้วหยู่ฮะหันมาทำที่ดินเพราะที่ดินของโค้วหยู่ฮะมีมาก แล้วจึงต้องคิดกันว่าจะเอามาทำประโยชน์อย่างไร เมื่อเห็นกันว่าเมืองมีการขยายตัวมากขึ้น อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงต้องเพิ่มเป็นเงาตามตัว บริษัทจึงได้ศึกษาความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากร ย่านอำเภอเสนา จ. อยุธยา ที่โค้วหยู่ฮะมีที่ดินอยู่เดิม ก็พบว่า ในย่านนี้ยังขาดแคลนที่อยู่อาศัยอยู่มาก ทำให้บริษัทเริ่มดำเนินงานให้เกิดโครงการเสนาธานีขึ้นที่นี่ บนที่ดินเดิมที่มีอยู่แล้วของโค้วหยู่ฮะ ซึ่งเป็นบริษัทแม่"

ไม่เฉพาะผลจากการศึกษาก่อนทำโครงการ มาริษา ยังเชื่อว่า ทำเลที่ตั้งและคุณภาพกับราคาขายที่อยู่อาศัยของโครงการยังได้เปรียบคู่แข่งขันในย่านเดียวกันด้วย รวมถึงรูปที่ดิน และการตัดถนนในโครงการซึ่งทำโดยอาศัยหลักฮวงจุ้ย คือ มีลำน้ำธรรมชาติตัดผ่านเป็นรูปอุ้งมังกร และการตัดถนนเมนในโครงการเป็นเส้นโค้ง เพื่อให้ทุกบ้านอยู่อย่างเป็นสุขไม่ต้องกังวลเรื่องฮวงจุ้ย และนี่ก็เป็นแนวคิดจากรากฐานความเชื่อของคนจีนที่แพร่ระบาดอีกอย่างหนึ่งในการพัฒนาที่อยู่อาศัย

โครงการเสนาธานี ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 150 ไร่ ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ทาวเฮ้าส์ชั้นเดียวและสองชั้น บ้านแฝดรวมประมาณ 400 ยูนิต มีสาธารณูปโภค คลับเฮ้าส์ครบครัน ซึ่งผู้บริหารใช้เป็นจุดเด่นของโครงการเพราะโครงการอื่น ๆ ในย่านเดียวกันจะไม่มีในส่วนนี้ ทำให้ราคาขายของบ้านในโครงการสูงกว่าโครงการอื่น คืออยู่ในราคาระหว่าง 4 แสนบาทขึ้นไปสำหรับทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว 24 ตารางวา จนถึงบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาด 50 ตารางวา ราคา 1 ล้านเศษ

"โครงการนี้เปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมาตั้งแต่ปลายปี 2538 แต่ติดปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ เขตของจังหวัดอยุธยา เขตของจังหวัดอยุธยา จึงชะลอการเปิดโครงการไว้ชั่วคราว เพราะคิดว่าคนคงไม่มีอารมณ์มาซื้อบ้านในช่วงนั้น แม้เราจะยืนยันได้ว่าโครงการเราน้ำไม่ท่วม เพราะถมดินสูงกว่าระดับถนนถึง 80 เซนติเมตร พอพ้นช่วงน้ำท่วมในเดือนกุมภาพันธ์เรามียอดขาย 40% รวมถึงวันเปิดตัววันนี้ก็ 70% สำหรับ 100 ยูนิตในเฟสแรก แล้วขายหมดเมื่อไรก็จะเปิดเฟส 2 ต่อ ทันที ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายทั้งโครงการได้ภายใน 2 ปีนี้ เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมากคือกลุ่มข้าราชการและพนักงานประจำ" มาริษา กล่าว

สำหรับการพัฒนาที่ดินในเครือโค้วหยู่ฮะ ซึ่งมีที่ดินสะสมในเขตเมืองและเขตอื่น ๆ ของจังหวัดต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ระยอง และจังหวัดสำคัญ ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเช่น ขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสาขาของโค้วหยู่ฮะอยู่รวม 35 จังหวัด รวมที่ดินสะสมประมาณ 20,000 ไร่นั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่ดินเหล่านี้กำลังจะค่อย ๆ ถูกทยอยนำออกมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างจริง ๆ จัง ๆ ทีละแปลง ๆ ต่อจากนี้ไปอย่างแน่นอน

แต่จะเป็นในรูปใดนั้นต้องรอดูกันไป เพราะสำหรับตอนนี้แรงหนุนที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหริมทรัพย์ก็คือ การต่อท้ายชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นมาว่า "บริษัทในเครือ โค้วหยู่ฮะ กรุงเทพฯ จำกัด" ที่ดูจะให้เครดิตกับลูกค้าที่จะวางใจในโครงการได้พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงของผู้ประกอบการ

อย่างไรก็ตามโครงการเสนาธานีแห่งนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่สองมีมูลค่าการพัฒนาเป็นตัวเงินหลักหลายร้อยล้าน จากโครงการพัฒนาที่ดินในเครือโค้วหยู่ฮะ

ส่วนที่ทำอย่างจริงจังเป็นโครงการแรกคือ โครงการบิ๊กแลนด์ ย่านรังสิตและวังน้อย จ. อยุธยา ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้การถือหุ้น 25% ของโค้วหยู่ฮะ กรุงเทพฯ อันเป็นบริษัทแม่ที่เข้าเป็นผู้ถือหุ้นขั้นต่ำเช่นนี้เสมอ โดยวิญญู คุวานันท์ จะจัดให้ลูก ๆ ทั้งสี่คน ได้แก่ สราวุธ สารินี มาริษา และพีระยา แบ่งทีมกันรับผิดชอบเพื่อบริหารเป็นโครงการ ๆ ไป

โครงการบิ๊กแลนด์ มีผู้บริหารหลักคือ สราวุธ คุวานันท์ ลูกชายคนเดียวของวิญญู และมีผู้ช่วยคือ สารินี

ลูกสาวอีกสองคนที่เหลือ คือมาริษา และพีระยา จึงเป็นทีมผู้บริหารหลักของโครงการเสนาธานี ถือเป็นกลุ่มที่สองที่มีหน้าที่รับผิดชอบพัฒนาโครงการนี้โดยตรง ภายใต้การช่วยเหลือและสอดส่องอยู่ห่าง ๆ ของคนในครอบครัวและผู้สนับสนุนโครงการรายอื่น ๆ ที่มีสัมพันธ์ทางธุรกิจกันมา

อาทิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาผู้สนับสนุนโครงการมูลค่า 400 ล้านบาทของโครงการเสนาธานี กลุ่มบริษัทในเครือโค้วหยู่ฮะซึ่งกว้างขวางในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะแถบภาคอีสานอย่างขอนแก่นก็มาเป็นกำลังใจ และเพื่อนร่วมธุรกิจจากโครงการอื่น ๆ อีกคับคั่งที่มาปรากฎตัวให้เห็นในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการเสนาธานีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2539 ที่ผ่านมา

เดิมก่อนหน้าที่วิญญูจะส่งลูก ๆ ทั้ง 4 คนของเขา ลงสนามการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง ทุกคนมีโอกาสได้ฝึกปรือกันมาบ้างแล้ว จากโครงการเล็ก ๆ จำพวกอาคารพาณิชย์ขนาดไม่กี่ยูนิต บนพื้นที่เล็ก ๆ ย่านชานเมือง หรือตัวเมืองในจังหวัดต่าง ๆ ที่โค้วหยู่ฮะมีที่ดินกระจายอยู่ทั่วไป ไม่มีชื่อโครงการ เพียงแต่เป็นที่รู้กันของลูกค้าว่าเป็นของโค้วหยู่ฮะทำขาย

รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอื่นก็มี เช่น โรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ชื่อคอวิเด้นท์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น

ในส่วนตัวของมาริษาเองคิดว่าแม้จะมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่เกิดขึ้น บริษัทที่ตั้งขึ้นยังคงจะใช้เป็นบริษัทในเครือโค้วหยู่ฮะไปก่อน แล้วพัฒนาเป็นโครงการ ๆ ไป เรื่อย ๆ ตามที่ดินที่มีอยู่

ส่วนเมื่อใดที่ "โค้วหยู่ฮะ" จะมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเองที่เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วไป โดยไม่ต้องอาศัยคำต่อท้ายว่า "บริษัทในเครือโค้วหยู่ฮะ กรุงเทพฯ" นั้นเป็นเรื่องอนาคตที่บรรดาลูกของวิญญู คุวานันท์ต้องพิสูจน์ฝีมือกันเอง

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us