Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2539
ยกทัพอสังหาริมทรัพย์ไปอเมริกา ไปไหนก็ไม่ว่า ขอให้ขายได้ก็แล้วกัน             
 





ในวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2539 นี้บริเวณวัดไทยในลอสแอลเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีงานจัดแสดงอสังหาริมทรัพย์ “อาคารบ้านเรือน ยูเอสเอ” ขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในการรวมตัวของบรรดานักพัฒนาที่ดินของเมืองไทยที่ได้นำโครงการไปขายที่อเมริกาโดยมีชาตรี มรรคากรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยเทรดแฟร์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน

สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐใหญ่ๆที่มีคนไทยเข้าไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น รัฐลอสแอลเจลิส รัฐชิคาโกและนิวยอร์คนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญของบรรดาผู้ประกอบการบางโครงการในเมืองไทยอยู่แล้ว ดังนั้นที่ผ่านๆมา จึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยไปเปิดขายในรัฐต่างๆอยู่บ้างเหมือนกันโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ๆที่มีจำนวนยูนิตมากๆ

วิธีการขายนั้นถ้าเจ้าของโครงการไม่ส่งพนักงานขายไปเองก็จะใช้วิธีผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ก็จะใช้วิธีไดเรกเซลล์ไปเคาะประตูบ้านตามรายชื่อของลูกค้าที่เสาะหามา

“จากข้อมูลของเราพบว่าคนไทยในอเมริกาต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วมีเงินและเขาก็ทำงานเก็บเงินเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาซื้อบ้านอยู่ที่เมืองไทย แต่การซื้อผ่านตัวแทนหรือผ่านญาติพี่น้องบางครั้งเขาไม่มีความมั่นใจ ผมเคยส่งคนไปสำรวจข้อมูลกว้างๆก็พบว่ามีคนสนใจมากจริงๆ”

ชาตรีเล่าให้ “ผู้จัดการ” ฟังถึงที่มาของการจัดงานครั้งนี้และเล่าเพิ่มเติมว่าเขามีแนวความคิดในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2538 แต่ก็ไม่มั่นใจ จนกระทั่งมีการพูดคุยกันในบรรดาเพื่อนฝูงคนรู้จักที่อเมริกาหนาหูมากขึ้นก็ได้นำมาปรึกษากับบรรดาผู้ประกอบการในเมืองไทยและได้รับการสนองตอบเป็นอย่างดี ก็เลยเริ่มดำเนินการ

“อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้การขายโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมันผิดมากและเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว มีทางใดที่เป็นช่องทางการขายใหม่เขาก็สนใจ”

ชาตรีได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในงานนี้จะมีผู้ประกอบการต่างๆจากเมืองไทยเข้าร่วมประมาณ 30-40

บริษัท จะประกอบไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัย คอมโดมิเนียมตากอากาศ โครงการบ้าน

จัดสรร ทาวเฮ้าส์ สวนเกษตรและที่ดินเปล่า ซึ่งเขาบอกว่าสำหรับงานที่ทำเป็นครั้งแรกอย่างนี้หากมีผู้ร่วมงานเพียง 20 รายก็สามารถจัดได้แล้ว เป็นการหวังผลระยะยาวในการจัดครั้งต่อไปมากกว่า

พื้นที่ในการจัดที่วัดไทยนั้นจะมีประมาณ 600 ตารางเมตรแบ่งออกได้ประมาณ 50 บูทโดยขนาด

ของบูทแต่และบูทประมาณ 9 ตารางเมตร ในระยะเวลา 2 วันที่จัดงานนี้คาดว่ามีคนเข้าชมงานประมาณ 2 หมื่นคน

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นนอกจากคนไทยที่ต้องการกลับมาตั้งรากฐานในเมืองไทยแล้วยังจะหวังที่จะขายให้กับชาวอเมริกาที่ต้องการที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย

ในวันแถลงข่าวที่โรงแรมอมารีวอเตอร์เกรดเมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์นั้นมีบริษัทใหญ่ๆที่เข้าร่วมงานเพื่อซักถามถึงรายละเอียดหลายบริษัทเช่น บริษัทบางกอกแลนด์ บริษัทสารินพร็อพเพอตี้ บริษัทรัตนะการเคหะ กลุ่มสหวิทยา บริษัทไรมอนแลนด์ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่บริษัทพวกนี้ไม่ได้ถามย้ำถึงความมั่นใจในจำนวนตัวเลขของคนที่มาชมงานแต่จะซักถามถึงวิธีการต่างๆในการทำสัญญาซื้อขายการเสียภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆในการขนโมเดลไปโชว์มากกว่า ซึ่งทางบริษัทไทย

เทรดแฟร์มอบหมายให้บริษัททรานส์ลิ้งเอ็กเพรส (กรุงเทพ) จำกัดเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องอำนวย

ความสะดวกในการขนอุปกรณ์

การไปอเมริกาครั้งนอกจากจะเป็นการไปขายสินค้าแล้วทางไทยเทรดแฟร์ยังมีการจัดให้มีการ

สัมมนาหลักสูตร “ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา” รวมทั้งไปดูโครงการเมืองใหม่ที่จัดทำโดยภาคเอกชนอีก 2 เมืองด้วยเรียกได้ว่าไปคราวนี้ได้ทั้งขายของได้ทั้งความรู้และได้ไปเที่ยวอีกต่างหาก โดยมีบริษัทเวอร์ชั่นทรีแทเวลย์ อำนวยความสะดวกในเรื่องที่พักและการเดินทางรวมราคาค่าเช่าบูทและค่าเดินทางที่พักของเจ้าหน้าที่ 1 คนรวม 150,000 บาท

ชาตรีย้ำว่าแคมเปญพิเศษที่น่าสนใจจากการสอบถามลูกค้าว่าต้องการอะไรส่วนใหญ่จะตอบว่าตั๋วเครื่องบินฟรีไปกลับแอลเอ-กรุงเทพฯ เพื่อมาดูโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งของแถมพิเศษนี้ควรจะให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาจะซื้อแน่นอนและวางเงินดาวน์แล้วเท่านั้น

ถ้างานนี้ไทยเทรดแฟร์ประสบความสำเร็จในการจัดก็เท่ากับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทเช่นกัน โดยชาตรีเองก็หวังไว้ว่าชิคาโกและนิวยอร์คก็คือเมืองเป้าหมายต่อไปในการจัดงานอสังหาริมทรัพย์

และนับว่าเป็นงานใหม่ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการตั้งบริษัทไทยเทรดแฟร์ที่ไม่เลวทีเดียว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us