|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ เมษายน 2539
|
|
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การเริ่มต้นก่อร่างสร้างธุรกิจด้วยสองมือของคุณเองเป็นเรื่องที่ทั้งน่ากลัวและน่าเสี่ยงไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังจะออกจากงานประจำที่มีเงินเดือนทุกเดือนแบบเห็นๆแน่นอนว่าคุณกำลังวาดภาพถึงความอิสระไม่ต้องพึ่งพิงใคร แต่ทว่าเมื่อคุณกลับมาหวนคิดถึงเงินเดือนและผลประโยชน์อื่นๆที่เคยได้จากงานประจำกำลังจะหลุดลอยไป ธุรกิจที่คุณคิดจะทำมันขึ้นมาก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าพิสมัยทันตาเห็น ยิ่งหากคุณมีครอบครัวและยังมีบิลค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะ คุณจะยอมสละผลประโยชน์ที่เคยได้ประจำ แล้วไปเริ่มต้นเสี่ยงกับธุรกิจของคุณอย่างนั้นหรือ
ช้าก่อน อย่าเพิ่งล้มเลิกความตั้งใจ ยังมีหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทั้งในเรื่องของความมั่นคงในงานประจำของคุณ (และเงินเดือนประจำ) รวมทั้งความน่าตื่นเต้นและโอกาสในการเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งคือการหันจับธุรกิจพาร์ตไทม์หรือธุรกิจที่ทำนอกเวลางานนั่นเอง คุณสามารถทดสอบรางวัลที่คุณจะได้จากการทำงานด้วยตัวเอง ทั้งยังคงได้รับเงินเดือนประจำเหมือนอย่างเคยด้วย
สำหรับบ็อบ แบรนดท์แล้ว บริษัท ไลฟ์ เดมอส โค.ในแคลิฟอร์เนียของเขาเป็นบริษัทที่ติดตั้งเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติและการให้บริการกาแฟแก่ร้านค้าต่างๆเส้นทางการเป็นเจ้าของธุรกิจ
พาร์ตไทม์ของเขาเกิดขึ้นโดยบังเอิญ โดยในปี 1976 คนรู้จักซึ่งติดหนี้แบรนดท์อยู่จำนวนหนึ่งได้ชดใช้หนี้ด้วยการยกเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ 2 เครื่องให้แทน และตอนนี้เจ้าเครื่องที่ว่าก็ทำรายได้น่าพอใจและไม่กี่เดือน แบรนดท์ก็มองเห็นโอกาสที่จะเสนอการบริการเครื่องดื่มกาแฟให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกประเภทหนึ่งรวมทั้งเครื่องกรองกาแฟ
แปดเดือนหลังจากทดลองทำธุรกิจที่ว่าเป็นครั้งแรกแบรนดท์เริ่มมีกำไรและเขาก็สามารถลาออกจากอาชีพประจำคือเซลส์แมนได้แล้วและเริ่มกระโดดเข้าทำงานแบบเต็มตัว โดยตอนนี้บริษัทของเขามีลูกจ้าง 7 คน รถบรรทุกอีก 6 คันและเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติอีก 300 เครื่อง
ขณะที่แบรนดท์ก้าวขึ้นเป็นเถ้าแก่โดยไม่รู้เนื้อตัว ลูซินด้า มิลเลอร์และเคลลีย์ เมเปิ้ลก็ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเจ้าของกิจการธุรกิจพาร์ตไทม์ส่วนใหญ่ ทั้งสองพบกันระหว่างที่ทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่งและก็ค้นพบว่าทั้งคู่ต่างก็ประสบการณ์ในด้านการทาสีบ้าน มิลเลอร์ได้ชวนให้เมเปิ้ลมาทำงานกับเธอเพื่อหาเงินเล็กๆน้อยๆเข้ากระเป๋า
ทั้งคู่จับมือกันตั้งบริษัทแอลเอ็มเค แอสโซซิเอท โฮมบิวตี้ฟิเคชั่น จากที่เคยมีประสบการณ์มาถึง 13 ปีในการทำงานในอุตสาหกรรมการพิมพ์ การรู้จักวางตัวเองให้มีภาพพจน์ในฐานะมืออาชีพ จึงถือเป็นปัจจัยส่งเสริมความน่าเชื่อถือในธุรกิจของคนทั้งสอง มิลเลอร์ยังมีเพื่อนเป็นนักออกแบบกราฟิกที่มาช่วยออกแบบโลโกให้กับบริษัท ทั้งสองยังร่วมกันพิมพ์การ์ด กระดาษเขียนจดหมายและเสื้อทีเชิ้ตที่ปั๊มสัญญลักษณ์ของบริษัทไว้ ก่อนที่จะเริ่มวิ่งเต้นทำธุรกิจ
สำหรับเถ้าแก่ธุรกิจพาร์ตไทม์แล้ว การสร้างเครือข่ายถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการประสบความสำเร็จโดยธุรกิจของคุณจะรุ่งหรือไม่นั้น ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับการรู้จักใช้วิธีพูดจานั่นเอง สำหรับแบรนดท์แล้วเขาใช้วิธีเสนอสิทธิพิเศษต่างๆให้กับลูกค้าที่อ้างถึงชื่อเขาอีกทอดหนึ่งกับร้านค้าต่างๆที่สามารถใช้บริการเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติหรือการให้บริการกาแฟมิลเลอร์กับเมเปิ้ลก็ทำทำนองเดียวกัน
การแนะนำลูกค้าแบบปากต่อปากแม้จะมีข้อดี กระนั้นมันก็สามารถย้อนกลับมาทำร้ายคุณได้เหมือนกัน หากคำพูดนั้นบังเอิญหลุดเข้าถึงหูเจ้านายคุณ มิลเลอร์แนะว่าคุณควรจะกล่าวให้เจ้านายรู้ด้วยตัวของคุณเองเพราะหากเขาได้ยินจากปากของคนอื่น เขาอาจคิดว่าคุณกำลังปกปิดบางสิ่งบางอย่างหรือไม่ก็กำลังหาลำไพ่พิเศษและก็คงไม่ใจดีมากพอที่จะปล่อยให้คุณทำอย่างนั้น เพราะเขาอาจคิดว่าคุณกำลังเบียดเบียนเวลาของบริษัทอยู่
มิลเลอร์ยังแนะต่อว่าคุณควรจะแยกธุรกิจพาร์ตไทม์ออกจากงานประจำอย่างสิ้นเชิง อย่าปล่อยให้มีโทรศัพท์ของงานพาร์ตไทม์หลุดลอดเข้ามาในระหว่างที่คุณทำงานประจำเป็นอันขาด แต่ถึงอย่างไรคุณควรระวังว่า เจ้านายคุณอาจจะสงสัยในเรื่องความจงรักภักดีของคุณ เขาเองก็เป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะฉะนั้นเขาย่อมคิดถึงธุรกิจของตัวเองมาก่อนเสมอ และก็คงตั้งสมมติฐานว่าคุณก็คงคิดอย่างนั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบของการเริ่มต้นธุรกิจพาร์ตไทม์ก็ยังคงมีมากกว่าข้อเสียอยู่ดี ทั้งมิลเลอร์และเมเปิ้ลก็ยังทำงานประจำอยู่และแทนที่จะมัวนั่งพึ่งแต่เงินเดือนประจำอย่างเดียว ตอนนี้ทั้งคู่ก็มีรายได้สองทางและก็มีเงินพอที่จะจ่ายเป็นค่าวัตถุดิบที่ใช้ในงานพาร์ตไทม์
ส่วนแบรนดท์แล้ว เขามองไม่เห็นอะไรมากไปกว่าข้อได้เปรียบในการเริ่มต้นทำธุรกิจพาร์ตไทม์ “มันกระตุ้นผมให้ทำงานอย่างเต็มที่ การเป็นนายตัวเองยังไงๆก็ดีกว่าทำงานให้กับคนอื่นอยู่ดี”
|
|
|
|
|